สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เนื่องจากผมเอง สายตาสั้น แล้วใส่แว่นเดิมที่เคยตัดไว้จากร้านเก่า ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน
ก็ได้เวลาที่จะต้องตัดแว่นใหม่ซะที ตอนแรกว่าจะไปตัดร้านดังต่างๆตามห้าง เห็นราคาน่าจะแพงเอาเรื่อง
เลยลองเสิร์ทหาข้อมูลในกูเกิ้ล ว่าตัดแว่นร้านไหนดี ก็เห็นมีอยู่ ประมาณ 3 ร้าน ที่แนะนำกัน
1.ร้านแถวสยาม ที่วัยรุ่นแนะนำมากที่สุด ตัดไม่แพง คนขายหล่อตี๋โอปป้า แต่เห็นว่ามีแต่กรอบแก่ๆ ดีตรงตัดแว่นไว รอรับได้เลย
2.ร้านแถวรามคำแหง อยู่ในเดอะมอลราม เห็นมีแต่คนแนะนำ แต่รีวิว ไม่ได้เยอะเหมือนร้านแรก
3.ร้านหอแว่น เจาะจงที่ สาขานึง ว่าบริการดี ราคาสมเหตุสมผล แว่นมีปัญหา กลับมาเปลี่ยนใหม่ให้เลย
ตอนแรกผมเองว่าจะไปที่ สยามก่อน แต่เห็นมีคนบอกว่า มีแต่กรอบแก่ๆ เลยเลือกที่จะไปร้านที่สอง เพราะอยู่ใกล้บ้าน
ส่วนถ้าไปแล้วไม่ถูกใจ ผมค่อยไป ร้านที่สาม คือตัวเลือกสุดท้าย
สรุปที่จะไปคือ ร้านที่ 2. ร้าน media vision ย่านรามคำแหง
ร้านตั้งอยู่ที่ เดอะมอลรามคำแหง ชั้นที่ 2 อยู่ในห้าง ร้านปิด 20:00
เห็นถกเถียงกันในพันทิพย์ ว่าร้านอยู่ชั้นไหนกันแน่ บางคนบอกอยู่ชั้น 1 บางคนบอกชั้น 2 อย่านับ ชั้น G สิ บางคนเดินหาไม่เจอก็มี
ผมจึงสรุปให้ว่า ถ้าคุณขึ้นบันไดเลื่อน ให้สังเกตที่ตัวเลข ถ้าเป็นเลข 2 คือชั้น นี้แหล่ะ
เดินหาเจอไม่อยาก เพราะร้านค้าน้อย
บรรยากาศภายในร้าน ประมาณนี้ เลือกเดินชมได้ตามสบาย ผมขออนุญาต เจ้าของร้านขอถ่ายรูปแล้ว
มีกรอบแว่น หลายรุ่น ยี่ห้อ หลายราคา โดยเริ่มต้นที่ 800 บาท ถ้ามีกรอบอยู่แล้ว ก็รับตัดแค่เลนส์แว่น ได้เช่นกัน
ตัวผมเองก็ลองสวมแว่นต่างๆ เป็นชั่วโมงกว่าจะเจอที่ถูกใจ เจ้าของร้านเป็นกันเองหยิบออกมาให้ลองได้สบายๆ ไม่เร่งรีบอะไร
ทางร้านสอบถาม ว่าอยากได้เลนส์แบบไหน ข้อดีของเลนส์แตกต่างกันยังไง
แว่นเก่าผม ตัดมาแบบ มัลติโค๊ท แบบกรองแสง เล่นหน้าจอคอม ค่าเลนส์ 800 +กรอบ 2400 ลดให้เหลือ = 2,800 ตัดเมื่อปี 2557
ทางร้านก็แนะนำ อธิบายให้เข้าใจ ว่าเลนส์ แบบกรองแสงยูวี
ถ้ามัลติโค๊ทปกติ แสงจากเลเซอร์ มันจะทะลุผ่านเลนส์ แต่ถ้าแบบเลนส์บลูล็อค แสงจะไม่ทะลุผ่าน
หลังจากเลือกกรอบได้ และนั่งตัดสินใจอยู่พักใหญ่ๆ สรุปว่า ตัดมัน สองอันเลยละกัน เน้น แว่นน้ำหนักเบา ใส่สบาย
ก็คือ แว่นอันที่ 1 เอาไว้ใช้งานหน้าคอมอย่างเดียว
