อากิระ นิชิโนะ กุนซือ ทีมชาติไทย เผยว่าการเจอกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นั้นจะไม่เหมือนกับตอนอุ่นเครื่องแน่นอน เพราะจะมีความกดดันมากขึ้น ก่อนกระตุ้นนักเตะท้าทายกับเกมการแข่งขันให้เต็มที่
กุนซือชาวญี่ปุ่นเพิ่งพาทัพช้างศึกจบอันดับ 2 ของตารางผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก เอเอฟซี U23 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ นิชิโนะ เคยพาทีมลงอุ่นเครื่องก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านก่อนพ่าย ซาอุฯ ไป 1-0
“ในฐานะเจ้าภาพรายการนี้ก่อนอื่นถือเป็นเกียรติมากที่ได้พาทีมชาติผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ที่ผ่านมานักเตะทุกคนเต็มที่ แต่ละคนแบ่งหน้าที่ของตัวเองได้ดีจนผลงานทำให้เราผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ” กุนซือช้างศึก U23 เริ่มกล่าว
“ในรอบนี้ผมคิดว่านักเตะจะได้เจอกับบรรยากาศที่แตกต่างกัน และมีความกดดันมากขึ้นแน่นอนว่าคู่ต่อสู้ของเราคือ ซาอุดิอาระเบีย พวกเขามีความแข็งแกร่งมากกว่า แต่เรายังยึดรูปแบบการเล่น และคอนเซปต์เหมือนเดิมของเรา คือการเคลื่อน และอย่างหนึ่งคือต้องชาเลนจ์คู่แข่งตลอดเวลาที่ผ่านมาพยายามให้นักเตะท้าทายกับเกมเต็มที่ ซึ่งหลังจากนี้เราจะพยายามเพิ่มความท้าทายมากยิ่งขึ้นไปอีก”
“ที่ผ่านมาผมได้ทำความรู้จักกับฟุตบอลซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างดี แต่พวกเขามีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย ในตอนอุ่นเครื่องเมื่อต้นปีกับเรา เขาใช้กองหลัง 4 คน แต่พอเข้ารายการ แม้จะไม่ได้ดูที่สนาม แต่ก็ดูผ่านการถ่ายทอดสดใน 2 นัดแรกใช้กองหลัง 3 คน มานัดสุดท้ายใช้กองหลัง 4 คน ทำให้รูปแบบการเล่นหลากหลาย ผู้เล่นลงมาทดแทนกันได้ ที่ผ่านคิดว่า คุ้นเคยกับการแข่งกับ ซาอุ พวกเขามีศัภยภาพในทางกายภาพดีกว่าเรา และมีรูปแบบชัดเจน นักเตะก็สามารถทำไดตามเป้า ซึ่งน่าจะยกย่องพวกเขาในตรงนี้”
“จากแมตช์อุ่นเครื่องเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งสองทีมน่าจะเปลี่ยนเป็นคนละทีม เนื่องจากตอนนั้นเราเพิ่งเก็บตัว ส่วนซาอุดิอาระเบีย เองเพิ่งเดินทางถึงไทย ทำให้เป็นเกมที่ใช้ทดลองอะไรหลายอย่าง จังหวะการเล่นของซาอุดิอาระเบียตอนนั้นไม่ได้เร็วมากนัก แต่พอมาเริ่มทัวร์นาเมนต์จริงพวกเขาแสดงให้เห็นว่า มีจังหวะการเล่นของนักเตะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณต่างจากตอนเกมอุ่นเครื่อง เราต้องหาทางรับมือมากกว่านี้ เมื่อเทียบกันเรามีการเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ก็ไม่เท่าซาอุดิอาระเบีย ก็คิดว่าจะต้องหาส่วนอื่นมาชดเชยให้ได้”
จากนั้นสื่อประเทศญี่ปุ่นได้ยิงคำถามถึง นิชิโนะ ที่เคยพาทัพซามูไรบลูไปเล่นโอลิมปิกเมื่อปี 1996 ซึ่งตอนนั้นในรอบคัดเลือกโซนเอเชียต้องเจอซาอุ และคิดว่าจะช่วยให้ได้เปรียบหรือไม่
โดยนิชิโนะ ตอบว่า “จากประสบการณ์ที่เคยเจอมาจะบอกได้เปรียบก็คงไม่เชิง พวกเขามีรูปแบบการเล่นตามสไตล์ของตัวเองมานาน มีความแข็งแกร่งทางร่างกาย และใช้เทคนิค ดี รวมถึงมีแผนการเล่นหลากหลาย สิ่งเราต้องเน้นคือให้นักเตะรู้ว่าควรทำอะไร คิดว่าจะนำประสบการณ์ที่ผ่านมาช่วยตรงนี้ได้นิดหน่อย”
“นักเตะเราชุดนี้อ่อนประสบการณ์ในรายการใหญ่ ส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่ในอาเซียนมากกว่า ตอนนี้ผมพยายามสร้างบรรยากาศในทีมให้ช่วยกันสู้ และทำงานเป็นทีม ถ้าผมรู้จักนักเตะมากกว่านี้ก็น่าจะดึงศักยภาพออกมาได้มากกว่า นักเตะทุกคนมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต อยากให้นักเตะตั้งเป้าหมายที่สูงไปไกลกว่านี้เช่นเดียวกัน” นิชิโนะ ปิดท้าย
credit: foxsports
อากิระ นิชิโนะ เผยก่อนดวลกับ ซาอุดิอาระเบีย !!
