สวิสเซอแลนด์-ฝรั่งเศส-เยอรมัน ปีใหม่ไม่แพงอย่างที่คิด เก็บเงินที่ละนิด แล้วไปพิชิตยุโรปกัน (45kรวมหมด)

[CR] สวิสเซอแลนด์-ฝรั่งเศส-เยอรมัน ปีใหม่ไม่แพงอย่างที่คิด เก็บเงินที่ละนิด แล้วไปพิชิตยุโรปกัน (45kรวมหมด)

กระทู้รีวิว

เที่ยวยุโรป บันทึกนักเดินทาง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ ภาพถ่ายทิวทัศน์

สวัสดีค่ะ ทุกคน หลังจากไปล่าแสงเหนือที่รัสเซียกันมาเมื่อต้นเดือน ตามกระทู้นี้ค่ะ [CR]Moscow - Murmansk : รัสเซีย เสียใจแย่ถ้าไม่มา คุณขาดีกว่าที่คิด มีสิทธิ์กลับมารอบสี่ (45K) https://ppantip.com/topic/39489292 ถึงคิวไปเที่ยวยุโรปปีใหม่กันแล้ว หลายๆคนอาจจะมองว่าไปยุโรปแพงมันก็ต้องแพงซิ และยิ่งช่วงเทศปีใหม่มันยิ่งแพงขึ้นไปอีก เราเลยจะมารีวิวการวางแพลน ทริคต่างๆ การเอาตัวรอด และการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในยุโรปค่ะ

เริ่มต้นทริป : เริ่มจากมองหาตั๋วเครื่องบินไปกลับ ราคาดี ทำให้เราสามารถควบคุมรายจ่ายของทริปได้ค่ะ วิธีให้ได้ตั๋วถูกเข้า Skyscanner กดไปช่วงวันที่ไปกลับ ใส่จุดหมายปลายทาง ตั้งเตือน notification ราคามาในอีเมลล์ พอราคาปรับลงเราก็ได้จองได้ทันทีค่ะ ได้ตั๋ว Ethihad ไปกลับ 19,500 บาทต่อคน บินวันที่ 27 - 5 มกราคม 2020 ปีใหม่ ราคาแบบนี้ ต่อเครื่องประมาณ 2-3 ชั่วโมงไปกลับ ลง Zurich Switzerland หาได้ยากยิ่งนัก
ต่อมาเราควรจะทำแพลนการเดินทางคร่าวๆ ว่าจะไปเมืองไหน เพื่อหาที่พักตรงกลางไม่ต้องย้ายเมืองบ่อย ที่พักในช่วงเทศกาลราคาจะแพงเป็นพิเศษ ยิ่งสวิสเซอแลนด์ ปกติแพงอยู่แล้ว ปีใหม่แพงเข้าไปอีก 555+

วิธีเดินทางในแต่ละเมือง ศึกษาการเดินทางในแต่ละเมืองว่าเขามี pass แบบไหนบ้างสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น day pass , group ticket, weekend pass ทำให้เราประหยัดได้มากขึ้น ราคาถูกกว่าการกดซื้อตั๋วเป็นรอบๆช่วงเดินทางข้ามประเทศ ต้องจองจากเว็บไหน เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัส ตามความเหมาะสม รถไฟราคาที่ดีที่สุดคือ 2-3 เดือนก่อนเดินทาง

แอพดูระบบสาธารณะแต่ละเมือง
1.Switzerland : SBB แอพเดียวไปทั่วประเทศค่ะ เลือกใช้ Swiss pass เดินทางตลอดสามวัน และใช้ day pass Zurich Albis Ticket 1 วัน
2.Strasbourg : CTS แอพ เลือกใช้ group ticket ซื้อตั๋วได้ในแอพหรือตามสถานี Tram ตั๋ว 1 ใบเดินทางพร้อมกันได้ 2-3 คนค่ะ สามารถนั่ง Tram ข้ามไปเยอรมันได้ด้วย pass นี้
3.Paris : Citymapper แอพ ในยามที่ฝรั่งเศส Strike ประท้วง แอพนี้จะตรงที่สุด บอกสถานีที่เปิด เป๊ะ ส่วน pass เลือกใช้Mobilis Ticket Zone 1-5 และ carnet ticket ตั๋วรายรอบค่ะ

