** โปรดอ่าน! **
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเพราะคนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องของเพลงแม้แต่นิดเดียว
-
[K-POP REVIEW]
GFRIEND - 回: LABYRINTH
Release : 2020/02/03
Genre : synthpop, dance pop
-
ยอจาชินกู (GFRIEND/จีเฟรนด์) หนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จระดับแถวหน้าของวงการ ณ ปัจจุบันแถมยังมีแนวทางเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เป็นของ‘ตัวเอง’โดยไม่ต้องค้นหาหรือเปลี่ยนแปลงอะไรให้มากความ แต่!! ในความคิดส่วนตัวของอั๊วะกับเวลาช่วงกลางปีที่แล้วนั้น...สาวๆดั๊นเผลอไปทำแนวกระแสซัมเมอร์ tropical อย่างเพลง Fever ที่แต่งโดยโปรดิวเซอร์ทีม Oreo (ทีมเก่าของชองฮา) ผลสำเร็จมันก็ได้แค่ติดหูนอกนั้น
สวนทางกับสไตล์+คาแรกเตอร์ชัดเจน กลายเป็นการทดลองเปลี่ยนแปลงที่น่าผิดหวังตัวเพลงไม่ใช่สำหรับวงแม้แต่นิดเดียว
- อย่างน้อยก็ยังดีที่สามารถกลับตัวกลับใจทันไม่ลุ่มหลงกับแนวเพลงกระแสมากเกินไป คัมแบ็คครั้งใหม่มินิอัลบั้มชุดที่แปด ‘
回: LABYRINTH’ ภายใต้ต้นสังกัดเดิมเพิ่มเติม Big Hit Entertainment ที่มาฮุบซื้อหุ้นของค่ายไปร่วมธุรกิจในเครือข่ายของตัวเอง(แต่ไม่ใช่ค่ายย่อยนะ) นอกจากนั้นบิ๊กฮิตยังเข้ามาช่วยเหลือดูแลงานต่างๆนับตั้งแต่งานเพลงที่ดึงเอาโปรดิวเซอร์อย่าง ADORA หรือแม้กระทั่ง‘บัง ชีฮยอก’นักแต่งเพลงที่อยู่ชายคาค่ายมาตั้งแต่สมัยนูกูมาร่วมสมทบในครั้งนี้รวมไปถึงงานส่วนต่างๆ เช่น photoshoot สำหรับอัลบั้มหรือมิวสิควิดีโอด้วยเช่นกัน ก็เรียกว่าเป็นคัมแบ็คที่ทำเอาค่ายหลักของสาวๆแทบจะอยู่นิ่งไม่ต้องขยันอะไรเลยแหละ
- สำหรับ ‘回: LABYRINTH’ คำว่า 回 (huí/หุย) คงมาจากภาษาจีนที่แปลว่ากลับ คอนเซ็ปของอัลบั้มชุดนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราว ‘การกลับเข้าไปไปในเขาวงกตเพื่อแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่ตัวเองได้ทำลงไปที่ไม่รู้ว่าจะมีเส้นทางให้ออกไปได้หรือไม่’
* เพื่อให้เข้าใจในการอ่านบทความมากขึ้น
จะขออนุญาตเรียกชื่อแทร็คที่เหมือนกับชื่ออัลบั้มว่า ‘ไตเติ้ลแทร็ค’ ส่วนเพลงไตเติ้ลหลักจะขอเรียกว่า ‘ซิงเกิ้ลโปรโมท’ แทนเพื่อความถนัดของตัวอั๊วะมากขึ้นด้วย นับตั้งแต่นี้รีวิวนี้เป็นต้นไปนะจ๊ะ😊 *
1. การเริ่มต้นเดินตามแสงสว่างอันแสนไกลดูเหมือนว่าการย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตก็ดันเกิดอุปสรรค์ที่เปรียบเสมือนเขาวงกตที่หาทางออกไปได้ยาก
Labyrinth ไตเติ้ลแทร็คแนวกลิ่นอายความร็อคมันส์ๆ แทร็คนี้นอกจากจะได้ ADORA กับบัง ชีฮยอกมาเสริมทับแล้ว FRANTS โปรดิวเซอร์คู่ใจของซอนมียังร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง ตอนที่ฟังพรีวิวอัลบั้มผิดหวังแฮะเพราะคาดหวังไว้สูงเลยแหละ... เพลงเต็มก็ไม่แย่ติดหูใช้ได้แค่มันยังไม่ดึงดูดอะไรมากมาย
2.
Crossroads ซิงเกิ้ลโปรโมทสตริงซินท์ป็อบซิกเนเจอร์ประจำตัวของวง หลงทางมาถึงสี่แยกที่ต้องตัดสินว่าจะไปทางใดทางหนึ่งเพื่อที่จะได้กลับไปแก้ไขสิ่งที่มันเกิดมาในอดีต ไม่แปลกใจที่เพลงมันสานต่อจาก Time for the moon night กับ Sunrise เพราะคงโปรดิวเซอร์คนเดิมอย่างโน จูฮวานไว้แต่ยังรู้สึกว่าค่อนข้างเบากว่าสองแทร็คไปพอสมควร ชอบสุดของพาร์ทยกให้การใส่กีต้าร์ไฟฟ้าแบบไม่ยั้งมือช่วงท้ายเพลง ถ้าเล่นไลฟ์แบบดนตรีสดคงสะใจไม่น้อน
3.
