**บทความเปิดเผยบางส่วนของหนัง แต่ไม่ถึงกับเป็นส่วนสำคัญ**
มองจากหน้าหนังถือว่าน่าสนใจมากๆ ในการเอาโลก 2 ใบที่ดูแตกต่างกันสิ้นเชิงมาครอสเจอกัน ซึ่งค่อนข้างมีฐานแฟนคลับอยู่ทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งไทบ้าน และส่วนของน้องๆ BNk เอง พล็อตเรื่องก็ดูจะซิมเปิ้ลตามสไตล์ของไทบ้าน คือจ็อบซัง ที่เป็นผ็จัดการวงส่งน้องๆ 8 คนไปศรีษะเกดเพื่อไปเรียนรู้วิถีชีวิตและทำเพลงออกมาสู้กับตลาด
ตัวหนังจริงๆ ก็ดูได้เพลินเพลินบันเทิงอามณ์และอบอุ่นหัวใจ น้องๆ แต่ละคนน่ารัก และเป็นตัวของตัวเองดี แต่ตัวหนังดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า จึงยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที โดยไม่ค่อยจำเป็น อีกปัญหาคือการวางบทบาทที่ชวนสับสนของตัวน้องว่าอันไหนได้อันไหนไม่ได้ จะให้อธิบายยังไงดี ผู้สร้างน่าจะมีความเกร็งๆ ในการนำน้องมาใช้ เลยเขียนบทแบบเซฟน้อง แต่ใจนึงก็เอาน้องไปลุย แต่ก็ยังเซฟๆ อยู่ดีจนแบบว่า จะเอาไงแน่
บทของฝั่งไทบ้านที่ควรจะเด่นก็กลับค่อนข้างอ่อน และรวบรัดจนงง ทำให้หลายฉากตัวละครก็โผล่ไปโผล่มาแบบงงๆ นึกจะมาก็มาจะไปก็ไป นึกจะงอนก็งอน จะหายงอนก็หาย เหมือนเสียความเป็นตัวเองไป เหมือน"ปล่อยให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงของตัวเอง"ดั่งที่ตัวละครก้อง ห้วยไร่ได้กล่าวไว้
อ้า ใช่แล้ว จะไม่กล่าวถึงตัวละครก้อง ห้วยไร่ ก็ไม่ได้ เห็นได้ชัดเจนว่าก้อง ห้วยไร่ จำเป็นต้องเล่นบทกะเทย ที่ก็ไม่สุดทั้งกะเทย ไม่สุดทั้งชายแท้ มองว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ที่อยากได้ตัวละครโจ๊กๆ ไว้ปรับอารมณ์ แต่ก็อยากได้ความจริงจังด้วย แต่เป็นชายแท้ไม่ได้เพราะอยู่กับน้องแทบจะทั้งเรื่องอาจจะไม่เหมาะสม เลยต้องปรับไปเป็นแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกว่าอะไรวะ แต่ในความที่ก็ชอบก้อง ห้วยไร่ ก็คิดว่าแกคงทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วแหละทำไงได้
ตัวละครอื่นในไทบ้านก็ตามมาตรฐาน ตัวน้องๆ ในวง บางทีก็ปล่อยให้น้องเล่นกันเองค่อนข้างเยอะ ตลกบ้างกริบบ้าง ถ้าเป็นโอตะก็อาจจะถูกอกถูกใจในความน่ารักของน้อง แต่มุมมองคนนอกอาจจะไม่ได้อินมากก็ได้ อันนี้ไม่กล้าตัดสิน แต่หนังเน้นขายน้อง ถ้าไปดูแค่น้องอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่
สารภาพว่าทุกฉากที่มีจ๊อบซังจะต้องบ่นในใจว่า เหรอ ใช่เหรอ เหรอ จริงเหรอ เหรอ เอาแบบนี้เลยเหรอ ก็ได้มั้ง ถ้าไม่ได้คงไม่มีหนังมาฉายแล้ว เราว่าคนที่เป็นโอตะเค้ารู้เช่นเห็นชาติอยู่ว่าจ็อบซังได้มีคุณูปการต่อวง BNK48 อย่างไร เพราะภาพลักษณ์ของจ็อบซังที่ปรากฏในหนังนั้นช่างไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ในชีวิตจริงเอาเสียเลย ขอเตือนโอตะที่จะไปดูในส่วนนี้ว่าอย่าเพิ่งรำคาญไปเสียก่อนหนังจบ
