-------- มาถึงช่วงเรื่องราวของฉัน (เรื่องนี้หามีสาระไม่)
เราชื่อ ลูกเต๋า (โคทเนม) เรียนภาษาจีนอยู่มหาเลยเอกชน มันเกิดขึ้นตอนเราไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไต้หวันช่วงปี 4 (ไปแลกเปลี่ยน 1 ปี)
เราได้เจอกับแฟน เนื่องจากเพื่อนจูงกันไปส่องหนุ่มไต้หวันเล่นบาส ตอนนั้นเราอายุ 22 ปี แฟนอายุ 27 ค่ะ เขาไปหาน้องของเพื่อนเขาที่สนามบาสก็ปริ้งส์กัน(รึเปล่า) ตอนแรกสบตากันเราก็แกล้งหลบๆ (จริงๆอยากมองจะตาย) เขาเป็นคนสูงโปร่งหน้าตาดี(ดีมากจริงๆค่ะ) เราก็สะกิดเพื่อนแบบ เมิงๆ ผู้ชายๆ ซ้ายๆๆ 55555+ เพื่อนก็มองตาม แต่พวกนางบอกว่าไม่ใช่สไตล์ เพราะตี๋เกินไป หน้าตาแบบ หยางๆ(杨洋) เปะๆ สูง 180 ซึ่งเราไม่รู้สึกว่าเขาจะสูงมากมายเพราะเราก็สูง (167)
แล้วเพื่อนก็หันมาถามเราว่า "เอาไงเมิง" เท่านั้นแหละเราก็ลุกพรึบเลยค่ะ รอเขาเดินออกไปจากสนามบาส เราก็เดินตามแบบห่างๆ (ลากเพื่อนมาด้วย) พอเห็นเขาจะขึ้นสกูตเตอร์ ก็รีบชิงวิ่งเข้าไปหา เล่นบทนางเอกเต็มที่ โดยการแกล้งๆทำเป็นอาย (ไม่รู้ว่าที่อยู่บนหน้าเรามันแป้งหรือว่าปูน555)
บอกนางว่า เอ่อ... ขอไลน์หน่อยได้ไหม นางก็อึ้งๆไป สงสัยรุกหนักไปหน่อย 555 แต่นางก็ไม่ได้มีท่าทีเขินอะไรนะ คิดว่านางอาจจะถูกขอไลน์บ่อยๆเลยชินชา แต่ก็แจ๊กพอต เพราะนางก็ให้มาโดยที่ไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลย เสียดายมาก อยากได้ยินเสียง นางให้เสร็จก็ขับสกูตเตอร์ออกไปเลยจ้าาา คนที่อึ้งก็เราเองนี่แหละ เพื่อนที่ดูอยู่ห่างๆก็บอกว่าผู้ชายคนนี้หยิ่งๆ แต่ ไอ ดอนท์ แคร์ เพราะคิดเเล้วว่าจะตกผู้ชายคนนี้ให้ได้
(เราเคยมีแฟนแค่คนเดียว เพราะนิสัยเราค่อนข้างเข้าถึงยาก อารมณ์ร้อน โลกส่วนตัวสูง ผช ที่คุยๆ ก็หนีหมด
ตอนอยู่ไต้หวันก่ะหาแฟนให้ได้เลยไปเล่นแอพหาคู่ คุยไปไม่รู้กี่คนก็ชิ่งกันหมดเลย 55555 บอกว่าเราอารมณ์ร้อน แถมมีแต่พวกก่ะฟันอย่างเดียว เลยลบทิ้งแมร่ง แล้วก็ใช้วิธีส่องเอาจากตามซอกหลืบมหาลัยนี่แหละ เพราะอยากมีแฟนมาก เห็นคู่รักเดินสวีทกันแทบจะเอาหัวโขกกำแพงตาย ซึ่งจุดๆนี้โชคดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรม)
