#มุมมืดในญี่ปุ่น " เด็กผู้หญิงอายุ 17 ปีอาศัยอยู่กับชายวัยกลางคนที่ไม่รู้จัก "

เด็กผู้หญิงอายุ 17 ปีอาศัยอยู่กับชายวัยกลางคนที่ไม่รู้จัก 

" ชีวิตของฉันถูกทำให้สับสนโดยแม่ที่เห็นแก่ตัว "


( ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา  :: 'Pic pinterest )

#มุมมืดในญี่ปุ่น ชีวิตของฉันถูกทำให้สับสนโดยแม่ที่เห็นแก่ตัว

“ ยูริ " เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 17 ปี ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกุมมะ

" ฉันมีปัญหา "
เธอเริ่มต้นประโยคแบบนี้
เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูฉลาดเฉลียวแต่ตัวเล็กแบบเด็กมัธยมทั่วไป

แม่หยุดการดูแลฉันและหนีไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันถูกทิ้งให้อยู่กับผู้ชายแปลกหน้า ฉันไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรจริง ๆ "

#เธอเริ่มร้องไห้

ยูริน่าป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ - ญี่ปุ่น  (แม่เป็นชาวฟิลิปปินส์) แม่ของเธอมาญี่ปุ่นตั้งแต่อายุ 18 ปีด้วยวีซ่าผู้ให้ความบันเทิง
การมาวีซ่าให้ความบันเทิงจะอยู่ญี่ปุ่นได้นาน 3 เดือน สามารถต่อได้อีก 3 เดือน

แม่ของยูริก็เช่นกัน เมื่อใกล้ครบกำหนดวีซ่า ทางเดียวที่จะอยู่ประเทศนี้ต่อได้ คือต้องแต่งงานกับคนญี่ปุ่น
และหลายครั้ง การที่จะแต่งงานกับคนญี่ปุ่นได้คือต้องท้องก่อน

" แม่ของยูริ ตั้งท้องกับแขกของเธอด้วยความจำเป็น ส่วนพ่อของยูริ แต่งงานกับแม่เธอก็ด้วยความจำใจ “

*********
*********

ชีวิตครอบครัวแบบจำใจ ไม่ยาวพอ

พอเธออายุ 2 ขวบ พ่อกับแม่ก็หย่ากัน
หลังจากหย่ากับพ่อ แม่ก็พายูริย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ว่าผู้ชายของแม่ในช่วงนั้นๆ อาศัยอยู่ที่ไหน

ยูริโตมาด้วยสภาพอย่างนี้ เธอถูกไล่เข้าไปอยู่แต่ในห้องทุกทีที่แม่พาผู้ชายกลับมาบ้าน

ครั้งสุดท้ายตอน ป. 5 แม่พาผู้ชายคนนึงมา แต่ไม่ไล่เธอเข้าห้อง ซ้ำยังแนะนำให้รู้จัก ในฐานะ " พ่อใหม่ "
พ่อใหม่เป็นผู้ชายสูงอายุและดูใจดี เค้าทำงานในโรงงานรถยนต์

ยูริเข้ากับพ่อใหม่ได้ดี

#ไม่นานเท่าไหร่เธอกับแม่ก็ย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของพ่อใหม่

********
********

พ่อใหม่ดีกับยูริมาก

หลังจากแต่งงานกับพ่อใหม่ แม่ก็ออกจากงานมาเป็นแม่บ้านอย่างเดียว
ยูริย้ายมาเรียนใกล้ๆ กับบ้านพ่อใหม่ที่กุมมะ  เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก เธอเป็นเด็กค่อนข้างเก็บตัว

ไม่นานแม่ก็ตั้งท้อง ยูริมีน้องเพิ่มมาอีกคนนึง ตอนนั้นชีวิตของเธอเรียบง่ายและมีความสุขตามประสา

#เธอคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอด ....

