วันนี้เรามาต่อด้วย Mini Series การวิเคราะห์ทางเทคนิคตอนที่ 3 ในหัวข้อ “Candlesticks”
การรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนในวงจร Wyckoff และทำความเข้าใจกับลักษณะตลาดโดยการใช้ เทรนด์ไลน์ (Trendlines) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance) เปรียบเสมือนการที่เราสามารถบอกได้ว่าน้ำกำลังขึ้นหรือนํ้าลง สิ่งที่เราไม่ทราบเลยก็คือจะไปถึงจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่ไหนและเมื่อไหร่ สิ่งที่เราต้องการในคลังแสงการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเราคือเครื่องมือจับเวลาที่แสดงให้เห็นเมื่อกระแสน้ำมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำในแต่ละวันและมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
พ่อค้าข้าวญี่ปุ่น (Munehisa Homma) ได้จัดการกับปัญหานี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันคือ 'Candlestick Charting' (กราฟแท่งเทียน)Candlestick มีหน้าที่ 2 อย่างที่แตกต่างกันมาก ประการแรก กราฟแท่งเทียนจะต่างจากแผนภูมิเส้น (Line Charts) หรือแผนภูมิแท่ง (Bar Charts) แต่ละช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็น 5 นาที วันทั้งวัน หรือหนึ่งสัปดาห์ จะถูกแสดงโดย 'body' (แท่งเทียน) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ราคาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด body จะเป็นสีขาว (หรือบางครั้งก็เป็นสีเขียว) ในทางกลับกัน แท่งจะเป็นสีดำ (หรือบางครั้งสีแดง) ถ้าราคาปิดตํ่ากว่าราคาเปิด
ราคาสูงและต่ำของช่วงเวลาจะถูกวาดเป็นเส้นเดี่ยวจากหัวและด้านล่างของตัวเทียนและเรียกว่าเงา (Shadows)
วิธีการแสดงการเคลื่อนไหวของราคาโดยใช้แท่งเทียนให้ข้อมูลที่ชัดเจนและทำให้มองเห็นได้ทันทีว่า ตลาดกระทิง (bulls) หรือ ตลาดหมี (bears) มีความเหนือกว่า เทียนยาวสีขาว (หรือสีเขียว) ที่มีลักษณะยาวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งโดยผู้ซื้อจะผลักดันราคาปิดเหนือราคาเปิด ในขณะที่ซีรีส์สีดำ (หรือสีแดง) จะบ่งบอกถึงตลาดหมี
การใช้แผนภูมิเชิงเทียนแบบที่สองนั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นและเกี่ยวข้องกับการระบุสัญญาณการซื้อหรือขายที่ไม่ซ้ำกันจากรูปแบบเฉพาะ
โดยมีรูปแบบประกอบด้วยเทียนหนึ่งอันเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้า หรือ เปรียบเทียบสองเทียนหรือมากกว่านั้น ตัวอย่างเช่นเทียนสีขาวอันสั้น ๆ สามารถตามด้วยเทียนดำที่เปิดขึ้นเหนือหัวเทียนที่สูงที่สุดและปิดใต้เงาที่ต่ำที่สุดต่ำที่สุดเทียนเดี่ยวนี้เรียกว่า 'Bearish Engulfing pattern'
ในแง่ของการเคลื่อนไหวของราคามันหมายความว่าหลายวันที่เกิดตลาดกระทิงถูกลบโดยวันที่มีตลาดหมีเพียงวันเดียว
ถ้าเราคิดเกี่ยวกับวงจร Wyckoff สิ่งนี้จะเป็นเรื่องปกติของช่วงระบายของ (distribution) รายย่อยจะซื้อโดยถูกใช้ข่าวเป็นตัวล่อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่พยายามจะขายหุ้นที่เขาถืออยู่ออก
เรามาดู bearish engulfing pattern ในหุ้น BBL กัน
เราจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบของ Candlesticks เมื่อ Mini Series พื้นฐานการสร้างชาร์ตเสร็จสิ้น ในระหว่างนี้ลองอ่านเพิ่มความรู้ทางเทคนิคได้จากเว็บข้างล่าง
https://www.candlescanner.com/…/3-line-patterns-1024x543.jpg
https://www.forexelite.com/…/Forex-Candlestick-Patterns-Che…
เมื่อทำ backtest Candlesticks หลายรูปแบบได้ผลค่อนข้างแย่ ตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่สมัยตลาดข้าวโอซาก้าโดยมีการซื้อขายเกิดขึ้นเกือบตลอดเวลาทำให้ราคาเปิดและปิดมีความหมายน้อยลง อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ของเรา วิธีนี้ยังคงทำงานได้ดีมากในตลาดประเทศไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกรองด้วยวงจร Wyckoff และเสริมด้วยข้อมูลปริมาณการซื้อขาย
ต้องอย่าลืมว่าเราไม่ได้พยายามทำตัวให้ถูกต้องตลอดเวลา แต่พยายามรักษาเงินลงทุนให้ได้มากที่สุด
ถ้าชอบช่วยไลค์เป็นกําลังใจให้เราด้วยที่ Facebook: @BarracudaStocks
#candlesticks
#แท่งเทียน
#technicalanalysis
#bearishengulfing
Disclaimer by Mr. T @ BarracudaStocks
เราไม่ได้เทรดหุ้น BBL หรือมีหุ้น BBL ในพอร์ต บทความนี้ไม่ได้มีการสนับสนุนหรือชักชวนใดๆ ใช้หุ้นเป็นตัวอย่างศึกษาเท่านั้น ผู้ลงทุนโปรดอ่าน พิจารณา ถึงความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆก็ตามจากการอ่านบทความ
ที่มา:
Japanese Candlestick Charting Techniques: A contemporary guide to the Ancient Investment Techniques of the Far East Hardcover - 1 Nov 2001 by Steve Nison (Author)
บทความที่ 3: พิ้นฐานทางเทคนิค (Candlesticks) กราฟแท่งเทียน
การรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนในวงจร Wyckoff และทำความเข้าใจกับลักษณะตลาดโดยการใช้ เทรนด์ไลน์ (Trendlines) ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance) เปรียบเสมือนการที่เราสามารถบอกได้ว่าน้ำกำลังขึ้นหรือนํ้าลง สิ่งที่เราไม่ทราบเลยก็คือจะไปถึงจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่ไหนและเมื่อไหร่ สิ่งที่เราต้องการในคลังแสงการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเราคือเครื่องมือจับเวลาที่แสดงให้เห็นเมื่อกระแสน้ำมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนได้อย่างแม่นยำในแต่ละวันและมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
พ่อค้าข้าวญี่ปุ่น (Munehisa Homma) ได้จัดการกับปัญหานี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบันคือ 'Candlestick Charting' (กราฟแท่งเทียน)Candlestick มีหน้าที่ 2 อย่างที่แตกต่างกันมาก ประการแรก กราฟแท่งเทียนจะต่างจากแผนภูมิเส้น (Line Charts) หรือแผนภูมิแท่ง (Bar Charts) แต่ละช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็น 5 นาที วันทั้งวัน หรือหนึ่งสัปดาห์ จะถูกแสดงโดย 'body' (แท่งเทียน) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ราคาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด body จะเป็นสีขาว (หรือบางครั้งก็เป็นสีเขียว) ในทางกลับกัน แท่งจะเป็นสีดำ (หรือบางครั้งสีแดง) ถ้าราคาปิดตํ่ากว่าราคาเปิด