หลังจากได้ไลน์ กลับมาที่หอก็ไม่รอช้า ติ๊งไปเลยค่ะ ส่งสติ๊กเกอร์ไปเซย์ไฮ แต่นางก็ไม่อ่าน คืนนั้นเฟลมากเพราะนางไม่อ่านเลย จนเช้าก็ยังไม่อ่าน จนเราคิดว่าเขาอาจจะให้มาแบบรักษาหน้าเราแค่นั้น แต่คงไม่ตอบ แต่คือมาตอบอีกทีตอนเย็น เรากระโดดโลดเต้นเหมือนถูกหวย บอกเพื่อนกว่า เขาตอบแล้วเมิงๆ
เขาส่งสติ๊กเกอร์มาตอบ เราถามเขาว่าทำอะไรอยู่ แต่ว่า....นางก็ไม่อ่านอีกแล้ว มาอ่านอีกทีเช้าวันถัดมา ที่สำคัญอ่านแล้วไม่ตอบ จ้าาาาาาาา
เราก็ไม่ยอมแพ้ ส่งไปอีก ถามว่าชอบดูหนังไหม ทำไรอยู่ ชอบกินอะไร ซึ่งจะได้คำตอบในอีกวันถัดมา บางตรั้งก็สองวันตอบที เป็นแบบนี้มา 2 อาทิตย์ จนเราตัดสินใจถามเขาไปว่ามีแฟนไหม ถ้าไม่มีไปดูหนังกันไหม ทั้งๆที่แทบจะไม่รู้จักกันเลย ลุ้นอยู่สองวันกส่านางจะอ่าน แต่นางก็ตอบว่าโอเค วันนั้นเราเป็นแม่นางยิ้มทั้งวัน ลากเพื่อนไปซื้อเสื้อผ้าที่ห้าง เมิ่งสือไต้ เรานัดนางไปดูเรื่องเวลนอม รอบเที่ยง โรงหนังแถวๆมหาลัย
วันดูหนัง นางใส่ชุดดำมาทั้งตัวเลย เราก็เห็นแล้วแบบ นี่จะมางานศพใครวว้าาา แต่คนไต้หวันชอบใส่สีหม่นจริงๆ พวกเทา ดำ ขาว และไนกี้อาดีดาสเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ใส่แบรนด์ ใส่เเค่เสื้อยืดธรรม
ับกางเกงยีนส์ดำ เราก็สลิดแกล้งทำเป็นไม่เห็นนาง ทำเป็นมองหา เอ อยู่ไหนน้าาา 5555 เพราะเราอยากให้นางเดินมาทักเราก่อน แล้วก็เป็นไปตามแผน นางมาสะกิดไหล่เรา เราก็ตอบกลับไปว่า อ้าว หนีห่าว 5555 นางก็หนีห่าวเราแล้วก็พากันไปซื้อตั๋ว เรายื่นเงินให้นางไป 500 หยวนไต้หวัน บอกว่าเราเป็นคนชวนมาดูหนัง เดี๋ยวเราเลี้ยง แต่นางก็บอกไม่ต้อง นางก็จ่ายส่วนของนางต่างหาก
เราถามนางว่า กินข้าวมายัง นางก็บอกยัง จะไปกินอะไรก่อนไหม เราก็บอกโอเค แล้วก็พากันไปร้านแมคที่อยู่ตรงข้ามกับโรงหนัง เราบอกเขาว่าเราจะเลี้ยงอาหารเอง นางก็ออกส่วนของนางอีกเหมือนเดิม สรุปคือหารกันของใครของมัน แต่ช่วงที่กินแมคด้วยกัน เราพูดไม่หยุดเลย (เราเป็นคนพูดมาก) เรื่องหนังที่ชอบ เราชอบดูหนัง เธอชอบไหม เคยดูนั่นไหม ชอบการ์ตูนหรือเปล่า จนเขาเริ่มพูดกับเราเยอะขึ้น แถมบอกเราพูดมาก
หนังที่ดูก็ไม่ได้โรแมนติกอะไรเลยยยย เวลนอม บู๊ ยิง กัดหัวขาด... แต่ดูเหมือนนางก็ชอบหนังเรื่องนั้น ขำไม่หยุดเลย เราคิดว่ามันไม่ใช่หนังตลกนะ 5555
พอออกจากโรงหนัง นางก็ดูจะไม่เกร็งๆกับเราแล้ว พูดกับเราเยอะขึ้น เราก็ตัดสินใจบอกนางว่าเราชวนมาดูหนัง รู้ใช่ไหมว่าเรากำลังจีบ เราชอบเธอนะ
