คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ไปบอกพ่อเลยว่า มีคนในนี้เลือกไม่อยากให้ลูกเรียนหมอ เจอแต่โรคภัย การเจ็บป่วย ต้องเข้าเวร
เรียนหนักมาก จึงให้ลูกเรียนวิศวะ อินเตอร์สามารถไปทำงานบริษัท ตปท ได้เงินก็ดี พ่อแม่ตามไปเที่ยว มีชีวิตอิสระ ท่องเที่ยว และเรียนจนจบ ป โท ด้านบริหาร ปัจจุบันอายุ40 ขึ้นตำแหน่งสูงถึงยอดบริษัทชั้นนำแล้วค่ะ เงินเดือนไม่น่าจะน้อยกว่าหมอนะคะ
ให้พ่อหลังไมค์มาเลย จะช่วยพูดให้ค่ะ
มีกระทู้คนเรียนหมอแล้วไม่จบเพราะไม่ชอบ ยังหาไม่เจอ เสียดายเวลาค่ะ
เรียนหนักมาก จึงให้ลูกเรียนวิศวะ อินเตอร์สามารถไปทำงานบริษัท ตปท ได้เงินก็ดี พ่อแม่ตามไปเที่ยว มีชีวิตอิสระ ท่องเที่ยว และเรียนจนจบ ป โท ด้านบริหาร ปัจจุบันอายุ40 ขึ้นตำแหน่งสูงถึงยอดบริษัทชั้นนำแล้วค่ะ เงินเดือนไม่น่าจะน้อยกว่าหมอนะคะ
ให้พ่อหลังไมค์มาเลย จะช่วยพูดให้ค่ะ
มีกระทู้คนเรียนหมอแล้วไม่จบเพราะไม่ชอบ ยังหาไม่เจอ เสียดายเวลาค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
ถึงจขกท.นะคะ เราในฐานะที่ผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน...
ตอนสอบเข้ามหาลัยคุณพ่อเราเองก็ไม่ได้อยากให้เรียนวิศวะสายที่เราเลือก แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านหัวชนฝาขนาดนี้
แกแค่บ่นๆให้คุณแม่ฟังเฉยๆว่าจะดีเหรอ อยากให้เรียนสายที่เกี่ยวข้องกับพวกคอมพิวเตอร์มากกว่า
เป็นผู้หญิงจะทำงานสายนี้ได้เหรอ? ซึ่งเราได้คุยกับคุณพ่อเรื่องนี้แล้ว
คุณพ่อไม่ได้เหยียดว่าผู้หญิงไม่มีความสามารถเท่าผู้ชายในเรื่องนี้
แต่คุณพ่อห่วงว่าสังคมประเทศนี้มันค่อนข้างมีพวกที่เชื่อว่าการมีจู๋โน่คือที่สุดของสุดยอดเผ่าพันธุ์
และมันคงสร้างความลำบากในหน้าที่การงานในอนาคตของเรา ในวงการวิศวกรก็มีพวกนี้อยู่เยอะค่ะ
(แต่หลังจากเราเข้ามาทำงาน เราเองก็พบว่าพวกที่ทัศนคติดีๆก็มีอยู่เยอะเช่นกัน พวกที่ยอมรับกันที่ผลงานไม่ใช่จู๋โน่)
จงคิดไว้ว่าธรรมชาติสร้างคนที่มีมุมมองทางความคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าชายหรือหญิง
สร้างความหลากหลายนี้ขึ้นก็เพื่อปิดจุดด้อยเสริมจุดแข็งของกันและกันในการทำงานค่ะ ถ้าทำได้ก็คือทีมเวิร์ค
ตอนนั้นเราอธิบายแล้วแต่คุณพ่อก็ยังไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ได้คัดค้านบอกแค่ว่า ให้เราเลือกตามที่เราเห็นว่าดีก็แล้วกัน
คุณแม่เองก็บอกว่าแม่ก็ไม่เคยเรียนเรื่องนี้ จะให้คำแนะนำก็ดูจะตลกเกินไป แม่จะรู้ดีในสิ่งที่ไม่เคยรู้ได้ยังไง แม่บอกได้แค่สิ่งที่แม่รู้
ดังนั้นเราจึงเลือกเรียนในสิ่งที่เราอยากเรียนค่ะ จขกท.อย่าลืมนะคะว่าการเลือกนี้คือตัวกำหนดทิศทางชีวิตของ จขกท.