ได้ทุกอย่างครบแล้ว ทำประกันเดินทางและแพลนแบบครอบคลุมตลอดระยะเวลาเดินทาง
วันที่ 1 บินไปสวิสเซอร์แลนด์ Zurich

วันที่ 2 เมืองในสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยว Old town Luzern ,สะพานไม้ Chapel Bridge ,ล่องเรือ Zurich Lake ,เดินเล่นบนเขา Rigi Klum ไปร้าน Freitag ตึกคอนเทรนเนอร์ และ Swiss christmas market

วันที่ 3 เมืองในสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยว lauterbrunnen , หมูบ้าน Murren, ทานอาหารกลางวันบนหุบเขาสถานี Birg, ยอดเขาเจมส์บอนด์ Mt. Schilthorn

วันที่ 4 เมืองในสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยว Bern เมืองหลวง , Zermatt และ Basel city

วันที่ 5 เมืองในเยอรมัน

นั่งจาก Basel ไป Strasbourg France นั่ง Tram มา Germany Kehl ทานอาหารร้าน Local ร้าน Alte Zunft Kehl เดินเล่นโบสถ์ในเมือง Shopping และ Countdown New Year

วันที่ 6 เมืองในฝรั่งเศส

เที่ยวเมือง Strasbourg โบสถ์ เมืองเก่า เดินเล่นริมน้ำ รับประทานอาหารกลางวัน ร้าน Le Troquet des Kneckes นั่งรถเข้า Paris

วันที่ 7 เมืองในฝรั่งเศส

เที่ยว Paris หอไอเฟล ดิสนีย์แลนด์ และช้อปมันส์ๆ ที่ Outlet ตบท้ายด้วย ไอติมกุหลาบร้าน Amorino นั่ง nightbus กลับสวิสเซอแลนด์ (เปลี่ยนแพลน)

วันที่ 8 เมืองในสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยวในเมือง Zurich ชิลล์ๆ Freeday ไปโรงงาน Freitag นั่งกระเช้าชมวิว Top of Zurich เดินเล่นเมืองเก่า Old town ริมแม่น้ำ นั่งรถไฟเก่าสุด Classic Polybahn ไปชมวิวพระอาทิตย์ตก และตบท้ายวันด้วย ร้าน Freitag อีกสาขา ไปจนครบทุกร้าน

วันที่ 9-10 เดินทางกลับประเทศไทย

นำเอกสารไปขอวีซ่าจากประเทศที่อยู่นานที่สุดนะคะ อย่างของทริปนี้ อยู่ Switzerland นานสุดและเข้าประเทศแรก จึงต้องขอวีซ่าจาก VFS ตัวแทนขอวีซ่าประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในไทยค่ะ ถ้าเข้าออกวันเท่ากันให้เลือกประเทศที่เข้าก่อนเป็นตัวทำวีซ่าค่ะ (ปล.เรามีวีซ่าสองปีจากฝรั่งเศส เลยไม่ต้องทำ)