นางก็บอกนางรู้ แต่นางขอคิดดูก่อน อูยยยยย หน้าเรานี่ชาของจริง คิดว่าเขาอาจจะกำลังดูๆเราอยู่ แต่ลึกๆเหมือนจะไม่ชอบเรา เพราะคิดว่าเขาหน้าตาดี ผญ สวยๆกว่าเรามาจีบก็คงมีเยอะ เราเลยนั่งซ้อนสกูตเตอร์เขากลับหอ ระหว่างทางเราเงียบมาก เพราะกำลังเสียจายยยยยยย
ตอนลงรถนางเลยถามเราว่าเป็นอะไร เพราะขาไปพูดๆๆๆๆไม่หยุด แต่ขากลับเงียบเป็นผีเลย เราก็บอกเปล่า เราหิวข้าว 5555 อ้างไปมั่ว นางก็บอกว่ามีถนนคนเดิน หรือตลาดกลางคืน ชื่อรุ่ยเฟิง อยากไปไหม เราก็ฟื้นทันที บอก อยากไปๆๆๆๆๆ
เอาละเหวย ชวนไปเที่ยวต่อ แบบนี้ยังมีหวัง 555
ที่รุ่ยเฟิงคนเยอะมากกกกก มีเกมส์หลอกตังเยอะพอสมควร พวกปาโป่งแบบไทยก็มี และมียิงปืน ตกปลา บลาๆ เราบอกนางว่าอยากเล่นโยนห่วง นางก็ยืนดูเราเล่น 100 ต่อรอบ ปลิวไปในพริบตาาาา แล้วก็ลากนางไปเล่นปาโป่ง แต่คือนางไม่ให้เราเล่นอะไรเลย บอกมันเป็นเกมส์หลอกเอาตังค์คนทั้งนั้น อย่าไปเล่นเลย เราก็เออๆ แอบคิดว่านางงกเบาๆ หรือเรามือเติบเอง สรุปคือไปกินหม้อไฟด้วยกัน เราถามนางว่าทำไมไม่มีแฟน หน้าตาก็ดี นางก็ตอบเคยมีแล้วนางก็เปลี่ยนเรื่องไปเลย
เมื่อยมือมาก เดี๋ยวมาต่อนะคะ
Diary 1: เมื่อใบไม้ผลิมาเยือนที่ไต้หวัน
เราชื่อ ลูกเต๋า (โคทเนม) เรียนภาษาจีนอยู่มหาเลยเอกชน มันเกิดขึ้นตอนเราไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไต้หวันช่วงปี 4 (ไปแลกเปลี่ยน 1 ปี)
เราได้เจอกับแฟน เนื่องจากเพื่อนจูงกันไปส่องหนุ่มไต้หวันเล่นบาส ตอนนั้นเราอายุ 22 ปี แฟนอายุ 27 ค่ะ เขาไปหาน้องของเพื่อนเขาที่สนามบาสก็ปริ้งส์กัน(รึเปล่า) ตอนแรกสบตากันเราก็แกล้งหลบๆ (จริงๆอยากมองจะตาย) เขาเป็นคนสูงโปร่งหน้าตาดี(ดีมากจริงๆค่ะ) เราก็สะกิดเพื่อนแบบ เมิงๆ ผู้ชายๆ ซ้ายๆๆ 55555+ เพื่อนก็มองตาม แต่พวกนางบอกว่าไม่ใช่สไตล์ เพราะตี๋เกินไป หน้าตาแบบ หยางๆ(杨洋) เปะๆ สูง 180 ซึ่งเราไม่รู้สึกว่าเขาจะสูงมากมายเพราะเราก็สูง (167)
แล้วเพื่อนก็หันมาถามเราว่า "เอาไงเมิง" เท่านั้นแหละเราก็ลุกพรึบเลยค่ะ รอเขาเดินออกไปจากสนามบาส เราก็เดินตามแบบห่างๆ (ลากเพื่อนมาด้วย) พอเห็นเขาจะขึ้นสกูตเตอร์ ก็รีบชิงวิ่งเข้าไปหา เล่นบทนางเอกเต็มที่ โดยการแกล้งๆทำเป็นอาย (ไม่รู้ว่าที่อยู่บนหน้าเรามันแป้งหรือว่าปูน555)