ส่วนแว่นอันที่ 2 ใช้งานทั่วไป ขี่มอไซค์ แต่ก็ใช้งานหน้าคอมได้เช่นกัน แต่จะแตกต่างกับแว่นอันที่ 1 คือ กันแดดด้วยในตัว
แตกต่างยังไงมาดูกัน
เมื่อเจอแสงยูวี พระอาทิตย์ ในตอนกลางวัน แดดจ้า หรือ หลอดไฟ สว่างๆ เมื่อเจ้าแว่นเจอแสงนี้เข้าไป
ตัวเลนส์แว่นก็จะเปลี่ยนสี กลายเป็นแว่นกันแดด ส่วนการมองก็จะซอฟมองสบายตา แสงไม่แยงตา มองโดยไม่ต้องหรี่ตา
และเมื่อแว่น ไม่ได้โดนแสง ก็จะกลับมาเป็นปกติ คือเลนส์ใส เหมือนเดิม
เปรียบเทียบกับแว่นตาเก่าของผม ถ้าเจอแสงพวกนี้ เช่นแสงไฟจากรถ จะมองเป็น สีเขียว
แต่พอเลนส์ตัวนี้ มันตัดแสง สีเขียวไม่มีอีกเลย
เมื่อตัดสินใจ เลือกกรอบแว่น เลนส์เรียบร้อย เข้าสู่การวัดสายตา
แว่นเดิมที่ผมใส่มา ตลอด 5ปี คือ สั้น 50 ปัจจุบัน ผมสั้น 250 ไม่ถึงกับเอียง รอดไป
สาเหตุที่ สั้นมากกว่าเดิม คือผมเชื่อในผิดๆที่ได้ยินมาว่า ยิ่งตัดแว่น ยิ่งสั้นขึ้น ผมจึงเลือกไม่ตัด และใส่ สั้น 50 มาตลอด 5ปี
หลังๆ แค่มอง ทะเบียนรถข้างหน้า เลขเบลอแล้ว จึงตัดสินใจ มาตัดซะที
ส่วนที่ว่า นอนตะแคง ดูมือถือ มีส่วนทำให้สายตาเอียงด้วยมั้ย ผมถามแล้ว มีส่วนจริงๆ
เครื่องมือ อุปกรณ์ครบครัน
หลังจาก วัดสายตาแล้ว เลือกกรอบแว่นแล้ว เลือกเลนส์ที่ต้องการเรียบร้อย มาถึง คำนวนยอดทั้งหมด
แว่นอันที่ 1 กรอบแว่น Polo 3,200 บาท ลดเหลือ 2,200
+ เลนส์ Sensity gray by Hoya +ตัดแสงยูวี 4,500 บาท ลดไปอีกเหลือ 3,500 บาท = 5,700 บาท
แว่นอันที่ 2 กรอบแว่น 1,900 บาท ลดเหลือ 1,400
+ เลนส์ BLue Loc.TOG 2,200 = 3,600 บาท
สองอันรวมกัน 9,300 ร้านลดให้อีกเหลือ 9,000 ถ้วน [ประกันกรอบแว่น2ปี ขาหัก เปลี่ยนฟรี ]
ส่วนเลนส์แว่น ถ้าใส่แล้วเกิด อาการมึน และไม่หายขาด ภายใน 1-2 อาทิตย์ เอากลับมา ตัดให้ใหม่ฟรี
และผมเลือกที่จะตัด สายตาสั้นแค่ 150 จากที่วัดมาคือ สั้น 250 เพราะ หลังได้ลองเทส
จากเจ้าของร้านให้ลอง ไม่ว่าจะสั้น 200 ภาพคมชัดมาก แต่มันชัดเกินไป ใส่นานๆ อาการมึนแน่นอน
ปรับมาเป็นสั้น 175 ภาพคมชัดมากเช่นกัน แต่ ด้านมุมข้างๆ เป็นมิติ เว้าๆ ลอยๆ
พอใส่ สั้น 150 ภาพมันมอง สบายตา ไม่ต้องเพ่งมาก ถึงแม้ว่า อาการมึนๆจะมีก็ตาม แต่ถือว่าสบายตาที่สุด จึงตัดสินใจ ตัดสั้นที่ 150
ใช้เวลาตัดไม่นานครับ แค่ 20 นาที ก็เสร็จ ไปเดินห้างได้สบายใจ แต่ผมอยากให้ร้านเขาตัดแบบปราณีต จึงทิ้งไว้ วันรุ่งขึ้นค่อยมารับ