ราคาสูงและต่ำของช่วงเวลาจะถูกวาดเป็นเส้นเดี่ยวจากหัวและด้านล่างของตัวเทียนและเรียกว่าเงา (Shadows)
วิธีการแสดงการเคลื่อนไหวของราคาโดยใช้แท่งเทียนให้ข้อมูลที่ชัดเจนและทำให้มองเห็นได้ทันทีว่า ตลาดกระทิง (bulls) หรือ ตลาดหมี (bears) มีความเหนือกว่า เทียนยาวสีขาว (หรือสีเขียว) ที่มีลักษณะยาวเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งโดยผู้ซื้อจะผลักดันราคาปิดเหนือราคาเปิด ในขณะที่ซีรีส์สีดำ (หรือสีแดง) จะบ่งบอกถึงตลาดหมี
การใช้แผนภูมิเชิงเทียนแบบที่สองนั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นและเกี่ยวข้องกับการระบุสัญญาณการซื้อหรือขายที่ไม่ซ้ำกันจากรูปแบบเฉพาะ
โดยมีรูปแบบประกอบด้วยเทียนหนึ่งอันเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้า หรือ เปรียบเทียบสองเทียนหรือมากกว่านั้น ตัวอย่างเช่นเทียนสีขาวอันสั้น ๆ สามารถตามด้วยเทียนดำที่เปิดขึ้นเหนือหัวเทียนที่สูงที่สุดและปิดใต้เงาที่ต่ำที่สุดต่ำที่สุดเทียนเดี่ยวนี้เรียกว่า 'Bearish Engulfing pattern'
ในแง่ของการเคลื่อนไหวของราคามันหมายความว่าหลายวันที่เกิดตลาดกระทิงถูกลบโดยวันที่มีตลาดหมีเพียงวันเดียว
ถ้าเราคิดเกี่ยวกับวงจร Wyckoff สิ่งนี้จะเป็นเรื่องปกติของช่วงระบายของ (distribution) รายย่อยจะซื้อโดยถูกใช้ข่าวเป็นตัวล่อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่พยายามจะขายหุ้นที่เขาถืออยู่ออก
เรามาดู bearish engulfing pattern ในหุ้น BBL กัน
เราจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบของ Candlesticks เมื่อ Mini Series พื้นฐานการสร้างชาร์ตเสร็จสิ้น ในระหว่างนี้ลองอ่านเพิ่มความรู้ทางเทคนิคได้จากเว็บข้างล่าง
https://www.candlescanner.com/…/3-line-patterns-1024x543.jpg
https://www.forexelite.com/…/Forex-Candlestick-Patterns-Che…
เมื่อทำ backtest Candlesticks หลายรูปแบบได้ผลค่อนข้างแย่ ตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่สมัยตลาดข้าวโอซาก้าโดยมีการซื้อขายเกิดขึ้นเกือบตลอดเวลาทำให้ราคาเปิดและปิดมีความหมายน้อยลง อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ของเรา วิธีนี้ยังคงทำงานได้ดีมากในตลาดประเทศไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกรองด้วยวงจร Wyckoff และเสริมด้วยข้อมูลปริมาณการซื้อขาย
ต้องอย่าลืมว่าเราไม่ได้พยายามทำตัวให้ถูกต้องตลอดเวลา แต่พยายามรักษาเงินลงทุนให้ได้มากที่สุด
ถ้าชอบช่วยไลค์เป็นกําลังใจให้เราด้วยที่ Facebook: @BarracudaStocks
#candlesticks
#แท่งเทียน
#technicalanalysis
#bearishengulfing
Disclaimer by Mr. T @ BarracudaStocks
เราไม่ได้เทรดหุ้น BBL หรือมีหุ้น BBL ในพอร์ต บทความนี้ไม่ได้มีการสนับสนุนหรือชักชวนใดๆ ใช้หุ้นเป็นตัวอย่างศึกษาเท่านั้น ผู้ลงทุนโปรดอ่าน พิจารณา ถึงความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆก็ตามจากการอ่านบทความ
ที่มา:
Japanese Candlestick Charting Techniques: A contemporary guide to the Ancient Investment Techniques of the Far East Hardcover - 1 Nov 2001 by Steve Nison (Author)