คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
คนทั่วไปจำนวนมาก หลายคนยังมองว่าเรื่องตลก บางส่วนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะอีกราว 4-5,000 ล้านปี มันนานมากไป
รวมถึงที่มีคนถามว่า ดาราศาสตร์เรียนรู้ทำไม
(ไม่มีใครผิด ใครถูก เพราะบางคน ขอแค่เอาชีวิตให้รอดในสังคม ให้มีข้าวกิน ให้ผ่านวันคืน ไม่ตายภายในไม่กี่ปีนี่ไปก่อน ไม่มีจิตใจ จะไปคิดถึงอนาคตอีกหลายพันล้านปี)
แต่มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากคิดอย่างจขกท. ว่านี่แหละ
ไม่ใช่แค่เรื่องอาทิตยฺ์ดับเรื่องเดียว กลัวอุกกาบาตเข้ามาชน อย่างทฤษฎีไดโนสาร์สูญพันธุ์ด้วย (ไม่ 0-1000 ป่านนี้พัฒนากลายเป็นไดโนอาทิตย์ ครองโลกแล้วมั๊ง)
และที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ไหนจะเกิดก่อนหลัง เพราะทุกอย่าง เป็นการทำนาย ยังมีโอกาสคลาดเคลื่อน
นอกจากอุกกาบาตชนเข้าซักวัน อาทิตย์ดับ สิ้นระบบสุริยะ ยังมีเรื่องการชนกัน หลอมรวมตัวกันกับระบบแอนโดรเมดราอีก ที่คร่าวๆ ราว 4-5 พันล.ปี (ส่วนอาทิตย์ดับ เห็นตัวเลขต่างกันเยอะเหลือเกิน บางแห่งบอก 5 พันล.ปี บางแห่งบอก 7-9 พันล.ปี)
ซึ่งไม่ใครทำนายละเอียดได้ว่า ส่วนไหนจะเฉี่ยวๆ ผ่านไป ส่วนไหนจะชนระเบิดตูมตาม ส่วนไหนจะดึงดูดกันหลอมรวมกัน ... scale มันใหญ่กว่าตัวเรามากมาย เราแค่ผงธุลีแค่นั้น
ในเวลาเดียวกับที่เราลุ้น ก็อาจมี planet อื่น ที่มีสิ่งมีชีวิตได้ลุ้นเหมือนเราด้วย
ถึงมีความพยายามในการคิดไปสำรวจให้ไกลกันอยู่เสมอ (แม้จะไม่ใช่เหตุผลนี้ทั้ง 100%ก็ตาม)
แล้วความคิดการปรับดาวดวงอื่น ให้มีภูมิอากาศอาศัยอยู่ได้ ที่เรียกว่า terraperform
และความพยายามประดิษฐ์ระบบการขับเคลื่อนยานอวกาศ ว่าทำยังไงให้เร็วกว่านี้ บางคนคิดว่าไม่ต้องเท่าความเร็วแสง เพราะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เกินไป แต่ขอให้ได้ซักครึ่ง หรือ 3/4 the Speed of Light ก่อนก็ยังดี
แต่ก็ยังไม่ละเลย ว่าจะ Warp ตามที่มโนแจ่ม และจงจินตนาการกันไว้ไ้ด้ไง
วันนี้ยังฝันอยู่ แต่คนเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ก็ไม่เชื่อ ว่าเราจะบินกันได้ ก็ยังทำได้ล้ว
ถ้าอนาคตอีกหลายพันล้านปี เราไม่มีเทคโนโลยีที่ไปได้กว่านี้ ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยไปตามสัจจธรรม มีเกิด มีดับ
(แต่เราก็ไม่อยากดับ ถึงได้พยายาามดิ้นรนกันก่อน)
รวมถึงที่มีคนถามว่า ดาราศาสตร์เรียนรู้ทำไม
(ไม่มีใครผิด ใครถูก เพราะบางคน ขอแค่เอาชีวิตให้รอดในสังคม ให้มีข้าวกิน ให้ผ่านวันคืน ไม่ตายภายในไม่กี่ปีนี่ไปก่อน ไม่มีจิตใจ จะไปคิดถึงอนาคตอีกหลายพันล้านปี)
