ยุค PM2.5 ระบาด ควรปรับตัวอย่างไรดี?

การตื่นแต่เช้าออกไปทำงานถือว่าเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันของประชน ทุกวันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ในใจก็คิดว่าหมอกหนาแบบนี้ ข้างนอกอากาศคงจะเย็น เพราะถึงแม้จะเป็นเช้ามืดที่ท้องฟ้ายังไม่สว่าง แต่ก็สามารถรู้สึกได้เลยว่าท้องฟ้ามันมีหมอกที่ค่อนข้างหนา ถึงแม้จะเป็นเวลาสาย หรือเกือบๆ เที่ยง บางครั้งแดดก็ยังอ่อน เพราะเมฆหมอกบนท้องฟ้าก็ยังคงหนาอยู่ สาเหตุในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีประชากรชาวทำงานอาศัยอยู่กว่า 5 ล้านคน ส่งผลให้กิจกรรมการเผาไหม้จากเครื่องยนต์ดีเซล การคมนาคม หรือการปล่อยก๊าซพิษจากโรงงานอุตาหกรรม กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่างฝุ่นหยาบ PM10 หรือฝุ่นละเอียด PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง หรือกระตุ้นโรคภูมิแพ้ให้แย่ลง  อีกทั้งยังมีอาการจาม ไอ หรือผดผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง ซึ่งแน่นอนว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการแก้ที่ต้นเหตุ แต่ลงท้ายด้วยการเป็นปัญหาระดับชาติ การป้องกันที่ตัวเองถือเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้ เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย N95 ที่มีราคาสูง แต่ก็แก้ขัดได้ด้วยหน้ากากอนามัยธรรมดาสองชั้นซับด้วยผ้าเช็ดหน้า ให้ช่วยทำหน้าที่เป็นฟิลเตอร์กรองอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรสวมไม่ว่าจะเป็นคนเดิน ผู้โดยสารรถประจำทาง หรือแม้แต่ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล เพราะถึงแม้ว่าจะเปิดแอร์ในรถ แต่แน่นอนว่าอากาศที่ถูกกรองข้ามาในตัวรถมันก็คืออากาศจากข้างนอก ยิ่งเป็นก๊าซเสียจากรถยนต์คันข้างหน้ายิ่งแล้วใหญ่ แผ่นกรองอากาศรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน และถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ที่ออกเดินทางไปทำงานนอกบ้าน การอยู่อาศัยที่บ้านก็ยังคงสามารถได้รับผลกระทบได้เช่นเดียวกัน การเปิดหน้าต่างรับลมก็เป็นการเปิดรับอากาศจากภายนอก การมีพัดลมธรรมดาจึงไม่ช่วยอะไร การติดเครื่องปรับอากาศจึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://www.matichon.co.th/local/news_1355395
https://news.thaiware.com/12547.html
http://www.trueplookpanya.com/true/webboard_detail.php?postid=1759&pageNo=1
https://www.daikin.co.th/service-knowledge/pm-2-5/
next part is coming...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่