คุณต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอด ถ้าคุณไม่ชอบมันก็จบเห่ ดังนั้นเลือกที่ตัวเองชอบ
ถ้าคุณพ่อไม่ได้เรียนแทนเรา ไม่ได้ใช้ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้แทนเรา
ก็จงเลือกในสิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราเป็นค่ะ
ทุกวันนี้เราเรียนจบและทำงานในสายที่เรารัก เรามีความสุขกับการตื่นทำงานไปทุกเช้า
และที่ดีที่สุด คือ เราได้พิสูจน์และแสดงให้คุณพ่อเห็นว่าไม่ใช่ทุกทางเลือกที่พ่อแม่เห็นว่าดี มันจะดีกับลูกเสมอไป
หรือทางที่ลูกเลือกมันจะเลวร้ายอย่างที่พ่อแม่คิด ประสบการณ์ของคนๆหนึ่งไม่สามารถตัดสินเส้นทางชีวิตของคนอีกคนได้
ที่ทำได้คือคอยบอกว่าเส้นทางไหนที่เขาเคยไปแล้วมันเลวร้าย พ่อแม่ควรเคารพยอมรับในสิ่งที่ลูกเลือกเช่นกัน
ในฐานะลูกก็อยากจะบอกพ่อแม่ที่ผ่านมาอ่าน ว่าคุณไม่มีทางอยู่กับลูกไปได้ชั่วชีวิต ถ้าเส้นทางชีวิตของเขา
เขายังไม่สามารถที่จะตัดสินใจเองได้ในวันนี้ คุณคาดหวังอะไรถ้าวันหนึ่งคุณไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว
คุณนำทางพวกเขาไปยังสิ่งที่คุณคิดว่าดีตลอดไม่ได้ คุณต้องให้เขาเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเองตอนที่คุณยังมีชีวิตอยู่
ถ้าวันหนึ่งลูกต้องล้มลงและเสียใจในสิ่งที่เค้าเลือก เค้าจะได้รับรู้ว่ายังมีบ่าและอ้อมกอดของพ่อแม่ที่จะคอยปลอบใจเขา
แทนที่เขาจะถูกจูงไปตลอดชีวิต และในวันหนึ่งที่คุณจากไป คุณจะทิ้งลูกตาบอดคนนึงไว้บนโลกนี้แทน
ตอนสอบเข้ามหาลัยคุณพ่อเราเองก็ไม่ได้อยากให้เรียนวิศวะสายที่เราเลือก แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านหัวชนฝาขนาดนี้
แกแค่บ่นๆให้คุณแม่ฟังเฉยๆว่าจะดีเหรอ อยากให้เรียนสายที่เกี่ยวข้องกับพวกคอมพิวเตอร์มากกว่า
เป็นผู้หญิงจะทำงานสายนี้ได้เหรอ? ซึ่งเราได้คุยกับคุณพ่อเรื่องนี้แล้ว
คุณพ่อไม่ได้เหยียดว่าผู้หญิงไม่มีความสามารถเท่าผู้ชายในเรื่องนี้
แต่คุณพ่อห่วงว่าสังคมประเทศนี้มันค่อนข้างมีพวกที่เชื่อว่าการมีจู๋โน่คือที่สุดของสุดยอดเผ่าพันธุ์
และมันคงสร้างความลำบากในหน้าที่การงานในอนาคตของเรา ในวงการวิศวกรก็มีพวกนี้อยู่เยอะค่ะ
(แต่หลังจากเราเข้ามาทำงาน เราเองก็พบว่าพวกที่ทัศนคติดีๆก็มีอยู่เยอะเช่นกัน พวกที่ยอมรับกันที่ผลงานไม่ใช่จู๋โน่)
