ฉีดสิวช่วยอะไรอันตรายมั้ย
หมอยุ้ยมีคำตอบให้ค่ะ
Q: ยาที่ใช้สำหรับฉีดสิว คืออะไร
A: เป็นสเตียรอยด์ชนิดสำหรับฉีด ใช้ฉีดเข้าไปในสิว (intralesional injection) เพื่อลดการอักเสบ ทำให้สิวยุบลง
Q: สิวแบบไหนที่เหมาะกับการฉีดสิว
A: - สิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตร
- สิวอักเสบแบบซีสต์ (ก้อนๆ)
- สิวหัวช้าง
ให้หลีกเลี่ยงการฉีดสิวที่อยู่รอบๆจมูกหรือหัวคิ้ว
Q: ข้อดีของวิธีนี้ คือ
A: 1. ราคาไม่แพง ทำได้ง่าย รวดเร็ว
2. คนไข้มักจะชอบ เพราะ สิวยุบเร็วมาก ใน 1-3 วัน
3. ปลอดภัย แต่ต้องฉีดโดยแพทย์ เพราะไม่ได้เหมาะกับสิวทุกประเภท (ต้องเลือกเป็นว่าสิวแบบไหนที่จะฉีดแล้วได้ผลดี) และต้องใช้ความเข้มข้นและปริมาณของยาที่พอดี ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
4. ผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการกินยาสเตียรอยด์ เพราะการฉีดสิว โอกาสที่ยาจะดูดซึมเข้ากระแสเลือดจะน้อยกว่าการกินยา
Q: ข้อเสียก็มีนะ
A: 1. ถ้าฉีดปริมาณเยอะไป เช่น ฉีดหลายๆจุด ฉีดบ่อยเกิน ยาก็สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เหมือนกัน
2. ผลข้างเคียง มีได้ เช่น เจ็บ, ฉีดแล้วผิวบุ๋มหรือเป็นหลุมยุบลงไป, เกิดรอยขาวตรงบริเวณที่ฉีดโดยเฉพาะคนผิวคล้ำจะเห็นชัด, ผิวติดสเตียรอยด์ได้ถ้าฉีดบ่อยเกิน, เกิดเส้นเลือดฝอยขยายตรงที่ฉีด, ถ้าผสมยาไม่เข้ากันทำให้เห็นเป็นตะกอนยาค้างอยู่ใต้ผิว 😰😥😱
Q: ฉีดสิวอันตรายมั้ย
A: จริงๆการฉีดสิวสามารถทำได้ และถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยถ้าทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ
ซึ่งได้ผลดีมากโดยเฉพาะกับสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ สิวซีสต์ สิวหัวช้าง เพื่อลดการอักเสบของสิวตรงนั้นให้เร็วที่สุด ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูนจากสิวได้ด้วย
สรุป 📚
- ฉีดสิวได้ แต่ไม่ควรฉีดพร่ำเพรื่อ ฉีดบ่อย มีสิวนิดนึงก็ไปฉีด หรือฉีดสิวที่ไม่อักเสบ/สิวอักเสบแต่ขนาดเล็กๆ นอกจากไม่ได้ประโยชน์แล้วยังมีผลข้างเคียงตามมาได้ค่ะ
- ฉีดสิวอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบของการรักษาสิว เพราะ เป็นเพียงการรักษาเฉพาะที่ ไม่ได้แก้ที่ต้นตอหรือสาเหตุ ถ้าสิวอักเสบมากๆ เช่น สิวหัวช้าง นอกจากฉีดสิวแล้วต้องกินยา และทายาต่อด้วยนะคะ
Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว ❤️
Reference
1. Dermatol Surg 2007;33:1005–1026.
2. J Am Acad Dermatol 2014;71:e127-8.
ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการฉีดสิว
ฉีดสิวช่วยอะไรอันตรายมั้ย
หมอยุ้ยมีคำตอบให้ค่ะ
Q: ยาที่ใช้สำหรับฉีดสิว คืออะไร
A: เป็นสเตียรอยด์ชนิดสำหรับฉีด ใช้ฉีดเข้าไปในสิว (intralesional injection) เพื่อลดการอักเสบ ทำให้สิวยุบลง
Q: สิวแบบไหนที่เหมาะกับการฉีดสิว
A: - สิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตร
- สิวอักเสบแบบซีสต์ (ก้อนๆ)
- สิวหัวช้าง
ให้หลีกเลี่ยงการฉีดสิวที่อยู่รอบๆจมูกหรือหัวคิ้ว
Q: ข้อดีของวิธีนี้ คือ
A: 1. ราคาไม่แพง ทำได้ง่าย รวดเร็ว
2. คนไข้มักจะชอบ เพราะ สิวยุบเร็วมาก ใน 1-3 วัน
3. ปลอดภัย แต่ต้องฉีดโดยแพทย์ เพราะไม่ได้เหมาะกับสิวทุกประเภท (ต้องเลือกเป็นว่าสิวแบบไหนที่จะฉีดแล้วได้ผลดี) และต้องใช้ความเข้มข้นและปริมาณของยาที่พอดี ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง
4. ผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการกินยาสเตียรอยด์ เพราะการฉีดสิว โอกาสที่ยาจะดูดซึมเข้ากระแสเลือดจะน้อยกว่าการกินยา
Q: ข้อเสียก็มีนะ
A: 1. ถ้าฉีดปริมาณเยอะไป เช่น ฉีดหลายๆจุด ฉีดบ่อยเกิน ยาก็สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เหมือนกัน
2. ผลข้างเคียง มีได้ เช่น เจ็บ, ฉีดแล้วผิวบุ๋มหรือเป็นหลุมยุบลงไป, เกิดรอยขาวตรงบริเวณที่ฉีดโดยเฉพาะคนผิวคล้ำจะเห็นชัด, ผิวติดสเตียรอยด์ได้ถ้าฉีดบ่อยเกิน, เกิดเส้นเลือดฝอยขยายตรงที่ฉีด, ถ้าผสมยาไม่เข้ากันทำให้เห็นเป็นตะกอนยาค้างอยู่ใต้ผิว 😰😥😱
Q: ฉีดสิวอันตรายมั้ย
A: จริงๆการฉีดสิวสามารถทำได้ และถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยถ้าทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ
ซึ่งได้ผลดีมากโดยเฉพาะกับสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ สิวซีสต์ สิวหัวช้าง เพื่อลดการอักเสบของสิวตรงนั้นให้เร็วที่สุด ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูนจากสิวได้ด้วย
สรุป 📚
- ฉีดสิวได้ แต่ไม่ควรฉีดพร่ำเพรื่อ ฉีดบ่อย มีสิวนิดนึงก็ไปฉีด หรือฉีดสิวที่ไม่อักเสบ/สิวอักเสบแต่ขนาดเล็กๆ นอกจากไม่ได้ประโยชน์แล้วยังมีผลข้างเคียงตามมาได้ค่ะ
- ฉีดสิวอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบของการรักษาสิว เพราะ เป็นเพียงการรักษาเฉพาะที่ ไม่ได้แก้ที่ต้นตอหรือสาเหตุ ถ้าสิวอักเสบมากๆ เช่น สิวหัวช้าง นอกจากฉีดสิวแล้วต้องกินยา และทายาต่อด้วยนะคะ
Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว ❤️
Reference
1. Dermatol Surg 2007;33:1005–1026.
2. J Am Acad Dermatol 2014;71:e127-8.