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบช่วงแรกของหนังที่ให้น้องมาทำแอคติวิตี้เช่นจับปลา ทำนา แล้วคัลเจอร์ช็อคกับห้องน้ำบ้านนอก (ส่วนนี้มีอยู่ในตัวอย่างหนัง ไม่ถือว่าสปอยล์) แถมหนังก็เน้นคำว่าบ้านนอกพอสมควรในตอนแรกจนรู้สึกว่าไม่ค่อย PC เท่าไหร่ แต่ตอนหลังๆ ก็เฉยๆ ไปละ แต่ก็ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าน้องๆ จากในเมือง จะเชื่อมโยงกลมกลืนกับชนบทได้สักเท่าใดนัก ไม่รู้ว่าคิดจริงจังไปมั้ย แต่ถ้ามองข้ามได้ก็ข้ามๆ ไปเถอะอย่าไปคิดมากให้ปวดหัว หนังก็คือหนัง
แม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นห่วยจนต้องเลิกดูกลางคัน แต่ก็ค่อนข้างทุลักทุเลในการจะไปถึงปลายทาง โดยเฉพาะการแสดงสินค้าในเรื่อง หรือ product placement ที่ทั้งโต้งๆ แถมยังให้ตัวละครมาพูดโฆษณาให้ฟังอีก เหมือนตั้งใจทำให้ตลก แต่มองว่าดันทุรังมากๆ แถมมีหลายฉากพอสมควรอีกด้วย นี่เราอยู่ในปี 2020 แล้วไม่ใช่ 1010 เสียหน่อย
จริงๆ จะมีที่เคืองอยู่หน่อยๆ คือแอร์ไทม์หมอปลาวาฬน้อยมาก เสียใจ เราชอบหมอปลาวาฬมากๆ มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่เห็นมีข่าวว่าเขาจะทำสปินออฟเรื่องราวของหมอปลาวาฬนะ ก็จะรอดูละกัน
https://www.facebook.com/SendJarJarBinks/
[SR] รีวิว ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้
ตัวหนังจริงๆ ก็ดูได้เพลินเพลินบันเทิงอามณ์และอบอุ่นหัวใจ น้องๆ แต่ละคนน่ารัก และเป็นตัวของตัวเองดี แต่ตัวหนังดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า จึงยาว 2 ชั่วโมง 10 นาที โดยไม่ค่อยจำเป็น อีกปัญหาคือการวางบทบาทที่ชวนสับสนของตัวน้องว่าอันไหนได้อันไหนไม่ได้ จะให้อธิบายยังไงดี ผู้สร้างน่าจะมีความเกร็งๆ ในการนำน้องมาใช้ เลยเขียนบทแบบเซฟน้อง แต่ใจนึงก็เอาน้องไปลุย แต่ก็ยังเซฟๆ อยู่ดีจนแบบว่า จะเอาไงแน่
บทของฝั่งไทบ้านที่ควรจะเด่นก็กลับค่อนข้างอ่อน และรวบรัดจนงง ทำให้หลายฉากตัวละครก็โผล่ไปโผล่มาแบบงงๆ นึกจะมาก็มาจะไปก็ไป นึกจะงอนก็งอน จะหายงอนก็หาย เหมือนเสียความเป็นตัวเองไป เหมือน"ปล่อยให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงของตัวเอง"ดั่งที่ตัวละครก้อง ห้วยไร่ได้กล่าวไว้