อากิระ นิชิโนะ กุนซือ ทีมชาติไทย เผยว่าการเจอกับ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นั้นจะไม่เหมือนกับตอนอุ่นเครื่องแน่นอน เพราะจะมีความกดดันมากขึ้น ก่อนกระตุ้นนักเตะท้าทายกับเกมการแข่งขันให้เต็มที่
กุนซือชาวญี่ปุ่นเพิ่งพาทัพช้างศึกจบอันดับ 2 ของตารางผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึก เอเอฟซี U23 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ นิชิโนะ เคยพาทีมลงอุ่นเครื่องก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านก่อนพ่าย ซาอุฯ ไป 1-0
“ในฐานะเจ้าภาพรายการนี้ก่อนอื่นถือเป็นเกียรติมากที่ได้พาทีมชาติผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ที่ผ่านมานักเตะทุกคนเต็มที่ แต่ละคนแบ่งหน้าที่ของตัวเองได้ดีจนผลงานทำให้เราผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ” กุนซือช้างศึก U23 เริ่มกล่าว
“ในรอบนี้ผมคิดว่านักเตะจะได้เจอกับบรรยากาศที่แตกต่างกัน และมีความกดดันมากขึ้นแน่นอนว่าคู่ต่อสู้ของเราคือ ซาอุดิอาระเบีย พวกเขามีความแข็งแกร่งมากกว่า แต่เรายังยึดรูปแบบการเล่น และคอนเซปต์เหมือนเดิมของเรา คือการเคลื่อน และอย่างหนึ่งคือต้องชาเลนจ์คู่แข่งตลอดเวลาที่ผ่านมาพยายามให้นักเตะท้าทายกับเกมเต็มที่ ซึ่งหลังจากนี้เราจะพยายามเพิ่มความท้าทายมากยิ่งขึ้นไปอีก”
“ที่ผ่านมาผมได้ทำความรู้จักกับฟุตบอลซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างดี แต่พวกเขามีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย ในตอนอุ่นเครื่องเมื่อต้นปีกับเรา เขาใช้กองหลัง 4 คน แต่พอเข้ารายการ แม้จะไม่ได้ดูที่สนาม แต่ก็ดูผ่านการถ่ายทอดสดใน 2 นัดแรกใช้กองหลัง 3 คน มานัดสุดท้ายใช้กองหลัง 4 คน ทำให้รูปแบบการเล่นหลากหลาย ผู้เล่นลงมาทดแทนกันได้ ที่ผ่านคิดว่า คุ้นเคยกับการแข่งกับ ซาอุ พวกเขามีศัภยภาพในทางกายภาพดีกว่าเรา และมีรูปแบบชัดเจน นักเตะก็สามารถทำไดตามเป้า ซึ่งน่าจะยกย่องพวกเขาในตรงนี้”
“จากแมตช์อุ่นเครื่องเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งสองทีมน่าจะเปลี่ยนเป็นคนละทีม เนื่องจากตอนนั้นเราเพิ่งเก็บตัว ส่วนซาอุดิอาระเบีย เองเพิ่งเดินทางถึงไทย ทำให้เป็นเกมที่ใช้ทดลองอะไรหลายอย่าง จังหวะการเล่นของซาอุดิอาระเบียตอนนั้นไม่ได้เร็วมากนัก แต่พอมาเริ่มทัวร์นาเมนต์จริงพวกเขาแสดงให้เห็นว่า มีจังหวะการเล่นของนักเตะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณต่างจากตอนเกมอุ่นเครื่อง เราต้องหาทางรับมือมากกว่านี้ เมื่อเทียบกันเรามีการเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ก็ไม่เท่าซาอุดิอาระเบีย ก็คิดว่าจะต้องหาส่วนอื่นมาชดเชยให้ได้”
จากนั้นสื่อประเทศญี่ปุ่นได้ยิงคำถามถึง นิชิโนะ ที่เคยพาทัพซามูไรบลูไปเล่นโอลิมปิกเมื่อปี 1996 ซึ่งตอนนั้นในรอบคัดเลือกโซนเอเชียต้องเจอซาอุ และคิดว่าจะช่วยให้ได้เปรียบหรือไม่
โดยนิชิโนะ ตอบว่า “จากประสบการณ์ที่เคยเจอมาจะบอกได้เปรียบก็คงไม่เชิง พวกเขามีรูปแบบการเล่นตามสไตล์ของตัวเองมานาน มีความแข็งแกร่งทางร่างกาย และใช้เทคนิค ดี รวมถึงมีแผนการเล่นหลากหลาย สิ่งเราต้องเน้นคือให้นักเตะรู้ว่าควรทำอะไร คิดว่าจะนำประสบการณ์ที่ผ่านมาช่วยตรงนี้ได้นิดหน่อย”
“นักเตะเราชุดนี้อ่อนประสบการณ์ในรายการใหญ่ ส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่ในอาเซียนมากกว่า ตอนนี้ผมพยายามสร้างบรรยากาศในทีมให้ช่วยกันสู้ และทำงานเป็นทีม ถ้าผมรู้จักนักเตะมากกว่านี้ก็น่าจะดึงศักยภาพออกมาได้มากกว่า นักเตะทุกคนมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต อยากให้นักเตะตั้งเป้าหมายที่สูงไปไกลกว่านี้เช่นเดียวกัน” นิชิโนะ ปิดท้าย
credit: foxsports