*********
*********

แต่หลังจากมีน้องเพียงไม่นาน ยูริก็พบว่า พ่อกับแม่เริ่มมีปัญหากัน เริ่มทะเละและเสียงดังใส่กัน
ปัญหาส่วนหนึ่งคงเพราะพ่อทำงานคนเดียว ก็เลยไม่สามารถรับภาระเลี้ยงดูแม่กับน้องและยูริได้

#รายได้มีน้อยเกินไป

หลังจากนั้น แม่ก็ออกไปหางานทำ แม่ออกไปทำงานและหายไปบ่อย ๆ บางครั้ง 2 วัน บางครั้ง 3 วัน หลายครั้งนานกว่านั้น
พอแม่กลับบ้าน พ่อกับแม่ก็จะทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน ยูริต้องอุ้มน้องหนีออกไปที่อื่นก่อน รอให้พ่อกับแม่สงบก่อน ถึงจะกลับเข้าบ้านได้

แต่บางครั้งแม่ก็เลือกที่จะพาผู้ชายมาที่บ้านในช่วงที่พ่อไม่อยู่ และเช่นเดิมยูริถูกห้ามออกมาจากห้อง เธอต้องอยู่แต่ในห้องกับน้อง

#สถานการณ์ในบ้านแย่ลง ๆ

แม่ยิ่งหายจากบ้านบ่อยขึ้น และนานขึ้น พ่อกลายเป็นคนเกรี้ยวกราดและอารมณ์ร้าย
ช่วงหลัง ๆ พ่อมักหันมาระเบิดอารมณ์ใส่ยูริแทน ก็คงเพราะแม่ไม่อยู่นั่นแหละ

" พ่อด่าว่าฉันคือภาระ และทำไมต้องเลี้ยงฉันด้วย ฉันไม่ใช่สายเลือดของพ่อสักหน่อย "

พ่อเกลียดฉันที่เป็นลูกของแม่ " ลูกของผู้หญิงส่ำส่อน " นี่คือคำที่พ่อใช้ตะโกนเรียกฉันเวลาที่พ่อโกรธหรือโมโห

หลายครั้งเธอถูกพ่อใหม่ทุบตีเมื่อแม่ไม่ยอมกลับมาบ้าน

" ไม่ว่าฉันจะเจ็บปวดแค่ไหนฉันก็ต้องอดทน ฉันยังมีน้องสาว "

ความสุขที่เคยคิดว่าจะคงอยู่ตลอดไปเลือนหายไปในเวลาเพียงไม่นาน

*********
*********

ตอนขึ้นมัธยมปลายปี 1 ยูริโดนแม่บังคับให้ออกจากโรงเรียนเพื่อมาคอยดูแลน้องที่ยังเล็ก เธอร้องไห้ทุกวัน เธอยังอยากไปโรงเรียน เธอยังอยากเรียนหนังสือ

หลังจากนั้นแม่ก็หายออกจากบ้านนานขึ้น บางครั้งเป็นเดือน แม่ไม่เคยบอกว่าไปอยู่ไหน และไม่เคยส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ยูริ
ยูริอยู่กับพ่อเลี้ยง ต้องคอยดูแลน้อง และทำงานบ้านต่าง ๆ แทนที่แม่

หลังจากนั้นไม่นาน แม่ก็กลับมาบอกว่าแม่จะหย่ากับพ่อเพื่อไปแต่งงานใหม่

#เพราะตอนนี้แม่กำลังตั้งท้องกับผู้ชายคนใหม่ ....

*********
*********

พ่อกับแม่หย่ากัน 

แม่ผลักภาระการเลี้ยงดูน้องและยูริให้พ่อ แม่ไม่ต้องการยูริ และบอกว่าเธอไม่ควรขวางทางชีวิตใหม่ของแม่ที่กำลังจะเริ่มต้นกับผู้ชายอีกคน พร้อมลูกในท้อง ....

หลังหย่าเสร็จ แม่ก็จากไปโดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง นั่นมันก็นานเกินครึ่งปีแล้วถ้านับจนถึงวันนี้ ไม่มีการติดต่อกลับมาของแม่ ไม่มีแม้แต่โทรศัพย์เพื่อไต่ถามสารทุกข์สุกดิบหรือบอกเล่าข่าวคราวใดๆจากแม่

