ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยได้เล่น pantip หากทำอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะค่ะ
เรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากมุมมองของตัวเราเอง ถ้าใครมีความคิดเห็นต่าง share กันได้นะค่ะ เริ่มกันที่ตัวเรา เรารู้สึกว่ายิ่งพ่อแม่บังคับให้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ชอบเราจะยิ่งต่อต้าน และการต่อต้านนั้นทำให้เรารู้ตัวเองชัดเจนมากขึ้นว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไรกันแนะ เราขอยกตัวอย่างจากตัวเราเองนะ
เหตุการณ์แรกพ่อแม่ตามใจเรา
เราติดมหาลัย 2 ที่ พ่อแม่บอกว่าให้เลือกเรียนอะไรก็ได้ในสิ่งที่ชอบ เรารู้สึกลังเลหนักมาก แบบเลือกไม่ถูก คณะนู้นก็คิดว่าดี คณะนั้นก็ว่าดี จนกระทั่งยืนยันสิทธิ์มหาลัยไปแล้ว ก็ยังรู้สึกลังเลว่าเราเลือกถูกมั้ย
เหตุการณ์ที่สองพ่อแม่ไม่ตามใจเรา
เราอยากไปเรียนภาษาจีน ที่ไต้หวัน ตอนแรกก็ลังเลหนักมากอีกเหมือนเดิม เรากลัวเพราะเราไม่รู้ภาษาจีนมาก่อนเลย แต่พอตอนหลังแม่บอกว่าห้ามไป อย่าไป ด้วยเหตุผลต่างๆนานา มันทำให้เราแน่วแน่กว่าเดิมว่าสักวันหนึ่งเราต้องไปเรียนภาษาที่ไต้หวันให้ได้
สิ่งที่เราอยากจะสื่อคือ เรารู้ว่าเพื่อนหลายๆคนอาจจะต้องเลือกเรียนตามพ่อแม่ แต่ลองคิดมุมกลับกันว่า เสียงคัดค้านจากพ่อแม่ จากภายนอก มันอาจจะทำให้เสียงในใจเราชัดเจนขึ้นก็ได้ ว่าสุดท้ายแล้วเราอยากเรียนอะไร อย่างตัวเราจะว่าโชคดีก็ส่วนหนึ่งที่พอแม่ให้เรียนอะไรก็ได้ แต่มันก็ไม่มีเสียงค้านมาทำให้เราแน่ใจว่า นี่แหละคือคณะที่เราอยากเรียน นี่คือสิ่งที่ใช่แม้คนอื่นจะไม่ชอบก็ตาม เราเลยสับสนว่าเราชอบอะไรกันแน่ บางทีการที่พ่อแม่คัดค้านอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะค่ะ เพราะเราก็เคยอ่านบทความหนึ่งที่เขาต้องเรียนเภสัช แต่การเรียนในสิ่งที่เขาไม่ชอบ มันทำให้เขาค้นพบสิ่งที่ชอบนั้นคือการทำหนังสือ
ข้อดีของการเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ
เรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากมุมมองของตัวเราเอง ถ้าใครมีความคิดเห็นต่าง share กันได้นะค่ะ เริ่มกันที่ตัวเรา เรารู้สึกว่ายิ่งพ่อแม่บังคับให้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ชอบเราจะยิ่งต่อต้าน และการต่อต้านนั้นทำให้เรารู้ตัวเองชัดเจนมากขึ้นว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไรกันแนะ เราขอยกตัวอย่างจากตัวเราเองนะ
เหตุการณ์แรกพ่อแม่ตามใจเรา
เราติดมหาลัย 2 ที่ พ่อแม่บอกว่าให้เลือกเรียนอะไรก็ได้ในสิ่งที่ชอบ เรารู้สึกลังเลหนักมาก แบบเลือกไม่ถูก คณะนู้นก็คิดว่าดี คณะนั้นก็ว่าดี จนกระทั่งยืนยันสิทธิ์มหาลัยไปแล้ว ก็ยังรู้สึกลังเลว่าเราเลือกถูกมั้ย
เหตุการณ์ที่สองพ่อแม่ไม่ตามใจเรา
เราอยากไปเรียนภาษาจีน ที่ไต้หวัน ตอนแรกก็ลังเลหนักมากอีกเหมือนเดิม เรากลัวเพราะเราไม่รู้ภาษาจีนมาก่อนเลย แต่พอตอนหลังแม่บอกว่าห้ามไป อย่าไป ด้วยเหตุผลต่างๆนานา มันทำให้เราแน่วแน่กว่าเดิมว่าสักวันหนึ่งเราต้องไปเรียนภาษาที่ไต้หวันให้ได้
สิ่งที่เราอยากจะสื่อคือ เรารู้ว่าเพื่อนหลายๆคนอาจจะต้องเลือกเรียนตามพ่อแม่ แต่ลองคิดมุมกลับกันว่า เสียงคัดค้านจากพ่อแม่ จากภายนอก มันอาจจะทำให้เสียงในใจเราชัดเจนขึ้นก็ได้ ว่าสุดท้ายแล้วเราอยากเรียนอะไร อย่างตัวเราจะว่าโชคดีก็ส่วนหนึ่งที่พอแม่ให้เรียนอะไรก็ได้ แต่มันก็ไม่มีเสียงค้านมาทำให้เราแน่ใจว่า นี่แหละคือคณะที่เราอยากเรียน นี่คือสิ่งที่ใช่แม้คนอื่นจะไม่ชอบก็ตาม เราเลยสับสนว่าเราชอบอะไรกันแน่ บางทีการที่พ่อแม่คัดค้านอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะค่ะ เพราะเราก็เคยอ่านบทความหนึ่งที่เขาต้องเรียนเภสัช แต่การเรียนในสิ่งที่เขาไม่ชอบ มันทำให้เขาค้นพบสิ่งที่ชอบนั้นคือการทำหนังสือ