Here We Are ตัดสินใจเดินทางต่อไปยันสถานที่อันสวยงามเพื่อลบล้างความบาดหมางในใจด้วยการเพิ่มไดนามิกในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์พาร์ทคอรัสอย่างหนักแน่น ใครที่รู้จักหรือคุ้นหูเพลงของทีม e.one ที่ติดกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีจ๋า แทร็คนี้ก็ยังคงแฟนตาซีเหมือนเดิมเพิ่มเติมความป็อบแบบสมัยใหม่มากขึ้น
4. เมื่อความมืดเริ่มเข้าบดบังแสงสว่างมากยิ่งขึ้น
Eclipse แทร็คสไตล์แทงโก้ออเครสต้า อาจจะมีความเรียบๆดูไม่หวือหวามีน้ำหนักที่น้อยกว่าสามแทร็คบนแต่เมโลดี้สวยงามเลยนะ
5. เข้าสู่โหมด dream pop หวานๆ
Dreamcatcher แค่ต้องการตาข่ายดับฝันสักอันที่จะพาให้ออกจากฝันร้ายหรือความมืดมัวที่กำลังเผชิญ ได้ดาอุนนักร้องจากต้นสังกัดแร็ปเปอร์ชื่อดังร่วมโปรดิวซ์เพลงนี้ เป็นความฟุ้งที่ให้กลิ่นอายผสมความ r&b เข้าไปด้วย.. ก็ชอบนะความหมายอบอุ่นดี
6.
From Me แทร็คปิดมินิอัลบั้มที่ส่งมอบให้กับ‘ตัวเอง’แนว alternative pop ballad การปลอบใจที่ดีที่สุดคือการทำให้ตัวเองเข้มแข็งและเป็นตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้าย
- การที่บิ๊กฮิตเข้ามาดูแลงานเพลงของสาวๆในครั้งแรกนั้น... ข้อดีคือการทำให้เนื้องานมันสามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกว่าถูกคั่นกลางระหว่างทางที่กำลังเข้มข้น ทั้งหกแทร็คค่อนข้างที่จะเล่าเรื่องไปในทิศทางเดียวแบบชัดเจนให้ความแตกต่างจากผลงานก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมแม้แต่นิดเดียว เป็นการอัพเกรดสตอรี่ที่จะสื่อสารมันดูมีพลังและน้ำหนักในการเล่าเรื่องมากขึ้นกว่าเดิมบวกกับความเป็นสไตล์สาวซินท์ป็อบของยอจาชินกูอย่างที่บอกไปตอนย่อหน้า intro มันชัดเจนจนไม่ต้องไปปรุงแต่งแนวอื่นให้รู้สึกขัดใจ การยึดมั่นใจแนวทางของตัวเองมันแทบจะเป็นอัตลักษณ์ที่ดีงามด้วยซ้ำแต่ก็ต้องยากมากขึ้นกับการต้องทำให้มันเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ซาวน์ดมีความก้าวกระโดดก็จริงแต่เป็นการก้าวโดดที่ค่อยๆเขยิบไปทีละสเต็ปไม่เร่งรีบหรือย่ำอยู่กับที่จนเกิดอาการเบื่อหน่าย (ยกเว้นไตเติ้ลแทร็คอะนะ) แถมในงานโชว์เคสโซวอนได้ให้สัมภาษณ์ที่บัง ชีฮยอกได้ส่งข้อความถึงสาวๆ(ผ่านทางทีมงาน)ถึงเรื่องแนวเพลงของวงที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ‘
เป็นสเน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร มีเพียงแค่ยอจาชินกูเท่านั้นที่มี’
.
.
