สำหรับการเดินทาง ผู้คนย่อมใช้ยานพาหนะเป็นเครื่องมือทุ่นแรงแทนการเดินอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะส่วนบุคคลอย่างรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือการคมนาคมแบบสาธารณะอย่างรถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้า แต่เมื่อกล่าวถึงมลพิษทางอากาศ พาหนะส่วนบุคคลเห็นจะเป็นสาเหตุหลัก เพราะเป็นยานพาหนะที่ผู้คนในสังคมล้วนมีเป็นของตนเอง
ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ (หรือแม้แต่รถโดยสารสาธารณะ) หากขึ้นชื่อว่าใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนย่อมก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล หรือเบนซิน ก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศได้ แม้จะส่งผลต่างกัน เครื่องยนต์ดีเซลเมื่อเผาไหม้ก็สร้างฝุ่นควันดำทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เครื่องยนต์เบนซินก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายเงียบ เพราะไร้สีและกลิ่น
เพื่อเป็นการป้องกัน หรือช่วยกันลดมลพิษทางอากาศ ยานพาหนะต้องมีคุณภาพ และเจ้าของต้องหมั่นตรวจเช็คประสิทธิภาพยานพหนะของตนเป็นประจำ รถยนต์ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อถึงเวลา รู้จักทำความสะอาดท่อไอเสียไม่ให้สกปรก หรืออุดตันมากจนเกินไป หากมีฝุ่นสะสมตกค้าง เมื่อติดเครื่องยนต์ หรือเร่งเครื่อง แน่นอนว่าฝุ่นเหล่านั้นก็จะพุ่งทยานออกมาเหมือนโดนจุดระเบิด รถจักรยานยนต์ก็เช่นกัน
สำหรับรถจักรยานยนต์ ในเมื่อเป็นยานพาหนะแบบเปิด ผู้ขับขี่ก็ต้องป้องกันตนเองจากฝุ่นด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและสวมหมวกนิรภัย แต่สำหรับรถยนต์นั้นเป็นยานพาหนะแบบปิด ย่อมต้องมีระบบปรับอากาศภายใน โดยอากาศภายในก็ถูกดูดเข้ามาจากภายนอกนั้นแหละ ฟิลเตอร์หรือตัวกรองอากาศจึงเป็นอุปกรณ์สุดแสนสำคัญสำหรับรถยนต์ การเลือกใช้ไส้กรองก็ต้องมีคุณภาพ ต้องหมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน ใส้กรองปกติจะมีหลายชนิด ต้องรู้จักเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน อ่านต่อ >>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.autoinfo.co.th/article/17379/
สำหรับรถโดยสารสาธารณะ องค์กรที่เป็นเจ้าของยานพาหนะก็ต้องทำการตรวจเช็คประสิทธิภาพของยานพาหนะเป็นประจำด้วย เพราะถึงแม้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลจะมีปริมาณมากบนท้องถนน แต่รถยนต์ที่ส่งควันดำออกมามากและถูกพบเห็นได้บ่อยคือรถโดยสารขนาดใหญ่
ทุกการตวจเช็คประสิทธิภาพทั้งยานภาหนะส่วนบุคคล หรือสาธารณะ แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายสูง แต่หากจะลดมลพิษแล้วก็ต้องลงทุน เพื่อคุณภาพอากาศ และสุภาพของผู้คนในสังคม ซึ่งรวมถึงตัวคุณเองด้วยนั้นให้ดีขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://www.autoinfo.co.th/article/17379/
https://www.autoinfo.co.th/article/265557/
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/890233
next part is coming...
ยุค PM2.5 ระบาด ควรปรับตัวอย่างไรดี? ...Prt.3
ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ (หรือแม้แต่รถโดยสารสาธารณะ) หากขึ้นชื่อว่าใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนย่อมก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล หรือเบนซิน ก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศได้ แม้จะส่งผลต่างกัน เครื่องยนต์ดีเซลเมื่อเผาไหม้ก็สร้างฝุ่นควันดำทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เครื่องยนต์เบนซินก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายเงียบ เพราะไร้สีและกลิ่น
เพื่อเป็นการป้องกัน หรือช่วยกันลดมลพิษทางอากาศ ยานพาหนะต้องมีคุณภาพ และเจ้าของต้องหมั่นตรวจเช็คประสิทธิภาพยานพหนะของตนเป็นประจำ รถยนต์ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อถึงเวลา รู้จักทำความสะอาดท่อไอเสียไม่ให้สกปรก หรืออุดตันมากจนเกินไป หากมีฝุ่นสะสมตกค้าง เมื่อติดเครื่องยนต์ หรือเร่งเครื่อง แน่นอนว่าฝุ่นเหล่านั้นก็จะพุ่งทยานออกมาเหมือนโดนจุดระเบิด รถจักรยานยนต์ก็เช่นกัน
สำหรับรถจักรยานยนต์ ในเมื่อเป็นยานพาหนะแบบเปิด ผู้ขับขี่ก็ต้องป้องกันตนเองจากฝุ่นด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและสวมหมวกนิรภัย แต่สำหรับรถยนต์นั้นเป็นยานพาหนะแบบปิด ย่อมต้องมีระบบปรับอากาศภายใน โดยอากาศภายในก็ถูกดูดเข้ามาจากภายนอกนั้นแหละ ฟิลเตอร์หรือตัวกรองอากาศจึงเป็นอุปกรณ์สุดแสนสำคัญสำหรับรถยนต์ การเลือกใช้ไส้กรองก็ต้องมีคุณภาพ ต้องหมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน ใส้กรองปกติจะมีหลายชนิด ต้องรู้จักเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน อ่านต่อ >>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับรถโดยสารสาธารณะ องค์กรที่เป็นเจ้าของยานพาหนะก็ต้องทำการตรวจเช็คประสิทธิภาพของยานพาหนะเป็นประจำด้วย เพราะถึงแม้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลจะมีปริมาณมากบนท้องถนน แต่รถยนต์ที่ส่งควันดำออกมามากและถูกพบเห็นได้บ่อยคือรถโดยสารขนาดใหญ่
ทุกการตวจเช็คประสิทธิภาพทั้งยานภาหนะส่วนบุคคล หรือสาธารณะ แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายสูง แต่หากจะลดมลพิษแล้วก็ต้องลงทุน เพื่อคุณภาพอากาศ และสุภาพของผู้คนในสังคม ซึ่งรวมถึงตัวคุณเองด้วยนั้นให้ดีขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://www.autoinfo.co.th/article/17379/
https://www.autoinfo.co.th/article/265557/
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/890233
next part is coming...