แต่มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากคิดอย่างจขกท. ว่านี่แหละ
ไม่ใช่แค่เรื่องอาทิตยฺ์ดับเรื่องเดียว กลัวอุกกาบาตเข้ามาชน อย่างทฤษฎีไดโนสาร์สูญพันธุ์ด้วย (ไม่ 0-1000 ป่านนี้พัฒนากลายเป็นไดโนอาทิตย์ ครองโลกแล้วมั๊ง)
และที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ไหนจะเกิดก่อนหลัง เพราะทุกอย่าง เป็นการทำนาย ยังมีโอกาสคลาดเคลื่อน
นอกจากอุกกาบาตชนเข้าซักวัน อาทิตย์ดับ สิ้นระบบสุริยะ ยังมีเรื่องการชนกัน หลอมรวมตัวกันกับระบบแอนโดรเมดราอีก ที่คร่าวๆ ราว 4-5 พันล.ปี (ส่วนอาทิตย์ดับ เห็นตัวเลขต่างกันเยอะเหลือเกิน บางแห่งบอก 5 พันล.ปี บางแห่งบอก 7-9 พันล.ปี)
ซึ่งไม่ใครทำนายละเอียดได้ว่า ส่วนไหนจะเฉี่ยวๆ ผ่านไป ส่วนไหนจะชนระเบิดตูมตาม ส่วนไหนจะดึงดูดกันหลอมรวมกัน ... scale มันใหญ่กว่าตัวเรามากมาย เราแค่ผงธุลีแค่นั้น
ในเวลาเดียวกับที่เราลุ้น ก็อาจมี planet อื่น ที่มีสิ่งมีชีวิตได้ลุ้นเหมือนเราด้วย
ถึงมีความพยายามในการคิดไปสำรวจให้ไกลกันอยู่เสมอ (แม้จะไม่ใช่เหตุผลนี้ทั้ง 100%ก็ตาม)
แล้วความคิดการปรับดาวดวงอื่น ให้มีภูมิอากาศอาศัยอยู่ได้ ที่เรียกว่า terraperform
และความพยายามประดิษฐ์ระบบการขับเคลื่อนยานอวกาศ ว่าทำยังไงให้เร็วกว่านี้ บางคนคิดว่าไม่ต้องเท่าความเร็วแสง เพราะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เกินไป แต่ขอให้ได้ซักครึ่ง หรือ 3/4 the Speed of Light ก่อนก็ยังดี
แต่ก็ยังไม่ละเลย ว่าจะ Warp ตามที่มโนแจ่ม และจงจินตนาการกันไว้ไ้ด้ไง
วันนี้ยังฝันอยู่ แต่คนเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ก็ไม่เชื่อ ว่าเราจะบินกันได้ ก็ยังทำได้ล้ว
ถ้าอนาคตอีกหลายพันล้านปี เราไม่มีเทคโนโลยีที่ไปได้กว่านี้ ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยไปตามสัจจธรรม มีเกิด มีดับ
(แต่เราก็ไม่อยากดับ ถึงได้พยายาามดิ้นรนกันก่อน)
แสดงความคิดเห็น
อนาคตของมนุษยชาติเมื่อดวงอาทิตย์ดับ
ดูดทุกสิ่งอย่างไป (ถึงแม้จะอีกหลายพันล้านปี)
เลยอยากรู้ว่า...
เราพยายามกันมากที่จะสำรวจจักรวาล เพื่อที่จะต่ออนาคตให้ลูกหลาน
เมื่อวันที่ทรัพยากรในโลกมันไม่พอ จะได้อพยพไปยังดาวเคราะห์อื่นได้
แต่สมมติว่าอีกหลายพันปี มนุษย์สามารถสร้างอาณานิคมออกไปได้แผ่ทั้งทั่วสุริยะจักรวาล
เราก็รู้กันดีว่าสุดท้ายเราก็จะดับสูญไปพร้อมกับดวงอาทิตย์ อย่างงั้นรึเปล่า?
นักวิทยาศาสตร์เค้าจินตนาการทางออกยังไงกับเรื่องนี้บ้างครับ สำหรับรุ่นทายาทเราในอีกหลายหมื่นล้านปีข้างหน้า