ทุกอย่างดูครบสมบูรณ์เนอะ วีซ่าผ่านทุกคน เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นดี ไงมีเรื่องมาตื่นเต้น ตั๋ว Disneyland Paris 1 แถม 1 จาก KLOOK ตกคนละ 1,600 บาท (Super Magic Day เป็นวันที่ตั๋วเข้าสวนสนุกแพงที่สุด ตกคนละ 3,200 กว่าบาท) ทุกคนตกลงอย่างไม่คิดมาก ไปจ้ะ ค่อยมาเปลี่ยนแพลนที่หลัง มีเรื่องตื่นเต้นกว่านั้นก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์ฝรั่งเศสเกิดประท้วงใหญ่ และยืดยาวที่สุดที่เคยมี รถไฟยกเลิกข้ามเมืองข้ามประเทศยกเลิกเกือบทุกรอบ คิดในใจเราต้องไม่รอดแน่ ตั๋วรถไฟขา Paris กลับไป Zurich ก่อนบินกลับไทย คิดแพลนสำรองไว้ในใจเรียบร้อย ถ้าไม่ได้กลับนิยาว วีซ่าของสวิสเซอแลนด์ให้เวลาทุกคนเข้าออกพอดีเป๊ะเท่ากับที่อยู่ค่ะ นอกจากนี้รถไฟใต้ดินในเมืองหยุดวิ่ง วิ่งแค่สาย 1 และ 14 ที่เป็นสายไม่มีคนขับ เอาไงละ โรงแรมอยู่ metro สาย 5 -...- หาข้อมูลจนเครียด จิตตกไปหมด อ่านรีวิวเห็นราคา Uber ในปารีส ขูดคนใช้บริการและนักท่องเที่ยว คูณราคาจากเดิมไป 2-3 เท่า และรถติดมากค่ะ ใจไม่อยากไปแล้ว อยากเปลี่ยนแพลนมาอยู่สวิสอย่างเดียว แต่น้องน้องในทริปอยากไป อะไปก็ไป ถ้าเจออะไรรับผิดชอบร่วมกันเนอะ สรุปยังคงแพลนเดิม ไปสนามบินแบบไม่เคลียร์

วันออกเดินทาง : 27-12-2019

นั่ง Airport link มาที่สนามบิน แล้วตรงไปที่Row Q Ethihad สายการบินอนุญาตให้โหลดกระเป๋าได้คนละ 30 กิโลกรัมและสามารถ check in online ได้ก่อนการเดินทาง 30 ชั่วโมงค่ะ โหลดกระเป๋าตรงไปปลายทาง เสร็จก็ไปรอขึ้นเครื่องตรง Gate ประมาณหกโมงเย็น

จากกรุงเทพไปต่อเครื่องที่อะบูดาบี บินประมาณ 6 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง ขึ้นมาสักพัก แอร์เสิร์ฟอาหารเย็น วันนี้มีให้เลือก 3 อย่าง เป็นกระเพราไก่ สเต๊กเนื้อคู่กับมันบด และผัดขี้เมาผัก เลือกเมนูที่สอง เมนูเนื้อวัวอร่อยมากกก กินคู่ไวน์แดงยิ่งอร่อยง อาหารดูดีกว่าที่คิด ตอนนี้ Ethihad โดนลดเกรดสายการบิน 5 ดาวมาเป็น 4 ดาว ใจเราก็ยังรู้สึกดีเหมือนเดิมนะ แถวที่นั่ง พี่แอร์คนไทยเป็นคนดูแล เหมือนได้นั่งการบินไทย พี่แกดูแลดี มีมาถามมาคุยตลอดเวลาอยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่า ดีงามที่สุด

วันที่ 28 ธันวาคม 2019

ลงจากเครื่องบิน เดินตามป้าย Transit มาเรื่อยๆ มีจุดเช็คกระเป๋า ค่อยเข้าไปใน Gate อีกรอบ ทิ้งน้ำให้เรียบร้อยนะจ้ะเขาไม่ให้เอาของเหลวเกิน 100 ml เข้าไปนะจ้ะ เข้ามารอใน Gate นั่งเล่นมือถือ ต่อเน็ตฟรี เน็ตในสนามบินแรงมากเว่อร์ ต่อง่ายแค่กด log in เล่นได้ตลอดเวลา มีตู้กดน้ำฟรีด้วย ใครจะไปต่อเครื่องอย่าลืมพกขวดน้ำไปด้วยน๊า

ในสนามบินมีของขายเยอะ ทั้ง brandname และของฝาก ได้ Magnet น่ารักๆมา 1 อัน มันซื้อ 4 แถม 1 มีตะเกียงด้วยถ้าถูแล้วอาลาดินจะออกมามะ

เดินเล่นดูของ จนถึงเวลา boarding time บินต่อไป Zurich ขึ้นเครื่องได้ค่ะ เครื่องลำนี้ดูใหม่กว่าลำที่แล้ว มี WiFi on board ด้วย ลองซื้อ package เล่นดู ราคา 5.95 usd (185 บาท) เร็วใช้ได้แต่จำกัดdata พอถึง data ที่เขากำหนดก็จะใช้ไม่ได้ ตัว package มีหลายราคาให้เลือกนะคะ