พอวันรุ่นขึ้นมารับแว่น ทางร้านให้ลองใส่ เดินในห้างดู ว่ามีอาการมึนมากแค่ไหน และย้ำว่า เอาไปใส่ให้ สายตาได้ปรับตัว สัก อาทิตย์นึง
ถ้ายังไม่หาย กลับมาแล้วจะตัดให้ใหม่ อาการมึนแรกๆ เป็นกันทุกคน
และเนื่องจาก แว่นเดิมผม สั้น 50 ทางร้านได้อธิบายว่า ตามจริงต้องตัดไปเป็นเสต็บ คือ 75 100 125 150 แต่ผมข้ามขั้น จาก 50 ไป 150 เลย
จึงเกิดอาการมึน รอให้ ดวงตาได้ปรับ สายตา สักพัก อาการก็จะหายไป
ลองดูนะครับ เป็นอีกทางเลือก ร้านตัดแว่นดีๆ เปิดมาหลายปี ราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท ร้านนี้เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่จะ ส.ว [สูงวัย] กันเยอะที่มาใช้บริการ
ถ้าร้านไม่ดีจริง คงไม่มาตัดกันเยอะ
ถ้ามีกรอบมาเอง ก็ยินดีตัดให้ ร้านเป็นกันเอง กรอบแว่นมีให้เลือกเยอะ เลือกได้ตามสบาย
มีรับผ่อนกับ KTC กับ TMB นะครับ ร้านบอกมา ร้านเปิด 12:30 ปิด 20:00 อยู่ชั้น 2 ในห้าง เดอะมอลรามคำแหง
อย่างที่ผมบอกไป ผมต้องการแว่นที่ น้ำหนักเบา และทน บิดงอได้ เลนส์คุณภาพดี ราคาจึงแอบแพง ในความคิดของคุณ
แต่สำหรับผม การใช้แว่น ที่จะต้องอยู่กับเรา ไป 3-5ปี ผมว่ายังไงก็คุ้ม เพื่อดวงตาของเรา มันไม่มีอะไหล่เปลี่ยน
ใครที่กำลังหาร้านตัดแว่นดีๆ ราคาไม่แพง อธิบายให้เข้าใจได้ ร้านเปิดมาหลายปี แนะนำร้านนี้ครับ media vision
แนะนำร้านตัดแว่นดีๆ ที่เปิดมานานหลายปี ร้าน media vision (ย่านรามคำแหง)
ก็ได้เวลาที่จะต้องตัดแว่นใหม่ซะที ตอนแรกว่าจะไปตัดร้านดังต่างๆตามห้าง เห็นราคาน่าจะแพงเอาเรื่อง
เลยลองเสิร์ทหาข้อมูลในกูเกิ้ล ว่าตัดแว่นร้านไหนดี ก็เห็นมีอยู่ ประมาณ 3 ร้าน ที่แนะนำกัน
1.ร้านแถวสยาม ที่วัยรุ่นแนะนำมากที่สุด ตัดไม่แพง คนขายหล่อตี๋โอปป้า แต่เห็นว่ามีแต่กรอบแก่ๆ ดีตรงตัดแว่นไว รอรับได้เลย
2.ร้านแถวรามคำแหง อยู่ในเดอะมอลราม เห็นมีแต่คนแนะนำ แต่รีวิว ไม่ได้เยอะเหมือนร้านแรก
3.ร้านหอแว่น เจาะจงที่ สาขานึง ว่าบริการดี ราคาสมเหตุสมผล แว่นมีปัญหา กลับมาเปลี่ยนใหม่ให้เลย
ตอนแรกผมเองว่าจะไปที่ สยามก่อน แต่เห็นมีคนบอกว่า มีแต่กรอบแก่ๆ เลยเลือกที่จะไปร้านที่สอง เพราะอยู่ใกล้บ้าน
ส่วนถ้าไปแล้วไม่ถูกใจ ผมค่อยไป ร้านที่สาม คือตัวเลือกสุดท้าย
สรุปที่จะไปคือ ร้านที่ 2. ร้าน media vision ย่านรามคำแหง
ร้านตั้งอยู่ที่ เดอะมอลรามคำแหง ชั้นที่ 2 อยู่ในห้าง ร้านปิด 20:00
เห็นถกเถียงกันในพันทิพย์ ว่าร้านอยู่ชั้นไหนกันแน่ บางคนบอกอยู่ชั้น 1 บางคนบอกชั้น 2 อย่านับ ชั้น G สิ บางคนเดินหาไม่เจอก็มี
