สวัสดีค่ะ.. วันนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์ ดึงขมับ ยกหางตา เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ได้บ้าง
เนื่องจากก่อนที่เราจะทำการดึงขมับ หารีวิวค่อนข้างยาก และทำให้ตัดสินใจอยู่นานมาก
เผื่อว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้เพื่อนๆ ที่มีปัญหาคล้ายๆ กันได้ตัดสินใจง่ายขึ้น

เข้าเรื่องกันเลยนะคะ.. คือปัญหาของเราเอง หลักๆ เลยคือ ได้ยินมาตั้งแต่เด็กว่า ตาเศร้ามาก
บวกกับปากที่คว่ำมาก ทำให้หน้าปกติดูบึ้งและเศร้าเสมือนญาติเสียตลอดเวลา กร๊ากก..
ด้วยอายุตอนนี้ ขึ้นเลข 3 แล้ว ทำให้หน้ายิ่งดูโทรม และไม่สดใสเข้าไปอีก เราจึงเริ่มวิเคราะห์หน้าตัวเอง.. ว่าเกิดจากอะไร?
สรุปคือ.. เราคิดว่าเกิดจากหางตาที่ตกมากๆ จากนั้น ได้เข้ามาหาข้อมูลในพันทิปว่า มีการแก้ไขปัญหาหางตาตกยังไง
ข้อมูลที่ได้ก็คือ ต้องแก้ด้วยการดึงขมับ ยกหางตา เนื่องจากเจ้าของกระทู้เคยผ่านการทำตามาแล้ว
แต่ก็ไม่ได้ดูสดใสขึ้นแต่อย่างใด.. ค้นหาข้อมูลอยู่เกือบปี มาจบที่คลินิกนี้ และได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ว่าสามารถแก้ไขได้ไหม
คุณหมอบอกว่า "ทำได้" เราเลยจัดการจองคิว ณ วันนั้นเลย

รอคิวอยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ ตื่นเต้นมาก ส่องกระจกทีไรใช้นิ้วดันหางตาตัวเองตลอด เพื่อจะดูว่าหน้าตัวเองจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง 
และรูปนี้คือรูปที่นำไปปรึกษาคุณหมอเบื้องต้น..


จะเห็นได้ว่า หางตาตก และเศร้ามากกกก

และแล้ว วันที่นัดทำก็มาถึง..
ส่วนตัวแล้ว เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของความเจ็บ หรืออะไร
เนื่องจากเราผ่านการเติมไขมันมาแล้วถึง 3 ครั้ง.. อ่านไม่ผิดค่ะ 3 ครั้ง กร๊ากกก..
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่ผ่านการเติมไขมันไปแล้ว จะเข้าใจได้ว่าความเจ็บมันอยู่ที่ระดับไหน

โอเค.. ถึงเวลานัด ทางผู้ช่วยให้เราไปทำการล้างหน้า เช็ดเครื่องสำอาง จากนั้นก็ขึ้นไปนอนรอบนเตียง
คุณหมอได้ทำการวาดสีเมจิกลงบนหน้าเรา และถามเราว่า "นอกจากเติมไขมันแล้ว ได้ทำอะไรมาอีกหรือเปล่า"
เราตอบ "ทำค่ะ.. เคยทำ...มา" คุณหมอบอก "หื้ออออ" ทำได้นะ แต่สร้างความหงุดหงิดให้หมอนิดหน่อย เนื่องจากเกิดพังผืด
เราได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อก แอบนึกในใจ ตูสร้างความยุ่งยากเพิ่มให้คุณหมอรึป่าว.. (ขอไม่พูดพาดพิงถึงการเสริมความงามอย่างอื่นนะคะ)
จากนั้นคุณหมอก็เริ่มฉีดยาชาตรงบริเวณขมับ ความเจ็บมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้นค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย
คุณหมอถึงกับหมดแรง.. แอบสงสารคุณหมอนิดหน่อยเพราะมีเคสต่ออีก 1 เคส (คิดแทนคนอื่นไปเรื่อย 55+) มาดูรูปหลังทำกันค่ะ

ขับรถกลับบ้านเองได้ปกติ หางตาดูสูงๆนิดหน่อย แต่ถ้าหน้าหายบวมแล้ว จะค่อยๆลดระดับลงค่ะ มีอาการปวดแผลนิดหน่อย ก็จัดการโดยการกินยาแก้ปวด และปฏิบัติตามคำที่คุณหมอแนะนำ
หน้าบวมอยู่ประมาณ 5 วันค่ะ.. แต่เราใช้ชีวิตปกติ ออกจากบ้านตั้งแต่ทำวันที่ 2 .. ซื้อของ จ่ายตลาดเอง และเริ่มเอาผ้าพันแผลออกในวันที่ 3 ค่ะ

1 อาทิตย์ผ่านไป..

จะเห็นได้ว่าหางตาเรายกขึ้นอย่างชัดเจน และสิ่งที่ได้แถมมาด้วยคือ ร่องแก้มหายไป.. หน้าดูไม่อิดโรย สดใสขึ้นเยอะเลยค่ะ


เส้นหางตายกขึ้นชัดเจนมาก!! หางคิ้วยกขึ้น และหน้าดูวีเชป กระชับขึ้น ดีใจสุดๆ!! ถึงกับไลน์ไปขอบคุณคุณหมอ "หน้าหนูหายเศร้าแว้ววว.." 555+

รูปนี้ก่อนทำ แต่งหน้าคือจัดเต็ม ใส่คอนแทคเลนส์, กรีดตา, แปะสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น คือหน้าตูสดใสได้เท่านี้จริงๆ..


มาดูภาพตอนแต่งหน้าแล้ว (หลังทำ)

หน้าดูสดใสขึ้นเยอะมากกกกก.. รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้สุดๆ!! ขอโทษที่รูปอาจจะสวยเกินจริงไปนิดนึง กร๊ากก..
และในเรื่องของแผลเป็น ไม่ต้องกังวลค่ะ คุณหมอซ่อนไว้ที่ไรผม ของเราแทบมองไม่เห็นเลย
คุณหมอแนะนำให้ใช้ dermatix ultra ทาแผลกันไว้.. 

แทบมองไม่เห็นค่ะ..

เปรียบให้ดูค่ะ รูปก่อน-หลัง แต่งหน้า-ไม่แต่งหน้า หลังทำ 10 วัน 


เพื่อนทักว่าเด็กขึ้นเยอะมากกก.. เรารู้สึกมีความสุดๆ เลยค่าา ขอบคุณคุณหมออีกครั้งนึง ที่ทำให้เราดูสดใสขึ้น หน้าสดออกจากบ้านได้แล้วค่ะ ไม่โทรม ไม่แก่แล้ววววว
หวังว่า.. กระทู้นี้ อาจเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจในการยกหางตา ด้วยการดึงขมับ เป็นอีกทางเลือกนึงค่ะ
นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก หากมีความผิดพลาดอะไร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ.. ไปละค่ะ บ๊ายบายยยย