“ ฝากเนื้อฝากตัวอย่างเป็นทางการกับบิ๊กฮิตอย่างเต็มรูปแบบ ”
ps.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พยายามอย่างมากและมากที่สุดสำหรับบทความอัลบั้มของยอชิน แอบยากพอสมควรในด้านเนื้อหาเพราะเป็นเนื้อหาที่ไปทางเฉพาะโคตรๆสไตล์บิ๊กฮิตเลยแหละ.. เรียบเรียงอย่างสุดความสามารถในด้านเนื้อหามันคงไม่ได้ตรงซะ100%แบบเป๊ะแต่คัดประโยคให้เข้ากับบทความไว้มากสุด ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วย (7/10)
Beat Tracks: Labyrinth, Eclipse, Dreamcatcher
Recommend Track: Dreamcatcher
ปล. การทำรีวิวทั้งหมดนี้ คนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องแนวเพลงอะไรมากมายเลยสักนิดเดียวใช้ประสบการณ์จากการฟังเพลงล้วนๆ
thank u for reading 🙏
[CR] [#ฉันจะมารีวิว] GFRIEND (여자친구) ‒ ‘回: LABYRINTH’🌻K-POP REVIEW
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเพราะคนเขียนไม่ได้มีความรู้เรื่องของเพลงแม้แต่นิดเดียว
-
[K-POP REVIEW]
GFRIEND - 回: LABYRINTH
Release : 2020/02/03
Genre : synthpop, dance pop
- อย่างน้อยก็ยังดีที่สามารถกลับตัวกลับใจทันไม่ลุ่มหลงกับแนวเพลงกระแสมากเกินไป คัมแบ็คครั้งใหม่มินิอัลบั้มชุดที่แปด ‘回: LABYRINTH’ ภายใต้ต้นสังกัดเดิมเพิ่มเติม Big Hit Entertainment ที่มาฮุบซื้อหุ้นของค่ายไปร่วมธุรกิจในเครือข่ายของตัวเอง(แต่ไม่ใช่ค่ายย่อยนะ) นอกจากนั้นบิ๊กฮิตยังเข้ามาช่วยเหลือดูแลงานต่างๆนับตั้งแต่งานเพลงที่ดึงเอาโปรดิวเซอร์อย่าง ADORA หรือแม้กระทั่ง‘บัง ชีฮยอก’นักแต่งเพลงที่อยู่ชายคาค่ายมาตั้งแต่สมัยนูกูมาร่วมสมทบในครั้งนี้รวมไปถึงงานส่วนต่างๆ เช่น photoshoot สำหรับอัลบั้มหรือมิวสิควิดีโอด้วยเช่นกัน ก็เรียกว่าเป็นคัมแบ็คที่ทำเอาค่ายหลักของสาวๆแทบจะอยู่นิ่งไม่ต้องขยันอะไรเลยแหละ
- สำหรับ ‘回: LABYRINTH’ คำว่า 回 (huí/หุย) คงมาจากภาษาจีนที่แปลว่ากลับ คอนเซ็ปของอัลบั้มชุดนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราว ‘การกลับเข้าไปไปในเขาวงกตเพื่อแก้ไขสิ่งผิดพลาดที่ตัวเองได้ทำลงไปที่ไม่รู้ว่าจะมีเส้นทางให้ออกไปได้หรือไม่’
2. Crossroads ซิงเกิ้ลโปรโมทสตริงซินท์ป็อบซิกเนเจอร์ประจำตัวของวง หลงทางมาถึงสี่แยกที่ต้องตัดสินว่าจะไปทางใดทางหนึ่งเพื่อที่จะได้กลับไปแก้ไขสิ่งที่มันเกิดมาในอดีต ไม่แปลกใจที่เพลงมันสานต่อจาก Time for the moon night กับ Sunrise เพราะคงโปรดิวเซอร์คนเดิมอย่างโน จูฮวานไว้แต่ยังรู้สึกว่าค่อนข้างเบากว่าสองแทร็คไปพอสมควร ชอบสุดของพาร์ทยกให้การใส่กีต้าร์ไฟฟ้าแบบไม่ยั้งมือช่วงท้ายเพลง ถ้าเล่นไลฟ์แบบดนตรีสดคงสะใจไม่น้อน
3. Here We Are ตัดสินใจเดินทางต่อไปยันสถานที่อันสวยงามเพื่อลบล้างความบาดหมางในใจด้วยการเพิ่มไดนามิกในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์พาร์ทคอรัสอย่างหนักแน่น ใครที่รู้จักหรือคุ้นหูเพลงของทีม e.one ที่ติดกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีจ๋า แทร็คนี้ก็ยังคงแฟนตาซีเหมือนเดิมเพิ่มเติมความป็อบแบบสมัยใหม่มากขึ้น
4. เมื่อความมืดเริ่มเข้าบดบังแสงสว่างมากยิ่งขึ้น Eclipse แทร็คสไตล์แทงโก้ออเครสต้า อาจจะมีความเรียบๆดูไม่หวือหวามีน้ำหนักที่น้อยกว่าสามแทร็คบนแต่เมโลดี้สวยงามเลยนะ
5. เข้าสู่โหมด dream pop หวานๆ Dreamcatcher แค่ต้องการตาข่ายดับฝันสักอันที่จะพาให้ออกจากฝันร้ายหรือความมืดมัวที่กำลังเผชิญ ได้ดาอุนนักร้องจากต้นสังกัดแร็ปเปอร์ชื่อดังร่วมโปรดิวซ์เพลงนี้ เป็นความฟุ้งที่ให้กลิ่นอายผสมความ r&b เข้าไปด้วย.. ก็ชอบนะความหมายอบอุ่นดี
6. From Me แทร็คปิดมินิอัลบั้มที่ส่งมอบให้กับ‘ตัวเอง’แนว alternative pop ballad การปลอบใจที่ดีที่สุดคือการทำให้ตัวเองเข้มแข็งและเป็นตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้าย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้