ส่วนพ่อ

พ่อไม่ต้องการยูริ เพราะยูริไม่ใช่สายเลือดของพ่อ พ่อจะเลี้ยงน้องของยูริแค่คนเดียว

#ยูริกลายเป็นส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการ

เธออยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่เกิด ไม่เคยกลับประเทศฟิลิปินส์บ้านเกิดของแม่ เธอไม่รู้จักญาติ ๆ ที่ฟิลิปินส์เลยสักคน
พ่อแท้ ๆ ยูริเองก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ ตั้งแต่ 2 ขวบ ยูริไม่เคยพบพ่อผู้ให้กำเนิดอีกเลย และไม่คิดตามหา เพราะรู้ว่าพ่อเองก็ไม่ได้ต้องการเธอ
เธอไม่มีใครเหลือเลยในชีวิต ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีใครให้พึ่งพิง 

เป็นชีวิตเด็ก 17 ที่แสนโดดเดี่ยว

********
********

พ่อและแม่พาเธอไปฝากใว้กับชายแปลกหน้าคนนึง และไม่ติดต่อกับเธออีกเลย

เค้าไม่ใช่เพื่อนพ่อด้วยซ้ำ  เป็นแค่คนรู้จักห่าง ๆ เท่านั้นเอง เค้าเป็นชายโสดอายุ 38 ปี ที่มีบ้าน 2 ชั้นเป็นของตัวเอง เค้ายอมให้ยูริอยู่ที่นี่ได้ แลกกับการที่ยูริต้องคอย ทำอาหาร ซักผ้า และทำงานบ้านให้เค้า

กลางวันเธอต้องไปทำงานที่ร้านเสริมสวย เธอทำงานอย่างหนัก เพื่อแลกกับรายได้ 60,000 เยน ต่อเดือน ที่นี่เป็นที่เดียวที่รับเธอเข้าทำงาน เธออายุแค่ 17 และไม่มีความรู้อะไรเลย

#แต่ยูริยังมีความหวัง

สถานการณ์ของเธอเต็มไปด้วยปัญหาต่าง ๆ
เธอถูกแม่ทอดทิ้ง
เธอถูกพามาอยู่กับผู้ชายที่ไม่รู้จัก
เธอต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแลกกับการมีที่พัก 

“ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ และกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง และอาจจะเรียนเสริมสวยเพิ่ม ฉันอยากทำงานที่มีรายได้พอจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่ากินค่าใช้ของตัวเอง “

#ความฝันแสนเรียบง่ายแต่ทำไมเหมือนมันห่างไกลจริง ๆ

เธอเก็บเงินใว้ เธออยากเรียนหนังสือ
เธออยากมีอนาคต
แต่ด้วยวัย 17 ปีตอนนี้ ที่ทำอะไรแทบไม่ได้ แม้แต่เช่าบ้านด้วยตัวเองยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ....

และเธออาจต้องลงเอยด้วยการแต่งงานกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เพื่อความอยู่รอดของเธอ

*** หมายเหตุ :: เธออาจไม่ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานสาธารณะใด ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเธอ

*********
*********

อยากเล่าเรื่องนี้เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กลูกครึ่งญี่ปุ่น สิ่งที่อยากบอกแม่ ๆ คนไทยที่ญี่ปุ่นคือ

1. อย่าทิ้งลูกของคุณไม่ว่ายังไง เพราะเค้าไม่มีใครนอกจากคุณ
2. พาเค้ากลับประเทศบ้านเกิดบ้าง ให้เค้าได้คุ้นเคยกับญาติๆ พี่น้องบ้าง

เผื่อวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับเรา เค้าจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีใคร อย่างน้อยยังมีญาติๆ ที่ประเทศไทยที่เค้าจะกลับไปหาได้

********
********

บทความแปลภาษาญี่ปุ่นและนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่ออรรถรสในการอ่านโดย เพจ :: ซากุระเที่ยงคืน.

https://www.facebook.com/SakuraInDaDark/

( ฝากเพจด้วยนะคะ เป็นเพจที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน และด้านมืดของสังคมญี่ปุ่น )

บทความต้นฉบับโดยคุณ Atsuhiko Nakamura : นักเขียนนักเขียนสารคดี 

ลิ้งต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
👇🏻👇🏻👇🏻
https://toyokeizai.net/articles/-/314640

ป ล. ภาพประกอบบทความเฉยๆ ไม่ใช่ยูริ

Pic :: pinterest
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่