[CR] รีวิว Pajero Sport 2012 2.5VG 4WD ข้อดี ข้อเสีย ปัญหาต่างๆ

สวัสดีครับ ผมจ๊อบ กระทู้รีวิวอันแรก เผื่อใครสนใจเป็นเจ้าของ Pajero Sport โฉมก่อน All New Pajero Sport

โดยรถ Mitsubishi Pajero Sport 2012 2.5VG 4WD คันนี้มีเลขไมล์ประมาน 145,xxx กิโลเมตร อายุประมาน 7 ปี 

ซึ่งหัวข้อที่รีวิวมีดังนี้

1.ทำไมถึงซื้อปาเจโร่ สปอทต์ คันนี้
2.ข้อดี
3.ข้อเสีย
4.ปัญหาประจำรุ่น
5.สิ่งที่แนะนำให้ทำเพิ่มหลังจากได้เป็นเจ้าของ

หากใครที่ไม่ชอบอ่านผมได้ทำคลิปไว้แล้วสามารถรับชมได้เลย
หากใครชอบอ่าน เลื่อนลงมาด้านล่างได้เลย

1.ทำไมถึงซื้อ pajero sport 2012 4WD 2.5VGS - 
รถคันก่อนหน้านี้คือ Honda Civic FD 1.8EL ปี 2008 และได้ขายไปก่อนช่วงน้าท่วมปี 2554
ก็เลยคิดว่าหารถยกสูง เพื่อหนีนํ้าท่วมและนํ้าขังรอการระบาย ประกอบอยากได้รถที่สามารถนั่งได้หลายๆคน แต่ไม่ใช่รถตู้
จึงอยากได้รถ ที่นั่งได้ 7คน 

ซึ่งมีรถ 2แบบ คือ SUV เข่น Honda CR-V, Mazda CX-5, Nissan X-Trail กับ PPV เช่น Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero Sport, Ford Everest
ผมเลือก PPV เพราะเป็นรถที่มาจากพื้นฐานกระบะ ทำให้อะไหล่มีราคาไม่แพง บำรุงรักษาง่ายสไตล์รถกระบะดีเซล และยังสามารถใช้งานแบบลุยๆได้ โดยไม่ต้องเสียดายรถมาก 

- Everest ตอนนั้นยังเป็นโฉมเก่า ซึ่งไม่ชอบรูปลักษณ์เป็นการส่วนตัวจึงไม่ได้อยู่ในตัวเลือก
- Fortuner นั้นเป็นรถยอดนิยมในกลุ่ม PPV แถมยังเป็นเจ้าตลาด แต่ส่วนลดน้อยจึงตัดไป
- Pajero Sport ขับ4 ราคาเท่า Fortuner ขับ2 แถมส่วนลดเยอะ เป็นแสน ส่วนต่างจาก Fortuner ร่วม 2แสนบาทได้ จึงตัดสินใจซื้อ เพราะความคุ้มค่า
และยังชอบระบบขับเคลื่อน4ล้อ ของ Pajero Sport  ที่เปนทั้ง Part time และ Full time ในคันเดียวกัน 
รวมถึงการพับเบาะราบ การขึ้นลงแถม3 นั้นสบาย แต่สิ่งที่ไม่ชอบ ขาดออปชั่น VSC และดิสเบรคล้อหลัง ซึ่งมาตอน minor 2013 ที่เปลี่ยน ดิสหลัง ชุดกันชนหน้า ลายล้อ ครอบไฟเลี้ยวจากโครเมีย่มเปนสีเดียวกับตัวรถ

2.ข้อดี ของ Pajero Sport 2012

2.1 ทนทานไม่จุกจิก
        ตั้งแต่ใช้มา เข้า 0 ตามระยะปกติ มีที่เปลี่ยนนอกเหนืจากนํ้ามันเครื่อง ของเหลวต่างๆ และอะไหล่ที่สึกหรอตามระยะทาง มีเปลี่ยนลูกหมากกันโครงหน้า ตอนแสนโล กับลูกยางกันโคลงหลัง ที่มีอาการบี้แบนจนเหล็กติดเหล็ก ตอน8หมื่นกิโลเมตร
2.2 ถูก คุ้มราคา 
        Pajero Sport ขับ4 ราคาเท่า Fortuner ขับ2 แถมส่วนลดเยอะ เป็นแสน ส่วนต่างจาก Fortuner ร่วม 2แสนบาทได้
2.3 เครื่องเล็ก ได้แรงม้าเยอะ
        Pajero Sport 2500 VG 178 แรงม้า ส่วน Fortuner 3000 163 แรงม้า
        Pajero Sport เครื่องเล็กกว่าแต่ได้แรงม้าตามสเปคสูงกว่า 15 แรงม้า
2.4 บำรุงรักษาง่าย
       เนื่องจากเป็นรถดีเซล ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ การบำรุงรักษาจึง ดูแลเหมือนรถกระบะคันนึง
2.5 ได้เบาะไฟฟ้า ทั้งคนขับ8ทิศ และคนนั่ง4ทิศ
      รถล็อตหลังๆจะได้ เบาะปรับไฟฟ้า8ทิศทางเฉพาะขับคน ส่วนคนนั่งจะได้ 4ทิศทางเท่านั้น
2.6 ระบบชับ4 Part time+ Full time
      ชอบระบบขับเคลื่อน4ล้อ ของ Pajero Sport  ที่เปนทั้ง Part time และ Full time ในคันเดียวกัน 
      Fortuner จะเป็นขับ4ล้อ แบบ Full time ซึ่งการขับ4ตลอดเวลา จะส่งผลเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากขึ้นตามไปด้วย
2.7 ไฟหน้า HID projector
      หรือไฟหน้า Xenon มีค่าแสง 4300K ขาวอมเหลือง ให้ความสว่างได้ดีกว่า LED
      LED ยุคใหม่ที่แสงออกขาวสวยงาม แต่เจอถนนดำและฝนตก Xenon ให้ความสว่าง และทัศนะวิสัยบนถนนได้ดีกว่า LED มาก
2.8 พับเบาะราบ ขึ้นลงแถม3สบาย
     พับราบไม่เสียพื้นที่ด้านข้าง และการขึ้นลงแถว 3 ก็สะดวกสะบาย และเบาะแถว2สามารถเลื่อนขึ้นหน้า-หลังได้ ซึ่งเป็นเบาะแบบ 60:40
2.9 รถติดในเมืองประหยัดกว่าเครื่อง 3.0
     ในกรณีรถติดในเมือง  การจราจรที่รถติดหนัก เครื่อง 2500 กินนํ้ามันน้อยกว่าเครื่อง 3000 