อ้า ใช่แล้ว จะไม่กล่าวถึงตัวละครก้อง ห้วยไร่ ก็ไม่ได้ เห็นได้ชัดเจนว่าก้อง ห้วยไร่ จำเป็นต้องเล่นบทกะเทย ที่ก็ไม่สุดทั้งกะเทย ไม่สุดทั้งชายแท้ มองว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่ที่อยากได้ตัวละครโจ๊กๆ ไว้ปรับอารมณ์ แต่ก็อยากได้ความจริงจังด้วย แต่เป็นชายแท้ไม่ได้เพราะอยู่กับน้องแทบจะทั้งเรื่องอาจจะไม่เหมาะสม เลยต้องปรับไปเป็นแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกว่าอะไรวะ แต่ในความที่ก็ชอบก้อง ห้วยไร่ ก็คิดว่าแกคงทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วแหละทำไงได้
ตัวละครอื่นในไทบ้านก็ตามมาตรฐาน ตัวน้องๆ ในวง บางทีก็ปล่อยให้น้องเล่นกันเองค่อนข้างเยอะ ตลกบ้างกริบบ้าง ถ้าเป็นโอตะก็อาจจะถูกอกถูกใจในความน่ารักของน้อง แต่มุมมองคนนอกอาจจะไม่ได้อินมากก็ได้ อันนี้ไม่กล้าตัดสิน แต่หนังเน้นขายน้อง ถ้าไปดูแค่น้องอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่
สารภาพว่าทุกฉากที่มีจ๊อบซังจะต้องบ่นในใจว่า เหรอ ใช่เหรอ เหรอ จริงเหรอ เหรอ เอาแบบนี้เลยเหรอ ก็ได้มั้ง ถ้าไม่ได้คงไม่มีหนังมาฉายแล้ว เราว่าคนที่เป็นโอตะเค้ารู้เช่นเห็นชาติอยู่ว่าจ็อบซังได้มีคุณูปการต่อวง BNK48 อย่างไร เพราะภาพลักษณ์ของจ็อบซังที่ปรากฏในหนังนั้นช่างไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ในชีวิตจริงเอาเสียเลย ขอเตือนโอตะที่จะไปดูในส่วนนี้ว่าอย่าเพิ่งรำคาญไปเสียก่อนหนังจบ
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบช่วงแรกของหนังที่ให้น้องมาทำแอคติวิตี้เช่นจับปลา ทำนา แล้วคัลเจอร์ช็อคกับห้องน้ำบ้านนอก (ส่วนนี้มีอยู่ในตัวอย่างหนัง ไม่ถือว่าสปอยล์) แถมหนังก็เน้นคำว่าบ้านนอกพอสมควรในตอนแรกจนรู้สึกว่าไม่ค่อย PC เท่าไหร่ แต่ตอนหลังๆ ก็เฉยๆ ไปละ แต่ก็ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าน้องๆ จากในเมือง จะเชื่อมโยงกลมกลืนกับชนบทได้สักเท่าใดนัก ไม่รู้ว่าคิดจริงจังไปมั้ย แต่ถ้ามองข้ามได้ก็ข้ามๆ ไปเถอะอย่าไปคิดมากให้ปวดหัว หนังก็คือหนัง
แม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นห่วยจนต้องเลิกดูกลางคัน แต่ก็ค่อนข้างทุลักทุเลในการจะไปถึงปลายทาง โดยเฉพาะการแสดงสินค้าในเรื่อง หรือ product placement ที่ทั้งโต้งๆ แถมยังให้ตัวละครมาพูดโฆษณาให้ฟังอีก เหมือนตั้งใจทำให้ตลก แต่มองว่าดันทุรังมากๆ แถมมีหลายฉากพอสมควรอีกด้วย นี่เราอยู่ในปี 2020 แล้วไม่ใช่ 1010 เสียหน่อย
จริงๆ จะมีที่เคืองอยู่หน่อยๆ คือแอร์ไทม์หมอปลาวาฬน้อยมาก เสียใจ เราชอบหมอปลาวาฬมากๆ มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่เห็นมีข่าวว่าเขาจะทำสปินออฟเรื่องราวของหมอปลาวาฬนะ ก็จะรอดูละกัน
https://www.facebook.com/SendJarJarBinks/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม