สวัสดีปีใหม่สากลครับ ซึ่งคงไม่ช้าเกินไป

สวัสดีปีใหม่สไตร์จีนครับ ซินเจิ้งหรู่อี้ ซินเหนียนฟาไฉ

ปีใหม่เลยมีเพื่อเก่ามาเยี่ยมเยือน ไม่บ่อยนักที่จะได้ท่องเที่ยวในบ้านตัวเอง มัวแต่ไปไกลๆซะบ่อยๆ ครึ่งวันนี้ (๒๑ มกราคม ๒๕๖๓) เลยพากันขับรถชมเกาะ และพายเรือคายัคสักนิดหน่อยกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของคุณหมูยอ ฝากด้วยนะครัช

ออกจากบ้านพักย่านหาดไข่มุกทางทิศใต้ของหาดทรายขาวราวๆ ๘ โมงเศษ ของวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๓

ถ้าเรามาจากฝั่งข้ามมาโดยเรือเฟอร์รี่ เรือจะมาส่งเราที่ท่าเรือซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของเกาะ ค่อนมาทางหัวเกาะด้านทิศเหนือ และต้องนั่งรถข้ามเขาราว ๓๐ นาทีก็จะลงมาสู่เกาะช้างฝั่งตะวันตกด้านทิศเหนือ บริเวณแรกที่เราจะเจอคือหาดทรายขาว ในทางกลับกันการที่ผมย้อนกลับขึ้นไปก็หมายถึงจะผ่านบริเวณหาดทรายขาวก่อน หลังจากพ้นจากพื้นที่ราบเรียบหาด ก็จะขึ้นเขาสูง จุดนี้มีจุดชมวิวครับ เรียกจุดชมวิวหาดทรายขาว

แวะถ่ายรูปเช็คอิน ตรงนี้ทางเทศบาลได้มาเทคอนกรีตไว้ให้พอสำหรับจอดรถได้ไม่กี่คัน ส่วนนักท่องเที่ยวสามารถลงมานั่งพักผ่อนได้

ถ้าเรามาจากท่าเรือเฟอรี่และต้องการข้ามไปยังเกาะช้างฝั่งตะวันตก (หาดทรายต่างๆ ที่เราคุ้นชื่อกัน) ทุกคนจะต้องผ่านศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง และจริงๆแล้วช่วงเทศกาลซึ่งมีรถข้ามมาวิ่งบนเกาะมากๆ ดรรชนีศาลเจ้าพ่อฯ ก็ถือเป็นที่สามารถอ้างอิงถึงความหนาแน่นของรถยนต์ที่รอลงเรือเฟอรี่ได้

รถติดยาวหางแถวถึงศาลเจ้าพ่อ หมายถึงรถมากพอสมควร แต่ถ้าบอกว่ารถติดยาวหางแถวถึงแยกคลองสน นั่นหมายความว่า ... กลับไปนอนที่โรงแรมก่อนเถอะครับ บ่ายๆ ค่อยออกมาต่อคิวใหม่

หลังจากนั้นเรามุ่งหน้าไปทางสลักเพชร

ด้านตะวันออกของเกาะจะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ และชุมชนดั้งเดิมซึ่งอาศัยการทำเกษตรกรรมเป็นหลัก หลังมานี้มาการนำกาแฟมาทดลองปลูก และกาแฟเหล่านั้นถูกนำมาใช้ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่เรากำลังจะไป

ก่อนถึงร้านบ้านกาแฟจะมีจุดชมวิวซึ่งเป็นบริเวณที่จะมองเห็นทะเลไปได้กว้างไกล

วันนี้เอาแก้วไปเอง ให้เป็นไปตามเทรนด์ แต่ที่จริงคือเขาจะลดราคาให้แก้วละ ๑๐ บาท ถ้าเรานำแก้วสะอาดไปเอง กาแฟร้านนี้ขอให้การการันตีว่า “ใช้ได้” ร้านนี้เจ้าของร้านเป็นสายปั่น (จักรยาน) บริการดี มีชาวต่างชาติที่พำนักในท้องที่เป็นลูกค้าประจำหลายคน และเราไปหลายครั้งจนพี่ชงกาแฟพอจะจำได้

