สวัสดีค่ะ
วันนี้เราขอแชร์วิธีการและitemที่ใช้ในการดูแลผิวลูกนะคะ
(อิงจากคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังเด็กชื่อดังท่านนึงนะคะ)
ขอเล่าย้อนก่อนว่าเราเลี้ยงลูกมาจน2ขวบนิดๆไม่เคยคิดว่าลูกแพ้ง่ายเลย นอกจากเวลาโดนยุงกัดจะบวมแดงและทิ้งรอยดำไว้ (แต่นานๆจะโดนกัดซักตุ่มนึง เลยไม่ได้กังวลมาก)
จนมีช่วงนึงพาลูกไปอยู่บ้านตายายที่ตจว. ผ่านไปหลายวันลูกมีจุดแดงเล็กๆขึ้นที่แขน เราก็ทายาสเตียรอยด์ และให้ทานยาแก้แพ้3-4วันก็ไม่หาย แถมเริ่มไปที่แขนอีกข้าง พอ2-3วันต่อมาผื่นเริ่มมาที่ขา2ข้าง พอกลับมากรุงเทพฯ เราเลยรีบพาไปหาหมอผิวหนังเด็กที่รพ.ชื่อดังแห่งนึง กลับมาทายาและทานยาตามหมอสั่งก็ไม่ดีขึ้น อาทิตย์ต่อมาเราก็พาไปหาหมอท่านอื่นอีก รวมทั้งหมด4ท่าน กับเวลา3เดือนกว่าๆทั้งทายา ทานยา อยู่หลายตัว
เริ่มจากจุดแดงๆ มาเป็นผื่นเม็ดแดงๆเล็กๆกระจายตัวกันเฉพาะที่แขนและขา
แล้วก็กลายเป็นปื้นแดงๆ หนาๆ จนผ่านไปเกือบ3เดือนก็กลายเป็นเม็ดผื่นสีน้ำตาลอ่อนๆ เวลาลูบไปจะรู้สึกว่าผิวสากๆ
และไม่แน่ใจว่าด้วยระยะเวลาของโรคหรืออะไรก็ตาม จนเรามาเจอหมอท่านที่4 ซึ่งจองคิวล่วงหน้าเป็นเดือน เรากลับมาทำตามคำแนะนำของหมอไม่ถึงสัปดาห์ลูกเราหาย กลับมามีผิวเรียบเนียนเหมือนเดิม และจนตอนนี้ผ่านมา5เดือนแล้ว ลูกเราก็ไม่เคยมีผื่นอีกเลย(ยกเว้นเวลายุงกัด จะบวมแดง และมีตุ่มน้ำเล็กขึ้นอยู่บนตุ่มแดงด้วย)
(ขอโทษที่เล่ายาวนะคะ)
สรุปหมอบอกว่าลูกเราเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็จะแพ้ง่ายและผิวแห้งกว่าเด็กปกติ ถ้าดูแลถูกวิธี ผิวจะแข็งแรงขึ้นเอง
เราคิดว่าคงมีแม่ๆหลายท่านที่มีลูกผิวแพ้ง่ายเหมือนลูกเรา
เราเลยอยากแชร์สิ่ง ที่คุณหมอแนะนำให้ทำ เผื่อแม่ๆอาจนำไปใช้ได้นะคะ
1.หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและเย็นเกินไป โดยเฉพาะอากาศร้อนทำให้เหงื่ออก อับชื้น จะทำให้เป็นผื่นง่าย(หรือถ้าเป็นอยู่แล้วจะทำให้ยิ่งเป็นมากขึ้นนะคะ)
2.ในเด็กที่อายุน้อยกว่า4ขวบ ไม่ควรลงสระว่ายน้ำ ไม่ควรเล่นทราย
3.งดใช้แอลกอฮอล์เจล และโฟมล้างมือ ให้ใช่แค่น้ำเปล่า(ถ้าจำเป็นให้ใช้สบู่เด็กธรรมดาล้าง)
4.ไม่อาบน้ำอุ่น ให้อาบน้ำอุณหภูมิห้อง และไม่แช่น้ำ อาบเสร็จพาไปเช็ดตัวเลยค่ะ
และไม่ต้องใช้สบู่ ไม่ขัดถูตัวด้วยผ้าหรือฟองน้ำค่ะ ให้อาบน้ำเปล่าอย่างเดียว (ยกเว้นถ้าวันไหนสกปรกมากให้ใช้สบู่เด็กถูเฉพาะที่สกปรก) แต่สระผมได้ตามปกตินะคะ
5.อาบน้ำเสร็จ ให้รีบเช็ดตัวให้หมาด แล้วรีบทาโลชั่นบำรุงผิวภายใน3นาที จะได้ผลที่สุดค่ะ **ทาหน้า-แขน-พุง-ขา เท่านั้น
