คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
Printer แบบ Inkjet คือ แบบหมึกเหลว
หัวพิมพ์ก็เหมือนเข็มฉีดยาจำนวนมาก
ถ้าใช้งานแล้วก็จะมีหมึกค้างปลายเข็มครับ แล้วแห้งติด อุดปลายเข็ม ครับ
- ใช้บ่อย ๆ ก็จะหลุดไปเอง ไม่ตัน
- ใช้ไม่บ่อย ก็จะแห้งกรัง แต่ยังพอจะใช้คำสั่งล้างหัวพิมพ์ คือฉีดหมึกทิ้งแรง ๆ ได้
- ถ้าปล่อยร้างบ่อย ๆ อันนี้ จะหนักถึงขั้นล้างไม่ออก ก็เปลี่ยนหัวพิมพ์ครับ
ทีนี้ ตลาด Inkjet ก็แบ่งเป็น
A. เครื่องถูกหมึกแพง
B. เครื่องแพง หมึกถูก
กลุ่ม A
ทำไมเครื่องถูก เพราะว่า ในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ครับ หัวพิมพ์อยู่ที่ตัวตลับหมึก
ซึ่งอาจเรียกให้ถูกต้อง คือ "ตลับหัวพิมพ์แถมเศษหมึกนิดหน่อย"
ทำไมหมึกแพง ก็เพราะว่า ตลับที่คุณเรียกว่า "ตลับหมึก" นั้น
แท้จริงแล้วคือ ตลับหัวพิมพ์ แล้วมีแถมหมึกมานิดหน่อย แค่ไม่กี่ CC ครับ
ใช้ไปไม่กี่ร้อยแผ่น ก็หมด
แถมตลับสี ยังเป็นแบบรวม 3 สี คือสีใด สีหนึ่ง หมด ก็... เปลี่ยนยกตลับ ครับ
แต่ข้อดี ของแบบนี้ก็คือ
พอคุณไม่ได้ใช้นาน ๆ หรือใช้ไม่บ่อย ก็............ หัวตัน ครับ เป็นธรรมชาติ ดังที่อธิบายไว้แล้วตอนต้น
แต่ที่บอกว่า ข้อดีก็เพราะ แค่ซื้อตลับหมึก(ตลับหัวพิมพ์) ใหม่ มาเปลี่ยน
คุณก็จะได้หัวพิมพ์ใหม่ทันที ครับ
การเปลี่ยนตลับ ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เปิดฝาก เปิดช่องล็อคตลับ ถอดของเก่า ใส่ตลับใหม่ ปิดตัวล็อค ปิดฝา
เสร็จ
พร้อมที่จะใช้งานเลย
มาดูกลุ่ม B
เครื่องแพง หมึกถูก
คือ หัวพิมพ์จะทน และอยู่ในเครื่อง
แต่หมีกจะราคาถูก เวลาหมึกหมด ก็เติมแค่หมึก
แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ แล้วหัวตัน อันนี้เรื่องใหญ่เลย เพราะเปลี่ยนเองยากมาก
ควรส่งศูนย์ มีค่าใช้จ่าย และ ... เสียโอกาส ที่จะใช้เครื่อง
Laser คือ หมึกผง
ใช้วิธี ยิงเลเซอร์ไปบนลูกกลิ้ง (Drum) แล้วลูกกลิ้งนั้นไปดูดผงหมึก ให้ติดบนลูกกลิ้ง
แล้วไปนาบลงกระดาษ ให้เป็นเนื้อหาตามต้องการ
จากนั้นผ่านการรีดร้อน ออกมาจากเครื่อง
แบบนี้ ไม่มีปัญหา หัวตันครับ
แต่ ค่าหมึกผง จะแพงมาก
(ขอข้าม เครื่อง Dot Matrix หรือแบบกระแทกหัวเข็ม ลงบนผ้าหมึก
เพราะปัจจุบัน ไม่ค่อยใช้กันตามบ้านพักอาศัย