ผมจึงสรุปให้ว่า ถ้าคุณขึ้นบันไดเลื่อน ให้สังเกตที่ตัวเลข ถ้าเป็นเลข 2 คือชั้น นี้แหล่ะ
เดินหาเจอไม่อยาก เพราะร้านค้าน้อย
บรรยากาศภายในร้าน ประมาณนี้ เลือกเดินชมได้ตามสบาย ผมขออนุญาต เจ้าของร้านขอถ่ายรูปแล้ว
มีกรอบแว่น หลายรุ่น ยี่ห้อ หลายราคา โดยเริ่มต้นที่ 800 บาท ถ้ามีกรอบอยู่แล้ว ก็รับตัดแค่เลนส์แว่น ได้เช่นกัน
ตัวผมเองก็ลองสวมแว่นต่างๆ เป็นชั่วโมงกว่าจะเจอที่ถูกใจ เจ้าของร้านเป็นกันเองหยิบออกมาให้ลองได้สบายๆ ไม่เร่งรีบอะไร
ทางร้านสอบถาม ว่าอยากได้เลนส์แบบไหน ข้อดีของเลนส์แตกต่างกันยังไง
แว่นเก่าผม ตัดมาแบบ มัลติโค๊ท แบบกรองแสง เล่นหน้าจอคอม ค่าเลนส์ 800 +กรอบ 2400 ลดให้เหลือ = 2,800 ตัดเมื่อปี 2557
ทางร้านก็แนะนำ อธิบายให้เข้าใจ ว่าเลนส์ แบบกรองแสงยูวี
ถ้ามัลติโค๊ทปกติ แสงจากเลเซอร์ มันจะทะลุผ่านเลนส์ แต่ถ้าแบบเลนส์บลูล็อค แสงจะไม่ทะลุผ่าน
หลังจากเลือกกรอบได้ และนั่งตัดสินใจอยู่พักใหญ่ๆ สรุปว่า ตัดมัน สองอันเลยละกัน เน้น แว่นน้ำหนักเบา ใส่สบาย
ก็คือ แว่นอันที่ 1 เอาไว้ใช้งานหน้าคอมอย่างเดียว
ส่วนแว่นอันที่ 2 ใช้งานทั่วไป ขี่มอไซค์ แต่ก็ใช้งานหน้าคอมได้เช่นกัน แต่จะแตกต่างกับแว่นอันที่ 1 คือ กันแดดด้วยในตัว
แตกต่างยังไงมาดูกัน
เมื่อเจอแสงยูวี พระอาทิตย์ ในตอนกลางวัน แดดจ้า หรือ หลอดไฟ สว่างๆ เมื่อเจ้าแว่นเจอแสงนี้เข้าไป
ตัวเลนส์แว่นก็จะเปลี่ยนสี กลายเป็นแว่นกันแดด ส่วนการมองก็จะซอฟมองสบายตา แสงไม่แยงตา มองโดยไม่ต้องหรี่ตา
และเมื่อแว่น ไม่ได้โดนแสง ก็จะกลับมาเป็นปกติ คือเลนส์ใส เหมือนเดิม
เปรียบเทียบกับแว่นตาเก่าของผม ถ้าเจอแสงพวกนี้ เช่นแสงไฟจากรถ จะมองเป็น สีเขียว
แต่พอเลนส์ตัวนี้ มันตัดแสง สีเขียวไม่มีอีกเลย
เมื่อตัดสินใจ เลือกกรอบแว่น เลนส์เรียบร้อย เข้าสู่การวัดสายตา
แว่นเดิมที่ผมใส่มา ตลอด 5ปี คือ สั้น 50 ปัจจุบัน ผมสั้น 250 ไม่ถึงกับเอียง รอดไป
สาเหตุที่ สั้นมากกว่าเดิม คือผมเชื่อในผิดๆที่ได้ยินมาว่า ยิ่งตัดแว่น ยิ่งสั้นขึ้น ผมจึงเลือกไม่ตัด และใส่ สั้น 50 มาตลอด 5ปี
หลังๆ แค่มอง ทะเบียนรถข้างหน้า เลขเบลอแล้ว จึงตัดสินใจ มาตัดซะที
ส่วนที่ว่า นอนตะแคง ดูมือถือ มีส่วนทำให้สายตาเอียงด้วยมั้ย ผมถามแล้ว มีส่วนจริงๆ
เครื่องมือ อุปกรณ์ครบครัน
หลังจาก วัดสายตาแล้ว เลือกกรอบแว่นแล้ว เลือกเลนส์ที่ต้องการเรียบร้อย มาถึง คำนวนยอดทั้งหมด