ส่วนปริมาณก็กะเอาตามสภาพอากาศแต่ละวันค่ะ
(ถ้าช่วงไหนมีผื่นแดง แพ้ ก็ทายาก่อนแล้วตามด้วยโลชั่น)
ส่วนวิธีการดูแลเวลาลูกโดนยุงกัด
อย่างที่บอกไว้ว่าลูกเราแพ้ง่ายเวลาโดนยุงกัด ลูกเราจะบวมแดงและมีตุ่มน้ำใสๆขึ้น (เรียกว่าskeeter syndrome) หมอบอกว่าถือว่าเป็นอาการแพ้มากๆ วิธีการดูแลคือ
-ให้รีบล้างน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แล้วทายาสเตียรอยด์ เสร็จแล้วแปะพลาสเตอร์ ป้องกันไม่ให้เกา
พอหลังจากตุ่มยุงกัดยุบลงก็จะทิ้งรอยดำไว้หลายเดือน แต่โลชั่นบำรุงผิวที่หมอแนะนำให้ลูกเราใช้ มันมีvitamin B3 ช่วยให้รอยจางอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้กังวลมาก
เรื่องรอยดำหมออธิบายว่ามี3ข้อนะคะ สำหรับเด็กที่จะเป็นรอยดำหลังยุงกัด
1.เด็กแพ้ง่ายแบบลูกเรา คือหลังยุบบวม ทิ้งรอยแน่นอน
2.เด็กที่เกา ก็จะมีโอกาศสูงที่จะเป็นรอยดำ
3.พ่อแม่ขาลาย เด็กก็จะได้กรรมพันธุ์ไปด้วยค่ะ
(ขอโทษด้วยที่อาจจะยาวหน่อย หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์นะคะ)
ปล.เดี๋ยวเราใส่รูปไว้ในคอมเม้นต์ให้นะคะ ถ้าใครมีคำถามหรือคำแนะนำไรเพิ่มเติม เรายินดีนะคะ
ลูกผิวแพ้ง่าย...ดูแลอย่างไรดี
วันนี้เราขอแชร์วิธีการและitemที่ใช้ในการดูแลผิวลูกนะคะ
(อิงจากคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังเด็กชื่อดังท่านนึงนะคะ)
ขอเล่าย้อนก่อนว่าเราเลี้ยงลูกมาจน2ขวบนิดๆไม่เคยคิดว่าลูกแพ้ง่ายเลย นอกจากเวลาโดนยุงกัดจะบวมแดงและทิ้งรอยดำไว้ (แต่นานๆจะโดนกัดซักตุ่มนึง เลยไม่ได้กังวลมาก)
จนมีช่วงนึงพาลูกไปอยู่บ้านตายายที่ตจว. ผ่านไปหลายวันลูกมีจุดแดงเล็กๆขึ้นที่แขน เราก็ทายาสเตียรอยด์ และให้ทานยาแก้แพ้3-4วันก็ไม่หาย แถมเริ่มไปที่แขนอีกข้าง พอ2-3วันต่อมาผื่นเริ่มมาที่ขา2ข้าง พอกลับมากรุงเทพฯ เราเลยรีบพาไปหาหมอผิวหนังเด็กที่รพ.ชื่อดังแห่งนึง กลับมาทายาและทานยาตามหมอสั่งก็ไม่ดีขึ้น อาทิตย์ต่อมาเราก็พาไปหาหมอท่านอื่นอีก รวมทั้งหมด4ท่าน กับเวลา3เดือนกว่าๆทั้งทายา ทานยา อยู่หลายตัว
เริ่มจากจุดแดงๆ มาเป็นผื่นเม็ดแดงๆเล็กๆกระจายตัวกันเฉพาะที่แขนและขา
แล้วก็กลายเป็นปื้นแดงๆ หนาๆ จนผ่านไปเกือบ3เดือนก็กลายเป็นเม็ดผื่นสีน้ำตาลอ่อนๆ เวลาลูบไปจะรู้สึกว่าผิวสากๆ