บอกนางว่า เอ่อ... ขอไลน์หน่อยได้ไหม นางก็อึ้งๆไป สงสัยรุกหนักไปหน่อย 555 แต่นางก็ไม่ได้มีท่าทีเขินอะไรนะ คิดว่านางอาจจะถูกขอไลน์บ่อยๆเลยชินชา แต่ก็แจ๊กพอต เพราะนางก็ให้มาโดยที่ไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลย เสียดายมาก อยากได้ยินเสียง นางให้เสร็จก็ขับสกูตเตอร์ออกไปเลยจ้าาา คนที่อึ้งก็เราเองนี่แหละ เพื่อนที่ดูอยู่ห่างๆก็บอกว่าผู้ชายคนนี้หยิ่งๆ แต่ ไอ ดอนท์ แคร์ เพราะคิดเเล้วว่าจะตกผู้ชายคนนี้ให้ได้
(เราเคยมีแฟนแค่คนเดียว เพราะนิสัยเราค่อนข้างเข้าถึงยาก อารมณ์ร้อน โลกส่วนตัวสูง ผช ที่คุยๆ ก็หนีหมด ตอนอยู่ไต้หวันก่ะหาแฟนให้ได้เลยไปเล่นแอพหาคู่ คุยไปไม่รู้กี่คนก็ชิ่งกันหมดเลย 55555 บอกว่าเราอารมณ์ร้อน แถมมีแต่พวกก่ะฟันอย่างเดียว เลยลบทิ้งแมร่ง แล้วก็ใช้วิธีส่องเอาจากตามซอกหลืบมหาลัยนี่แหละ เพราะอยากมีแฟนมาก เห็นคู่รักเดินสวีทกันแทบจะเอาหัวโขกกำแพงตาย ซึ่งจุดๆนี้โชคดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรม)
หลังจากได้ไลน์ กลับมาที่หอก็ไม่รอช้า ติ๊งไปเลยค่ะ ส่งสติ๊กเกอร์ไปเซย์ไฮ แต่นางก็ไม่อ่าน คืนนั้นเฟลมากเพราะนางไม่อ่านเลย จนเช้าก็ยังไม่อ่าน จนเราคิดว่าเขาอาจจะให้มาแบบรักษาหน้าเราแค่นั้น แต่คงไม่ตอบ แต่คือมาตอบอีกทีตอนเย็น เรากระโดดโลดเต้นเหมือนถูกหวย บอกเพื่อนกว่า เขาตอบแล้วเมิงๆ
เขาส่งสติ๊กเกอร์มาตอบ เราถามเขาว่าทำอะไรอยู่ แต่ว่า....นางก็ไม่อ่านอีกแล้ว มาอ่านอีกทีเช้าวันถัดมา ที่สำคัญอ่านแล้วไม่ตอบ จ้าาาาาาาา
เราก็ไม่ยอมแพ้ ส่งไปอีก ถามว่าชอบดูหนังไหม ทำไรอยู่ ชอบกินอะไร ซึ่งจะได้คำตอบในอีกวันถัดมา บางตรั้งก็สองวันตอบที เป็นแบบนี้มา 2 อาทิตย์ จนเราตัดสินใจถามเขาไปว่ามีแฟนไหม ถ้าไม่มีไปดูหนังกันไหม ทั้งๆที่แทบจะไม่รู้จักกันเลย ลุ้นอยู่สองวันกส่านางจะอ่าน แต่นางก็ตอบว่าโอเค วันนั้นเราเป็นแม่นางยิ้มทั้งวัน ลากเพื่อนไปซื้อเสื้อผ้าที่ห้าง เมิ่งสือไต้ เรานัดนางไปดูเรื่องเวลนอม รอบเที่ยง โรงหนังแถวๆมหาลัย
