10 หนังเจ๊งที่สุดของปี 2019 เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์


คำอธิบายเนื้อหากระทู้
แบบย่อๆ
1. กระทู้นี้ จัดอันดับหนังเจ๊งเป็นเปอร์เซ็นต์รายได้เมื่อเทียบกับทุนสร้าง ไม่ใช่เป็นจำนวนเงิน
2. กระทู้นี้ เรามีความเชื่อที่ว่า รายได้หนังต้องแบ่งให้โรงหนังครึ่งหนึ่ง
แบบยาวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


อ้าวมาเริ่มกันนะ


อันดับที่ 10 Cats
รายได้ 58.4 ล้าน USD ทุนสร้าง 95 ล้าน USD
รายได้ 61% ของทุนสร้าง หนังขาดทุนไป 65.8 ล้าน USD


เนื้อเรื่องย่อ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนนในเว็บ Rotten Tomatoes และ IMDb


เพิ่มเติม
เดิมทีค่ายหนังตั้งใจจะทำภาพยนตร์เป็นแอนิเมชันก่อนที่จะได้ ทอม ฮูเปอร์ มาเป็นผู้กำกับ 
(เจ้าของรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง The King′s Speech 
และ ยังเคยกำกับภาพยนตร์เพลงเรื่อง Les Misérables อีกด้วย) โดยหนังถูกเปลี่ยนเป็นคนแสดงและใช้ CGI ทั้งเรื่อง
ซึ่งมันไม่เป็นที่ตอบรับกับคนดู อีกทั้งบทหนังยังไม่เป็นที่ถูกใจของนักวิจารณ์ แม้ตัวหนังจะได้หนังแสดงชั้นนำหลายท่าน และ ยังได้นักร้องสาว เทย์เลอร์ สวิฟต์ มาร่วมแสดงด้วย ก็ไม่สามารถช่วยทำให้หนังเรื่องนี้ไม่เจ๊งได้




อันดับที่ 9 Serenity
รายได้ 14.4 ล้าน USD ทุนสร้าง 25 ล้าน USD
รายได้ 58% ของทุนสร้าง หนังขาดทุนไป 17.8 ล้าน USD


เนื้อเรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนนในเว็บ Rotten Tomatoes และ IMDb


เพิ่มเติม
หนังได้นักแสดงนำระดับแม่เหล็ก และดีกรีเจ้าของรางวัลออสการ์ทั้งคู่อย่าง แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ และ แอนน์ แฮททาเวย์
ก็ไม่ได้ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้ มีรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของทุนสร้างเท่าไหร่นัก ซึ่งปี 2019 คงไม่ใช่ปีของ แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ เพราะหนังอีกเรื่องที่เขาเล่นในปี 2019 อย่าง The Beach Bum ก็ไม่สามารถทำรายได้มากกว่าทุนสร้างได้ โดยหนังเรื่อง The Beach Bum ทำรายได้ 4.6 ล้าน USD จากทุนสร้าง 5 ล้าน USD




อันดับที่ 8 The Kid Who Would Be King
รายได้ 32.1 ล้าน USD ทุนสร้าง 59 ล้าน USD
รายได้ 54% ของทุนสร้าง หนังขาดทุนไป 42.95 ล้าน USD


เนื้อเรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนนในเว็บ Rotten Tomatoes และ IMDb


เพิ่มเติม
เป็นหนังสองเรื่องสุดท้ายที่จัดจำหน่าย โดย 20th Century Fox ในปี 2019 ก่อนที่ Walt Disney จะเข้ามาซื้อกิจการไปใน วันที่ 20 มีนาคม 2019 (หนังเรื่องสุดท้ายที่จัดจำหน่าย โดย 20th Century Fox คือ Alita: Battle Angel) ซึ่งหนังเรื่องนี้ ประมาณการว่า น่าจะขาดทุนกว่า 50 ล้าน USD ขึ้นไป ซึ่งรายได้หนังสวนทางกับคำวิจารณ์ที่ได้เป็นเชิงบวกมาก (หนังได้รับ Certified Fresh ที่ 89% จาก Rotten Tomatoes)




อันดับที่ 7 Tolkien
รายได้ 9 ล้าน USD ทุนสร้าง 20 ล้าน USD
รายได้ 45% ของทุนสร้าง หนังขาดทุนไป 15.5 ล้าน USD


เนื้อเรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนนในเว็บ Rotten Tomatoes และ IMDb


เพิ่มเติม
The Lord of the Rings 3 ภาค ทุนสร้าง 281 ล้าน USD รายได้ 2,921 ล้าน USD The Hobbit 3 ภาค ทุนสร้าง 745 ล้าน USD รายได้ 2,931 ล้าน USD เรียกได้ว่าหนังแฟรนไชส์ The Lord of the Rings ไม่ว่าสร้างมากี่ภาคก็จะทำกำไรมหาศาล ซึ่งหนังแฟรนไชส์ชุดนี้ก็สร้างแฟนและสาวกได้เป็นจำนวนมาก แต่แฟนและสาวกเหล่านั้นกลับไม่สนใจหนังอัตชีวประวัติผู้ให้กำเนิด The Lord of the Rings เสียอย่างนั้น ทำให้หนังทำรายได้ไม่ถึงแม้กระทั่งครึ่งหนึ่งของทุนสร้าง และ ปี 2019 ก็ไม่ใช่ปีของ นิโคลัส ฮอลท์ นักแสดงนำของเรื่องอีกเช่นกัน เพราะหนังอีกเรื่องที่เขาเล่นในปี 2019 เรื่อง X-Men: Dark Phoenix แม้รายได้หนังจะมากกว่าทุนสร้าง แต่ก็ประมาณการว่า หนังน่าจะขาดทุนถึงระดับ 100 กว่าล้าน USD




อันดับที่ 6 Captive State
รายได้ 8.8 ล้าน USD ทุนสร้าง 25 ล้าน USD
รายได้ 35% ของทุนสร้าง หนังขาดทุนไป 20.6 ล้าน USD


เนื้อเรื่องย่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวอย่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คะแนนในเว็บ Rotten Tomatoes และ IMDb


เพิ่มเติม
หนังได้ รูเพิร์ท ไวแอ็ตต์ คนที่เคยกำกับหนังเรื่อง Rise of the Planet of the Apes มาเป็นผู้กำกับ หลังจากเจ้าตัวหายไปจากงานกำกับหนังถึง 4 ปีกว่าๆ โดยหนังเรื่องสุดท้ายที่เขากำกับคือ เรื่อง The Gambler (มาร์ค วาห์ลเบิร์ก แสดงนำ) ที่ตัวหนังนั้นเจ๊งทั้งรายได้และคำวิจารณ์ และการกลับมากำกับหนังครั้งนี้ของเขา หนังก็เจ๊งทั้งรายได้และคำวิจารณ์เหมือนเดิม แถมรายได้หนังเจ๊งหนักกว่าเก่าเสียด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่