จะใช้กันกับ ร้านค้า ที่ต้องการพิมพ์บิล แบบที่มีสำเนา)
ร่ายมาซะยาว ตามสไตล์ผม
แต่ก็ หวังว่า จะมีโประโยชน์ต่อคุณ บ้าง ไม่มาก ก็น้อย นะครับ
ทีนี้คุณแจ้งว่า
>>> ส่วนเจ้าเครื่อง hp ที่บ้าน หมึก หมด ไว มากก เปลืองมากค่ะ
แสดงว่า เครื่องเก่า มีอยู่แล้ว ไม่ทราบว่า เป็น เลขรุ่นอะไรครับ
แล้ว คุณภาพงานที่ได้มา ถือว่า OK ไหมครับ
เพราะหากว่า เครื่องเก่า เป็น Inkjet แล้วคุณภาพงาน ถือว่ารับได้ ก็จะได้แนะนำเป็น Inkjet ต่อไป
เนื่องจาก หากเป็น Laser Color ก็คงไม่ตรงวัตถุประสงค์ของคุณ
ที่บอกว่า
>>> เพราะขายงานหนังสือที่เป็นสีสันอยู่
>>> ไปปริ๊นที่ร้านแล้วค่าใช้จ่ายค่อยข้างสูง
>>> คุณภาพของภาพก็ไม่ชัดเจนมีแตกอยู่บ้าง
>>> หากซื้งเองน่าจะช่วย save ค่าใช้จ่ายได้บ้าง ส่วนเจ้าเครื่อง hp ที่บ้าน หมึก หมด ไว มากก เปลืองมากค่ะ
นั่นคือ
ต้องการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เอง
และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ในขณะที่เครื่อง HP ที่มีอยู่ คุณมองว่า เปลืองค่าหมึก
ก็ต้องมาดูนั่นล่ะครับ ว่า
คุณคาดหวังค่าหมึกอยู่ที่แบบใด
หากใช้ Laser แบบสี
ค่าหมึก มหาศาลเลย นะครับ
หัวพิมพ์ก็เหมือนเข็มฉีดยาจำนวนมาก
ถ้าใช้งานแล้วก็จะมีหมึกค้างปลายเข็มครับ แล้วแห้งติด อุดปลายเข็ม ครับ
- ใช้บ่อย ๆ ก็จะหลุดไปเอง ไม่ตัน
- ใช้ไม่บ่อย ก็จะแห้งกรัง แต่ยังพอจะใช้คำสั่งล้างหัวพิมพ์ คือฉีดหมึกทิ้งแรง ๆ ได้
- ถ้าปล่อยร้างบ่อย ๆ อันนี้ จะหนักถึงขั้นล้างไม่ออก ก็เปลี่ยนหัวพิมพ์ครับ
ทีนี้ ตลาด Inkjet ก็แบ่งเป็น
A. เครื่องถูกหมึกแพง
B. เครื่องแพง หมึกถูก
กลุ่ม A
ทำไมเครื่องถูก เพราะว่า ในเครื่องไม่มีหัวพิมพ์ครับ หัวพิมพ์อยู่ที่ตัวตลับหมึก
ซึ่งอาจเรียกให้ถูกต้อง คือ "ตลับหัวพิมพ์แถมเศษหมึกนิดหน่อย"
ทำไมหมึกแพง ก็เพราะว่า ตลับที่คุณเรียกว่า "ตลับหมึก" นั้น
แท้จริงแล้วคือ ตลับหัวพิมพ์ แล้วมีแถมหมึกมานิดหน่อย แค่ไม่กี่ CC ครับ
ใช้ไปไม่กี่ร้อยแผ่น ก็หมด
แถมตลับสี ยังเป็นแบบรวม 3 สี คือสีใด สีหนึ่ง หมด ก็... เปลี่ยนยกตลับ ครับ
แต่ข้อดี ของแบบนี้ก็คือ
พอคุณไม่ได้ใช้นาน ๆ หรือใช้ไม่บ่อย ก็............ หัวตัน ครับ เป็นธรรมชาติ ดังที่อธิบายไว้แล้วตอนต้น