3.ข้อเสีย ของ Pajero Sport

3.1 ขาด VSC 
     VSC เป็นระบบควบคุมการทรงตัว  ที่สำคัญมากในเวลาฉุกเฉิน ยิ่ง Pajero Sport เป็นรถสูง ยิ่งมีความจำเป็นกับ  VSC มากๆ 
3.2 ต้องเปลี่ยนสายพานทุกๆ 1แสนโล
     เนื่องจาก Pajero Sport ไม่ได้ใช้โซ่ ใช้สายพาน จึงต้องเปลี่ยนสายพาน Timing   ทุก 1 แสนกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายประมาน 1 หมื่นบาท
3.3 แรงแต่ ต้องรอรอบ หรืออืด 55+ 
     ต้องรอรอบของเทอร์โบทำงาน โดยประมาน2พันรอบ จะสามารถสัมผัสถึงความแรง 178 แรงม้าได้
3.4 ราคาขายต่อาจสู้เจ้าตลาดไม่ได้
    Mitsubishi เป็นยี่ห้อรอง ราคาขายต่อจึงสู้เจ้าตลาดอย่าง Toyota ไม่ได้ แต่เป็นข้อดีของที่มองหาซื้อเจ้า Pajero Sport
3.5 ขับรถเจอแอ่งนํ้าาจะสาดขั้นกระจก อันคราย ต้องเปิดที่ปัดนํ้าฝน Auto ไว้ช่วยได้
3.6 ไม่มี Auto lock ประตู ตามความเร็ว 
     ขาดออปชั่นเล็กๆน้อยๆ อย่าง ล็อคประตูอัติโนมัติ บางทีถ้ามีเด็กในรถ แล้วลืมล็อค อาจเกิดอันตรายได้
3.7 กินนํ้ามันไปหน่อย
    เก็บข้อมูลกับระยะทาง 1411,17กม ใช้นํ้ามันไป 13,937 ลิตร
    อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย   10.13กม/ล. 
    หรือตกเป็นค่าใช้จ่าย 2.69 บาท/กิโลเมตร

4.ปัญหาประจำรุ่น

4.1 เฟืองท้ายหอน ที่ความเร็ว 80-90 หรือ 110-120 โดยส่วนตัวผมไม่เจอ
4.2 โช๊คหลังชอบรั่ว Tokico ต้นละไม่เกิน1พันบาท
4.3. แร๊คพวงมาลัย ล็อค ส่วนตัว ยังไม่เจอ ถ้าไม่สบายใจ แนะนำให้เปลี่ยนเพื่อความสบายใจครับ
4.4 ถ้าหากเกิดอาการ รถเร่งไม่ขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนกรองดีเซล ถ้ายังไม่หายให่ลองตรวจเช็ค SCV Valve 

5.สิ่งที่แนะนำให้ทำเพิ่มถ้าได้มาเป็นเข้าของ Pajero Sport

    5.1. ติดออยเกียร์เพิ่ม เบิก 0 ใหม่ ประมาน 3500 จะได้ไม่มีปัญหาเวลาไปเที่ยวขึ้นเขาลงห้วยครับ
    5.2. ใส่กรองแอร์เพิ่มเติม เนื่องจากติดรถไม่มีมา (ต้องซื้อฝาปิดกรองแอร์ด้วย) 
    5.3 ยางปรับสุงตำไฟหน้า  อาจบี้แบน หาซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วๆไป ไม่ถึงร้อยบาท
    5.4 เพิ่มเซนเซอแอร์จุดที่3 หน้าคอลโซล Air Auto มีปลั๊กมารออยู๋แล้ว แต่ตัดออปชั่นออกไป
    5.5 ขาดมือจับ เสา A เสา B แต่เราสามารถ DIY ติดตั้งเพิ่มได้ ไม่มีตรงรุ่น
    5.6 น่าจะติดพับกระจกออโต้เวลาล็อครถ เพื่อความสะดวกสบาย
    5.7 เปลี่ยนแตร เสียงดีขึ้น สมกับรถคันใหญ่
    5.8 วาล์วนํ้าซิ่ง เปิดเร็วเร็วขึ้น 72 องศา (ถ้าทำแรง)

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ กับเพื่อนๆที่เป็นเจ้า หรือกำลังจะเป็นเจ้าของ Pajero Sport 

หากใครอยากรับชมเป็นคลิปสามารถดูได้เลยครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Mitsubishi Pajero Sport 2012 2.5VG 4WD
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่