และไม่แน่ใจว่าด้วยระยะเวลาของโรคหรืออะไรก็ตาม จนเรามาเจอหมอท่านที่4 ซึ่งจองคิวล่วงหน้าเป็นเดือน เรากลับมาทำตามคำแนะนำของหมอไม่ถึงสัปดาห์ลูกเราหาย กลับมามีผิวเรียบเนียนเหมือนเดิม และจนตอนนี้ผ่านมา5เดือนแล้ว ลูกเราก็ไม่เคยมีผื่นอีกเลย(ยกเว้นเวลายุงกัด จะบวมแดง และมีตุ่มน้ำเล็กขึ้นอยู่บนตุ่มแดงด้วย)
(ขอโทษที่เล่ายาวนะคะ)
สรุปหมอบอกว่าลูกเราเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ก็จะแพ้ง่ายและผิวแห้งกว่าเด็กปกติ ถ้าดูแลถูกวิธี ผิวจะแข็งแรงขึ้นเอง
เราคิดว่าคงมีแม่ๆหลายท่านที่มีลูกผิวแพ้ง่ายเหมือนลูกเรา
เราเลยอยากแชร์สิ่ง ที่คุณหมอแนะนำให้ทำ เผื่อแม่ๆอาจนำไปใช้ได้นะคะ
1.หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและเย็นเกินไป โดยเฉพาะอากาศร้อนทำให้เหงื่ออก อับชื้น จะทำให้เป็นผื่นง่าย(หรือถ้าเป็นอยู่แล้วจะทำให้ยิ่งเป็นมากขึ้นนะคะ)
2.ในเด็กที่อายุน้อยกว่า4ขวบ ไม่ควรลงสระว่ายน้ำ ไม่ควรเล่นทราย
3.งดใช้แอลกอฮอล์เจล และโฟมล้างมือ ให้ใช่แค่น้ำเปล่า(ถ้าจำเป็นให้ใช้สบู่เด็กธรรมดาล้าง)
4.ไม่อาบน้ำอุ่น ให้อาบน้ำอุณหภูมิห้อง และไม่แช่น้ำ อาบเสร็จพาไปเช็ดตัวเลยค่ะ
และไม่ต้องใช้สบู่ ไม่ขัดถูตัวด้วยผ้าหรือฟองน้ำค่ะ ให้อาบน้ำเปล่าอย่างเดียว (ยกเว้นถ้าวันไหนสกปรกมากให้ใช้สบู่เด็กถูเฉพาะที่สกปรก) แต่สระผมได้ตามปกตินะคะ
5.อาบน้ำเสร็จ ให้รีบเช็ดตัวให้หมาด แล้วรีบทาโลชั่นบำรุงผิวภายใน3นาที จะได้ผลที่สุดค่ะ **ทาหน้า-แขน-พุง-ขา เท่านั้น
ส่วนปริมาณก็กะเอาตามสภาพอากาศแต่ละวันค่ะ
(ถ้าช่วงไหนมีผื่นแดง แพ้ ก็ทายาก่อนแล้วตามด้วยโลชั่น)
ส่วนวิธีการดูแลเวลาลูกโดนยุงกัด
อย่างที่บอกไว้ว่าลูกเราแพ้ง่ายเวลาโดนยุงกัด ลูกเราจะบวมแดงและมีตุ่มน้ำใสๆขึ้น (เรียกว่าskeeter syndrome) หมอบอกว่าถือว่าเป็นอาการแพ้มากๆ วิธีการดูแลคือ
-ให้รีบล้างน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แล้วทายาสเตียรอยด์ เสร็จแล้วแปะพลาสเตอร์ ป้องกันไม่ให้เกา
พอหลังจากตุ่มยุงกัดยุบลงก็จะทิ้งรอยดำไว้หลายเดือน แต่โลชั่นบำรุงผิวที่หมอแนะนำให้ลูกเราใช้ มันมีvitamin B3 ช่วยให้รอยจางอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้กังวลมาก
เรื่องรอยดำหมออธิบายว่ามี3ข้อนะคะ สำหรับเด็กที่จะเป็นรอยดำหลังยุงกัด
1.เด็กแพ้ง่ายแบบลูกเรา คือหลังยุบบวม ทิ้งรอยแน่นอน
2.เด็กที่เกา ก็จะมีโอกาศสูงที่จะเป็นรอยดำ
3.พ่อแม่ขาลาย เด็กก็จะได้กรรมพันธุ์ไปด้วยค่ะ
(ขอโทษด้วยที่อาจจะยาวหน่อย หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์นะคะ)
ปล.เดี๋ยวเราใส่รูปไว้ในคอมเม้นต์ให้นะคะ ถ้าใครมีคำถามหรือคำแนะนำไรเพิ่มเติม เรายินดีนะคะ