แว่นอันที่ 1 กรอบแว่น Polo 3,200 บาท ลดเหลือ 2,200
+ เลนส์ Sensity gray by Hoya +ตัดแสงยูวี 4,500 บาท ลดไปอีกเหลือ 3,500 บาท = 5,700 บาท
แว่นอันที่ 2 กรอบแว่น 1,900 บาท ลดเหลือ 1,400
+ เลนส์ BLue Loc.TOG 2,200 = 3,600 บาท
สองอันรวมกัน 9,300 ร้านลดให้อีกเหลือ 9,000 ถ้วน [ประกันกรอบแว่น2ปี ขาหัก เปลี่ยนฟรี ]
ส่วนเลนส์แว่น ถ้าใส่แล้วเกิด อาการมึน และไม่หายขาด ภายใน 1-2 อาทิตย์ เอากลับมา ตัดให้ใหม่ฟรี
และผมเลือกที่จะตัด สายตาสั้นแค่ 150 จากที่วัดมาคือ สั้น 250 เพราะ หลังได้ลองเทส
จากเจ้าของร้านให้ลอง ไม่ว่าจะสั้น 200 ภาพคมชัดมาก แต่มันชัดเกินไป ใส่นานๆ อาการมึนแน่นอน
ปรับมาเป็นสั้น 175 ภาพคมชัดมากเช่นกัน แต่ ด้านมุมข้างๆ เป็นมิติ เว้าๆ ลอยๆ
พอใส่ สั้น 150 ภาพมันมอง สบายตา ไม่ต้องเพ่งมาก ถึงแม้ว่า อาการมึนๆจะมีก็ตาม แต่ถือว่าสบายตาที่สุด จึงตัดสินใจ ตัดสั้นที่ 150
ใช้เวลาตัดไม่นานครับ แค่ 20 นาที ก็เสร็จ ไปเดินห้างได้สบายใจ แต่ผมอยากให้ร้านเขาตัดแบบปราณีต จึงทิ้งไว้ วันรุ่งขึ้นค่อยมารับ
พอวันรุ่นขึ้นมารับแว่น ทางร้านให้ลองใส่ เดินในห้างดู ว่ามีอาการมึนมากแค่ไหน และย้ำว่า เอาไปใส่ให้ สายตาได้ปรับตัว สัก อาทิตย์นึง
ถ้ายังไม่หาย กลับมาแล้วจะตัดให้ใหม่ อาการมึนแรกๆ เป็นกันทุกคน
และเนื่องจาก แว่นเดิมผม สั้น 50 ทางร้านได้อธิบายว่า ตามจริงต้องตัดไปเป็นเสต็บ คือ 75 100 125 150 แต่ผมข้ามขั้น จาก 50 ไป 150 เลย
จึงเกิดอาการมึน รอให้ ดวงตาได้ปรับ สายตา สักพัก อาการก็จะหายไป
ลองดูนะครับ เป็นอีกทางเลือก ร้านตัดแว่นดีๆ เปิดมาหลายปี ราคาเริ่มต้นที่ 800 บาท ร้านนี้เท่าที่สังเกต ส่วนใหญ่จะ ส.ว [สูงวัย] กันเยอะที่มาใช้บริการ
ถ้าร้านไม่ดีจริง คงไม่มาตัดกันเยอะ
ถ้ามีกรอบมาเอง ก็ยินดีตัดให้ ร้านเป็นกันเอง กรอบแว่นมีให้เลือกเยอะ เลือกได้ตามสบาย
มีรับผ่อนกับ KTC กับ TMB นะครับ ร้านบอกมา ร้านเปิด 12:30 ปิด 20:00 อยู่ชั้น 2 ในห้าง เดอะมอลรามคำแหง
อย่างที่ผมบอกไป ผมต้องการแว่นที่ น้ำหนักเบา และทน บิดงอได้ เลนส์คุณภาพดี ราคาจึงแอบแพง ในความคิดของคุณ
แต่สำหรับผม การใช้แว่น ที่จะต้องอยู่กับเรา ไป 3-5ปี ผมว่ายังไงก็คุ้ม เพื่อดวงตาของเรา มันไม่มีอะไหล่เปลี่ยน
ใครที่กำลังหาร้านตัดแว่นดีๆ ราคาไม่แพง อธิบายให้เข้าใจได้ ร้านเปิดมาหลายปี แนะนำร้านนี้ครับ media vision