แต่ที่บอกว่า ข้อดีก็เพราะ แค่ซื้อตลับหมึก(ตลับหัวพิมพ์) ใหม่ มาเปลี่ยน
คุณก็จะได้หัวพิมพ์ใหม่ทันที ครับ
การเปลี่ยนตลับ ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เปิดฝาก เปิดช่องล็อคตลับ ถอดของเก่า ใส่ตลับใหม่ ปิดตัวล็อค ปิดฝา
เสร็จ
พร้อมที่จะใช้งานเลย
มาดูกลุ่ม B
เครื่องแพง หมึกถูก
คือ หัวพิมพ์จะทน และอยู่ในเครื่อง
แต่หมีกจะราคาถูก เวลาหมึกหมด ก็เติมแค่หมึก
แต่ปัญหาคือ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้ แล้วหัวตัน อันนี้เรื่องใหญ่เลย เพราะเปลี่ยนเองยากมาก
ควรส่งศูนย์ มีค่าใช้จ่าย และ ... เสียโอกาส ที่จะใช้เครื่อง
Laser คือ หมึกผง
ใช้วิธี ยิงเลเซอร์ไปบนลูกกลิ้ง (Drum) แล้วลูกกลิ้งนั้นไปดูดผงหมึก ให้ติดบนลูกกลิ้ง
แล้วไปนาบลงกระดาษ ให้เป็นเนื้อหาตามต้องการ
จากนั้นผ่านการรีดร้อน ออกมาจากเครื่อง
แบบนี้ ไม่มีปัญหา หัวตันครับ
แต่ ค่าหมึกผง จะแพงมาก
(ขอข้าม เครื่อง Dot Matrix หรือแบบกระแทกหัวเข็ม ลงบนผ้าหมึก
เพราะปัจจุบัน ไม่ค่อยใช้กันตามบ้านพักอาศัย
จะใช้กันกับ ร้านค้า ที่ต้องการพิมพ์บิล แบบที่มีสำเนา)
ร่ายมาซะยาว ตามสไตล์ผม
แต่ก็ หวังว่า จะมีโประโยชน์ต่อคุณ บ้าง ไม่มาก ก็น้อย นะครับ
ทีนี้คุณแจ้งว่า
>>> ส่วนเจ้าเครื่อง hp ที่บ้าน หมึก หมด ไว มากก เปลืองมากค่ะ
แสดงว่า เครื่องเก่า มีอยู่แล้ว ไม่ทราบว่า เป็น เลขรุ่นอะไรครับ
แล้ว คุณภาพงานที่ได้มา ถือว่า OK ไหมครับ
เพราะหากว่า เครื่องเก่า เป็น Inkjet แล้วคุณภาพงาน ถือว่ารับได้ ก็จะได้แนะนำเป็น Inkjet ต่อไป
เนื่องจาก หากเป็น Laser Color ก็คงไม่ตรงวัตถุประสงค์ของคุณ
ที่บอกว่า
>>> เพราะขายงานหนังสือที่เป็นสีสันอยู่
>>> ไปปริ๊นที่ร้านแล้วค่าใช้จ่ายค่อยข้างสูง
>>> คุณภาพของภาพก็ไม่ชัดเจนมีแตกอยู่บ้าง
>>> หากซื้งเองน่าจะช่วย save ค่าใช้จ่ายได้บ้าง ส่วนเจ้าเครื่อง hp ที่บ้าน หมึก หมด ไว มากก เปลืองมากค่ะ
นั่นคือ
ต้องการควบคุมคุณภาพงานพิมพ์เอง
และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ในขณะที่เครื่อง HP ที่มีอยู่ คุณมองว่า เปลืองค่าหมึก
ก็ต้องมาดูนั่นล่ะครับ ว่า
คุณคาดหวังค่าหมึกอยู่ที่แบบใด
หากใช้ Laser แบบสี
ค่าหมึก มหาศาลเลย นะครับ
แสดงความคิดเห็น
แนะนำปริ๊นเตอร์ปริ๊นจำนวนเยอะๆหน่อยค่ะ