จงคิดไว้ว่าธรรมชาติสร้างคนที่มีมุมมองทางความคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าชายหรือหญิง
สร้างความหลากหลายนี้ขึ้นก็เพื่อปิดจุดด้อยเสริมจุดแข็งของกันและกันในการทำงานค่ะ ถ้าทำได้ก็คือทีมเวิร์ค
ตอนนั้นเราอธิบายแล้วแต่คุณพ่อก็ยังไม่ยอมรับแต่ก็ไม่ได้คัดค้านบอกแค่ว่า ให้เราเลือกตามที่เราเห็นว่าดีก็แล้วกัน
คุณแม่เองก็บอกว่าแม่ก็ไม่เคยเรียนเรื่องนี้ จะให้คำแนะนำก็ดูจะตลกเกินไป แม่จะรู้ดีในสิ่งที่ไม่เคยรู้ได้ยังไง แม่บอกได้แค่สิ่งที่แม่รู้
ดังนั้นเราจึงเลือกเรียนในสิ่งที่เราอยากเรียนค่ะ จขกท.อย่าลืมนะคะว่าการเลือกนี้คือตัวกำหนดทิศทางชีวิตของ จขกท.
คุณต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอด ถ้าคุณไม่ชอบมันก็จบเห่ ดังนั้นเลือกที่ตัวเองชอบ
ถ้าคุณพ่อไม่ได้เรียนแทนเรา ไม่ได้ใช้ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้แทนเรา
ก็จงเลือกในสิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราเป็นค่ะ
ทุกวันนี้เราเรียนจบและทำงานในสายที่เรารัก เรามีความสุขกับการตื่นทำงานไปทุกเช้า
และที่ดีที่สุด คือ เราได้พิสูจน์และแสดงให้คุณพ่อเห็นว่าไม่ใช่ทุกทางเลือกที่พ่อแม่เห็นว่าดี มันจะดีกับลูกเสมอไป
หรือทางที่ลูกเลือกมันจะเลวร้ายอย่างที่พ่อแม่คิด ประสบการณ์ของคนๆหนึ่งไม่สามารถตัดสินเส้นทางชีวิตของคนอีกคนได้
ที่ทำได้คือคอยบอกว่าเส้นทางไหนที่เขาเคยไปแล้วมันเลวร้าย พ่อแม่ควรเคารพยอมรับในสิ่งที่ลูกเลือกเช่นกัน
ในฐานะลูกก็อยากจะบอกพ่อแม่ที่ผ่านมาอ่าน ว่าคุณไม่มีทางอยู่กับลูกไปได้ชั่วชีวิต ถ้าเส้นทางชีวิตของเขา
เขายังไม่สามารถที่จะตัดสินใจเองได้ในวันนี้ คุณคาดหวังอะไรถ้าวันหนึ่งคุณไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว
คุณนำทางพวกเขาไปยังสิ่งที่คุณคิดว่าดีตลอดไม่ได้ คุณต้องให้เขาเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเองตอนที่คุณยังมีชีวิตอยู่
ถ้าวันหนึ่งลูกต้องล้มลงและเสียใจในสิ่งที่เค้าเลือก เค้าจะได้รับรู้ว่ายังมีบ่าและอ้อมกอดของพ่อแม่ที่จะคอยปลอบใจเขา
แทนที่เขาจะถูกจูงไปตลอดชีวิต และในวันหนึ่งที่คุณจากไป คุณจะทิ้งลูกตาบอดคนนึงไว้บนโลกนี้แทน
แสดงความคิดเห็น
พ่อไม่เปิดใจให้กับอาชีพวิศวะเลยทำยังไงดีคะ??