ไม่รู้จำได้ตรงที่ไปทีไรเอาแก้วไปใส่เองเพราะรับส่วนลด ๑๐ บาท ทุกทีหรือเปล่า

ถือว่าเป็นร้านที่คอกาแฟน่าลองมาชิมสักครั้ง เราพยายามไม่โอ้เอ้เพราะจากประสบการณ์คราวก่อนที่พาเพื่อนอีกคนไปในเส้นทางนี้ วันนั้นมัวแต่โอ้เอกินสเต็ก จิบกาแฟ กว่าจะถึงสะพานแดงก็สาย แดดร้อน และกว่าจะได้ไปเกาะง่ามก็เกือบเที่ยง และวันนี้วางแผนว่าจะต้องไปเช็คอินที่หาดยุทธนาวีฯ เสียหน่อย

ได้กาแฟแล้วจึงมุ่งหน้าจุดถัดไป

เพราะคุณอนุวัติ เฟื่อทองแดง แห่งช่อง ๗ เฮ็ดดี (คัดแล้วคัดอีก) นับเป็นนักข่าวคนนึงที่มาทำสารคดีท่องเที่ยวแบบฮาร์ดคอร์ที่สะพานแดงแห่งนี้ (จริงๆ คราวนั้นคุณอนุวัติลุยไปอีกหลายจุด แต่ดูโหดเกินไปสำหรับเรา) ทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักที่นี่และปัจจุบันจึงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำหรับเกือบทุก one day tour ของบริษัททัวร์บนเกาะ นักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คก็แว้นมอเตอร์ไซค์กันมา

ชื่อจริงของที่นี่ก็คือ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าชายเลนสลักเพชรบ้านนาใน(สะพานแดง)” ที่จริงถ้าจังหวะดีๆจะเห็นเหยี่ยวแดง แต่ขณะที่เราไปเวลาราว ๑๐ โมงเศษ แดดค่อนข้างแรงและเรามีจุดหมายถัดไปที่ต้องไป

อ่อ ตรงทางเข้าทางเดินฯ มีร้านกาแฟ ชาวบ้านแถวนั้นเม้าส์ว่าเป็นร้านของนายกฯ ... นายก อบต.เกาะช้างใต้ท่านน่ะครับ

จากสะพานแดงสลักเพชรเราต้องขับรถย้อนกลับมาไมไกลแล้วเลี้ยวขาวไปทางสลักคอก ตรงนี้จะผ่านวัดวัชคามคชทวีป (วัดสลักคอก) ชื่อวัดเป็นชื่อพระราชทานของในหลวงรัชการที่ ๕ สมัยเสด็จประภาสเกาะช้างเมื่อราว ๑๐๐ กว่าปีที่ผ่านมา ใครจะแวะถ่ายรูปก็ได้  แต่เรายังคงมุ่งหน้าต่อไป

จากสลักคอกเราต้องขับรถมุ่งหน้าเจ๊กแบ้แล้วเลี้ยวเข้าถนนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้มุ่งหน้าสู่หาดยุทธนาวีฯ หาดนี้ก็นับเป็นจุดเช็คอินที่ได้รับความนิยมอีกแห่ง

เรียกว่าหาดยุทธนาวีฯ ชื่อเต็มคือยุทธนาวีเกาะช้าง เหตุการณ์การสู้รบระหว่างสยามกับฝรั่งเศสเมื่อยุคล่าอาณานิคมที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ (รวมทั้งเกาะง่ามด้วย) เรือรบไทยอับปางหลายลำ ทหารพากันขึ้นฝั่งที่นี่ จึงเรียกตรงนี้ว่าหาดยุทธนาวีฯ

“การรบที่เกาะช้าง หรือที่รู้จักกันในนาม ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นเหตุการณ์รบทางเรือที่เกิดขึ้นในกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเรียกร้องให้ปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดน ไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส เสียใหม่ โดยใช้แนวร่องน้ำลึกเป็นเกณฑ์ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม และให้ฝรั่งเศสคืนดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ฝรั่งเศสยึดไปจากเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ให้ไทย ยุทธภูมิในการรบครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณด้านใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ และถือเป็นการรบทางทะเลครั้งเดียวในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย และรัฐบาลวิชีฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อีกด้วย” (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย, เข้าถึงข้อมูลเมื่อ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๓ ๑๘.๐๒ น.)

-----------------------------

คุณหมูยอ

๒๔ มกราคม ๒๕๖๒