วันดูหนัง นางใส่ชุดดำมาทั้งตัวเลย เราก็เห็นแล้วแบบ นี่จะมางานศพใครวว้าาา แต่คนไต้หวันชอบใส่สีหม่นจริงๆ พวกเทา ดำ ขาว และไนกี้อาดีดาสเต็มไปหมด แต่เขาไม่ได้ใส่แบรนด์ ใส่เเค่เสื้อยืดธรรมับกางเกงยีนส์ดำ เราก็สลิดแกล้งทำเป็นไม่เห็นนาง ทำเป็นมองหา เอ อยู่ไหนน้าาา 5555 เพราะเราอยากให้นางเดินมาทักเราก่อน แล้วก็เป็นไปตามแผน นางมาสะกิดไหล่เรา เราก็ตอบกลับไปว่า อ้าว หนีห่าว 5555 นางก็หนีห่าวเราแล้วก็พากันไปซื้อตั๋ว เรายื่นเงินให้นางไป 500 หยวนไต้หวัน บอกว่าเราเป็นคนชวนมาดูหนัง เดี๋ยวเราเลี้ยง แต่นางก็บอกไม่ต้อง นางก็จ่ายส่วนของนางต่างหาก
เราถามนางว่า กินข้าวมายัง นางก็บอกยัง จะไปกินอะไรก่อนไหม เราก็บอกโอเค แล้วก็พากันไปร้านแมคที่อยู่ตรงข้ามกับโรงหนัง เราบอกเขาว่าเราจะเลี้ยงอาหารเอง นางก็ออกส่วนของนางอีกเหมือนเดิม สรุปคือหารกันของใครของมัน แต่ช่วงที่กินแมคด้วยกัน เราพูดไม่หยุดเลย (เราเป็นคนพูดมาก) เรื่องหนังที่ชอบ เราชอบดูหนัง เธอชอบไหม เคยดูนั่นไหม ชอบการ์ตูนหรือเปล่า จนเขาเริ่มพูดกับเราเยอะขึ้น แถมบอกเราพูดมาก
หนังที่ดูก็ไม่ได้โรแมนติกอะไรเลยยยย เวลนอม บู๊ ยิง กัดหัวขาด... แต่ดูเหมือนนางก็ชอบหนังเรื่องนั้น ขำไม่หยุดเลย เราคิดว่ามันไม่ใช่หนังตลกนะ 5555
พอออกจากโรงหนัง นางก็ดูจะไม่เกร็งๆกับเราแล้ว พูดกับเราเยอะขึ้น เราก็ตัดสินใจบอกนางว่าเราชวนมาดูหนัง รู้ใช่ไหมว่าเรากำลังจีบ เราชอบเธอนะ นางก็บอกนางรู้ แต่นางขอคิดดูก่อน อูยยยยย หน้าเรานี่ชาของจริง คิดว่าเขาอาจจะกำลังดูๆเราอยู่ แต่ลึกๆเหมือนจะไม่ชอบเรา เพราะคิดว่าเขาหน้าตาดี ผญ สวยๆกว่าเรามาจีบก็คงมีเยอะ เราเลยนั่งซ้อนสกูตเตอร์เขากลับหอ ระหว่างทางเราเงียบมาก เพราะกำลังเสียจายยยยยยย
ตอนลงรถนางเลยถามเราว่าเป็นอะไร เพราะขาไปพูดๆๆๆๆไม่หยุด แต่ขากลับเงียบเป็นผีเลย เราก็บอกเปล่า เราหิวข้าว 5555 อ้างไปมั่ว นางก็บอกว่ามีถนนคนเดิน หรือตลาดกลางคืน ชื่อรุ่ยเฟิง อยากไปไหม เราก็ฟื้นทันที บอก อยากไปๆๆๆๆๆ เอาละเหวย ชวนไปเที่ยวต่อ แบบนี้ยังมีหวัง 555
ที่รุ่ยเฟิงคนเยอะมากกกกก มีเกมส์หลอกตังเยอะพอสมควร พวกปาโป่งแบบไทยก็มี และมียิงปืน ตกปลา บลาๆ เราบอกนางว่าอยากเล่นโยนห่วง นางก็ยืนดูเราเล่น 100 ต่อรอบ ปลิวไปในพริบตาาาา แล้วก็ลากนางไปเล่นปาโป่ง แต่คือนางไม่ให้เราเล่นอะไรเลย บอกมันเป็นเกมส์หลอกเอาตังค์คนทั้งนั้น อย่าไปเล่นเลย เราก็เออๆ แอบคิดว่านางงกเบาๆ หรือเรามือเติบเอง สรุปคือไปกินหม้อไฟด้วยกัน เราถามนางว่าทำไมไม่มีแฟน หน้าตาก็ดี นางก็ตอบเคยมีแล้วนางก็เปลี่ยนเรื่องไปเลย
เมื่อยมือมาก เดี๋ยวมาต่อนะคะ