ขึ้นเครื่องมาตีตั๋วนอนอย่างเดียว ได้นอนยาว 3 เบาะคนไม่ค่อยเยอะ ประมาณตี 4 ถึงจะได้รับประทานอาหารเช้า เลือกเมนูอาหารเช้า เป็นไข่ออมเลต ไส้กรอก และเห็ดค่ะ เวลา 06.40 น. เครื่องลงจอดที่สนามบิน Zurich ถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ลงจากเครื่องนั่งรถไฟมา Arrival hall รอผ่านตม.เป็นคิวแรกของกลุ่ม ชี้ไปข้างหลังนี้ๆๆๆ เพื่อนหนูหมดเลยค่ะ มาด้วยกัน พี่ตมก็ยิ้มให้แล้วปั๊มๆ ไปได้แล้ว เอกสารที่เอามาเผื่อ พับเก็บไปไม่ได้ใช้ ควรเตรียมมานะคะ ถ้าเขาขอดูจะได้มีให้ เหลือดีกว่าขาด ได้กระเป๋า รอน้องอีกคนที่บินมาก่อน 1 วัน นัดเจอที่สถานีรถไฟ เช้าๆเบลอๆ ปกติรถไฟมันจะมาก่อนเวลาออก กระโดดขึ้นเลย สรุปผิดคันจ้ะ5555+ ดีที่ไปทางเดียวกันกับที่พัก เลยยังแก้ตัวได้ ลงป้ายหน้าแล้วตั้งต้นรอคันใหม่ ผิดแต่เริ่มเลย มึน~

คันต่อไป ใช่แน่ๆ ขึ้นมาบนรถไฟ นั่งตรงไหนก็ได้ของ class 2 เริ่มใช้ Swiss pass แค่เปิด QR code ให้คุณพี่เจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาเช็คบนรถไฟแสกนเท่านี้เอง สะดวกมากเลยค่ะ นั่งรถไฟมาลงสถานี Wauwil เข้าที่พักก่อน เจ้าของให้ check in early ตั้งแต่ 8 โมงเช้า โทรไปหา host แกบอกให้เดินตัดสถานีมา มองเห็นบ้านแกจากตรงสถานีเลย หืมมม บันได ไม่น่าไหว กระเป๋าใบใหญ่ทุกคน เดินอ้อมทางเรียบดีกว่า วิวดี มองเห็นเขาตลอดทาง

เอากุญแจจากกล่องจดหมายหน้าบ้าน host บอกรหัสไว้ในแชท #ที่พักดีกว่าที่คิดไว้มากกก บ้านสองชั้นมีสวนหลังบ้านมีที่กระโดดTampoline และสนามเด็กเล่นขนาดย่อมในสวน วิวข้างหน้าบ้านคือ Alps Mountain มีห้องรับประทานอาหารแบบ Glass House ด้วย เข้ามาในบ้าน เราเหมาทั้งหลัง มี 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ห้องอาบน้ำ 2 ห้องอาหารห้องรับแขก และ ห้องครัวพร้อมเตาผิง สำรวจบ้านเรียบร้อย แยกย้ายกันไปอาบน้ำ

ส่วนเรากับสองสาวเดินไป supermarket ใกล้บ้าน ว่าจะทำฟองดูชีสกินกันเอง ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเลือกชีสอันไหนดี แกแนะนำตัวนี้ หน้ากล่องเป็นรูปหม้อฟองดูเลย ได้ชีสเรียบร้อยหาไวน์ขาวสักขวด ฟองดูคู่ไวน์ขาวอร่อยสุด ซื้อของไปเผื่อทำกับข้าวมื้อเช้าไปด้วยเลย กลับเข้าบ้าน หมักไก่นิวออลีน ทุกคนพร้อมออกเดินทาง เดินลงบันไดตัดลงถึงสถานีเลยใกล้อย่างที่ Host บอกทุกอย่าง