เมื่อเดือนมกราคมเข้ามาเยือน ลมหนาวก็เริ่มพัดมาเยือนถิ่นเหนือ
เชียงรายทริปนี้ คงหนีไม่พ้นการหาสถานที่ชิลๆ สัมผัสวิถีล้านนา
จบด้วยการพาตัวเองไปคลายเส้นจากความเหนื่อยล้าด้วยเบียร์ฉ่ำๆ 555

ตรงดิ่งมาที่เรื่อง “เบียร์ฉ่ำๆ”เลยดีกว่า 
จริงๆคืนนี้ก็ไม่คิดว่าจะได้มาดื่มหรือมาหาที่ชิวอะไร
แต่หลังจากมาเดินเล่นที่ “เชียงรายไนท์บาซ่าร์” ซึ่งเป็นตลาดกลางคืนที่เก่าแก่ที่สุดของเชียงราย
ก็อดใจไม่ได้จริงๆที่จะสะดุดตากับอาคารสีขาวหลังใหญ่ ที่ตัดกับบรรยากาศความเป็นล้านนาเก่าแก่ของตลาดไนท์บาซ่าร์ 

สอบถามคนแถวๆนั้น ก็ได้เรื่องว่าเป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างมาสมัยเดียวกับตลาด
เมื่อก่อนเป็นอาคาร “Kodak” ที่คนระแวกนั้นมักจะมาใช้บริการถ่ายรูปด่วนอยู่เป็นประจำ
ตอนนี้เจ้าของอาคารก็นำอาคารมา Renovate ใหม่เอี่ยม อย่างกับสร้างใหม่เลย
ให้ความเป็น Landmark ของใหม่เมือง แต่ยังคงความร่วมสมัย เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อยู่

ออกนอกเรื่องไปไกล 555
รู้ตัวอีกทีก็พาตัวเองขึ้นลิฟต์แก้วมาบนที่ชั้น 5 ของตัวอาคารซะละ
อันนี้ขอนับถือใจเจ้าของร้าน ปกติไปร้านต่างจังหวัดต้องหอบแฮกๆกว่าจะปีนบันได ขึ้นมาบนรูฟท็อปได้
แต่ที่นี่เริ่มต้นด้วยการอำนวยความสะดวกลูกค้า ติดลิฟต์แก้วเลย ถือว่าเยี่ยม
ระหว่างการโดยสารบนลิฟต์ ก็จะได้เห็นวิวเถนนคนเดิน “เชียงรายไนท์บาซ่าร์” ที่เก่าแก่ที่สุดของเชียงราย

มาถึงแล้วชั้น 5
ปรากฏว่า นี่เรายังอยู่ชั้น 4 นี่หว่า 555
ถามจากน้องๆที่ร้าน บอกว่าร้านเพิ่งเปิดใหม่ เจ้าของอยากให้ลูกค้าได้ทราบว่าร้านมีสองโซน 
ชั้นบนเป็นดาดฟ้า (ชั้น 5) ชั้นล่างเป็นดนตรีสด (ชั้น 4)
เลยล็อคให้ลูกค้าเดินผ่านชั้น 4 ไปก่อน 
ทำหน้าเชิดๆเข้าไว้ ที่แคบ ต้องมีฟอร์ม


แว้ปแรกที่ผ่านชั้น 4 รากเกือบงอก เกือบจะอดไปชั้นบน เพราะดนตรีที่ชั้น 4 เพราะจริงๆ
คอดนตรีสดก็จะเข้าใจว่าเจ้าของลงทุนกับเครื่องเสียง และระบบเสียงน่าดู
ทั้งระบบ PA ไมค์ Shure กลอง Pearl ฯลฯ
ถือเป็นร้านต่างจังหวัดที่ทำออกมาได้ดีร้านนึงทีเดียว 
อยู่ตรงนี้บรรยากาศจะคล้ายอยู่ในห้องซ้อม ที่มีนักดนตรีมาแสดงสดให้เราฟังแบบใกล้ชิด
ต่างกันตรงที่มีเบียร์ฉ่ำๆให้จิบระหว่างเขาเล่นไปด้วยนะ



ในที่สุดก็ถึงแล้ว ดาดฟ้าใจกลางเมืองเชียงราย
บรรยากาศก็จะประมาณนี้


อากาศเย็นๆแบบนี้ก็ขอเปิดด้วยอะไรที่มันร้อนแรงเสียหน่อย

แก้วนี้มีชื่อว่า Lamborghini ถือเป็นทีเด็ดของทางร้าน (ตามที่เขาแนะนำ)
แอลกอฮอร์ deepๆ บนเปลวไฟสีฟ้า เข้ากับชื่อร้าน Blu Bar มาก
ต่อด้วยอีกเมนู

Blu Paradise Signature Bucket 
มากันหลายคนก็กะว่าจะแชร์เหล้าถังเสียหน่อย
ปรากฏว่า unexpected เพราะมาเป็น Tower เลย
Tower ก็จะลักษณะคล้ายกับถังน้ำมัน ที่มีตัวกดให้เราเล่นด้วย
ไอเดียดีใช้ได้ เพราะเครื่องดื่มที่ดื่มกันหลายๆคน แต่มีลูกเล่นให้เล่นได้ ได้ทั้งความชิว แฝงความสนุก

กินคู่กับเม็ดมะม่วง และแซลม่อน ถือว่าได้อารมย์อยู่


ดื่มด่ำบรรยากาศรับลมหนาวไปสักพักเริ่มคิดถึงดนตรีชั้นล่างแล้ว
กลับลงไปฟังดนตรีสด 
เด็กแนะนำว่าชื่อวง Chicken Space เป็นวงดังของที่นี่ (?)
ดนตรีก็จะเป็นแนว pop ผสมกับร็อคนิดๆ เล่นเพลงป็อปทั่วไปยุคนี้ ผสมกับเพลงดังยุคสัก 90/2000 ออกมาได้เนียนทันสมัยมาก
ระหว่างฟังก็จบท้ายด้วยเมนูนี้ 
“เบียร์สด”
ที่รอคอย 5555

โดยรวมถือว่าบรรยากาศดี เครื่องดื่มอร่อย
ที่สำคัญคือราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับบรรยากาศ
เครื่องดื่มมีราคาตั้งแต่ 70 บาท ไปจนถึงสองร้อยกว่าบาท
อาหารก็ 80 กว่าบาทไปจนถึงหลักร้อยเหมือนกัน
ร้านเปิด 18:00 ถึงเที่ยงคืน
ถ้าไปช่วง 18:00-19:00 พระอาทิตย์ตกดินน่าจะกำลังสวยเลย
จอดรถก็ไม่ยากนะ จอดที่สถานีขนส่ง  (Downtown) อยู่ติดกับไนท์บาซ่าร์ ที่จอดเหลือเฟือมาก 
พอแค่นี้ก่อน เชียงรายทริปนี้ยังอีกยาวไกล ไปต่อกันที่อื่นในกระทู้หน้า 😊