1. เริ่มแรกเลยเสื้อโค้ทตัวนอกสุด ที่เกาหลีไม่นิยมใส่เป็นสีนะคะ ถ้าจะใส่กลมกลืนควรเป็นสีดำ สีนํ้าตาล พวกเอิร์ธโทนพวกนี้ได้อยู่ ตอนเราไปไม่รู้ ใส่โค้ดสีฟ้าที่ซื้อไว้ตอนไปเกาหลีครั้งที่แล้ว แต่ครั้งที่แล้วไปตอนฤดูใบไม้ร่วง พอมาถึงได้รู้ว่าเค้านิยมใส่สีดำ สีนํ้าตาล พวกเอิร์ธโทนพวกนี้กัน ตอนมายังไม่เอะใจ คุยกับเพื่อนว่าเค้าไว้ทุกข์กันหรอ ทำไมใส่แต่สีทึมๆกัน😅😅 แต่พออยู่หลายๆวัน ถึงได้เข้าใจว่าคงเป็นวัฒนธรรมด้านแฟชันของเค้า แต่โค้ทที่ใช้ก็เอาไม่อยู่ต้องไปซื้อเสื้อแหนม (Down jacket หรือ เสื้อขนเป็ด) มาเพิ่ม นอกจากกันหนาวได้ดีแล้วยังลดความอับอายด้วยถ้ายังดันทุรังใส่โค้ดสีฟ้าอยู่ เราแนะนำว่าให้ซื้อที่เกาหลีดีกว่า เพราะถูกกว่าที่ไทยและมีให้เลือกหลายแบบด้วย
 
       2. เสื้อตัวใน ด้วยความขี้หนาว กลัวจะหนาวตาย เราใส่ลองจอน จากนั้นใส่เสื้อไหมพรมอีกตัว และทับด้วยเสื้อโค้ท รวมเป็น 3 ชั้น สำหรับมนุษย์ขี้หนาว อุณหภูมิติดลบอยู่ค่ะ ตัวพองมาก😅😅 ส่วนกางเกงเราใส่ลองจอน แล้วก็กางเกงยีนส์ แค่นี้ก็เอาอยู่ค่ะ รองเท้าก็ผ้าใบ เตรียมบูทไปกะถ่ายรูปสวยๆ เดินเยอะไม่ไหว เจ็บเท้า แนะนำผ้าใบเวิคสุด
 
       3. สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือถุงเท้า เราเลือกแบบบุขน ส่วนถุงมือ ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อ ใช้มือซุกๆที่กระเป๋าเสื้อก็พอ แต่ๆๆๆ ไม่ไหวค่ะ ต้องยอมซื้อ และที่สำคัญ mask ปิดหน้าค่ะ วันแรกที่ไป ไม่ใส่ mask ผลคือหน้าตึง ปากแตก😭😭 กลับที่พักคือต้องซื้อเลย

       4. Hot pack** ดอกจัน 7 ร้อยดอก ไอเท็มที่จำเป็นมาก!! สำคัญมากๆๆๆ สำหรับมนุษย์ขี้หนาวอย่างเรา เราใช้วันละ 2 อัน มือซ้ายกับมือขวา ต้องเขย่าๆ บ่อย อย่าให้มันจับกันเป็นก้อน จริงๆ สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป พิกัดที่แนะนำให้ไปตำคือที่ Daiso เกาหลีค่ะ เยอะและถูก คุ้มสุดๆ 
 
☃การเดินทางไปเกาหลี :
       เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ที่เลือกสายการบินนี้ก็เพราะบินตรง ไม่ค่อยเท และที่สำคัญ ตั๋วถูก เพราะจองช่วงโปรโมชั่น ได้ไปกลับรวมกระเป๋าแล้วประมาณ 7,000 บาทค่ะ แนะนำว่าเช็คโปรบ่อยๆ และอย่าลังเลที่จะจอง เพราะไปต่างประเทศยังไงก็คุ้มค่า 
 
☃วิธีผ่านด่าน ตม. เกาหลี :
       ถ้าเราตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ แล้วไม่ต้องกลัวอะไร เราไปรอบแรกไม่โดนถามอะไร แต่รอบนี้ คนก่อนหน้าเราดันไม่ผ่าน ตม. โดนเรียกเข้าห้องเย็น แล้วคือไปกันกับเพื่อนสองคน แยกกันคนละแถวด้วย นึกภาวนาในใจ ไม่ๆๆ เราไม่ได้มาด้วยกันกับคนหน้า ใช่ๆๆ ชั้นต้องรอด อังกฤษเราก็ไม่แย่นะ เอกสารเราก็พร้อมทั้ง ใบรับรองการทำงาน แพลนเที่ยว ใบจองที่พัก ตั๋วกลับ ใช่ว่าเราไม่เคยมาสักหน่อย ครั้งแรกผ่าน ครั้งนี้ก็ต้องผ่านเว้ยยย!! 🤣🤣พอถึงคิวเรา เค้าถามหาแค่ตั๋วกลับเอง ถึงแม้จะไม่เก่งภาษาแต่จับใจความตอบได้ ก็ผ่านแน่นอน หน้า ตม. เกาหลี เค้าจะโหดก็จริง แต่ถ้าเราใจดีสู้เสือ นึกว่าฉันมาเที่ยวนะ เอาเงินมาให้นะ ยังไงก็ผ่าน เพราะฉะนั้นมีสิ่งเดียวที่อยากจะแนะนำคือ มั่นใจและเตรียมพร้อมให้มากสุด 
       Let's go!! พร้อมออกจาก ตม. ได้แล้ว มองหาป้าย Train ค่ะ แล้วก็เดินตามป้ายเลย พุ่งตัวไปซื้อบัตร T-Money ที่ตู้ ราคาบัตร 4,000 วอน ตู้เติมเงินก็อยู่ข้าง ๆ ควรเติมทีละ 10,000 วอน ก็พอค่ะ เดียวบัตรหาย ยุ่งเลย ข้อดีคือมีบัตรเดียวใช้ได้ทุกอย่าง รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถเมล์, รถบัส ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อก็ได้ บัตรนี้ไม่มีวันหมดอายุนะคะ ส่วน App ที่เราใช้ระหว่างอยู่เกาหลีคือ : Google Map เและ Seoul City Metro Lite ค่ะ