นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม และพิสูจน์แล้วว่าหมอฟันวินิจฉัยผิด และเกือบทำให้ผมต้องเสียฟันกรามล่าง(ซี่สำคัญสำหรับบดเคี้ยวอาหาร)
เมื่อ 2 ปีก่อน ฟันกรามซี่ล่างซ้าย(ซี่ที่ 2 ถ้านับจากด้านในสุด ) คอฟันที่อุดไว้วัสดุ อุดฟันหลุดออกมา
ผมจึงไปหาหมอคนนึง เป็นหมอหญิงอายุประมาณ 50 ปี เค้าบอกผมว่าต้องถอนทิ้ง
ผมงง และบอกว่าทำไมต้องถอนครับ ทุกทีก็อุดได้นะครับ หมอยืนยันว่าต้องถอน เพราะบริเวณที่อุดใกล้กับรากฟันในรากฟันมีประสาทฟัน
ซึ่งฟันผมน่าจะตายแล้วด้วย ซี่นี้ หมอบอก
ผมบอกว่าแล้วไม่ต้องเอ็กซเร่ย์ดูเหรอ หมอบอกว่าไม่ต้อง ถอนได้เลย
ผมบอกว่าผมไม่ถอนครับ ถ้าถอนก็ต้องใส่ฟันปลอมเหรอครับ หมอก็บอกว่าใช่
สรุปผมไม่ยอมถอน และให้หมออุดให้ ที่ผมอุดแต่แรกคืออุดคอฟันที่สึกนะครับ เกิดจากการแปรงฟันแรงของผม(แปรงฟันผิดวิธี)
หมอบอกว่าลองอุดดูก็ได้ และระหว่างที่หมอกรอฟัน เพื่อ Clear พื้นที่ในการอุดนั้นเอง ผมก็รู้สึกเสียวฟันซี่นั้น ผมจึงพยักหน้าว่าผมเสียว
หมอก็บอกว่ารู้สึกเสียวแล้วเหรอ (แสดงว่าฟันผมไม่ตาย)
(ดีที่ผมไม่ยอมถอน เพราะก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมไม่ค่อยไว้ใจหมอฟัน คือผมไปขูดหินปูนกับทันตแพทย์สาวสวยท่านนึง
ท่านขอเอ็กซเร่ย์ฟันและบอกผมว่า เจอผมฟันผุ 3 ซี่ ซึ่งปกติผมแปรงฟันหนักมาก จึงไม่เชื่อว่าฟันจะผุได้ถึง 3 ซี่ และมีอยู่ซี่นึงเป็นเพียงคราบดำจากกาแฟที่ผมดื่มประจำ หมอท่านอื่นก่อนหน้าไม่เคยบอกว่าตรงนั้นคือฟันผุเลย แต่ผมเห็นมันดำๆก็เลยบอกหมอสาวสวยว่า อุดซี่นั้นก่อนละกันอีก 2 ซี่ยังไม่อุด ภายหลังผมไปให้หมออีกที่นึงตรวจไม่พบฟันผุแต่อย่างใด และหมอท่านใหม่นี้ขอเอ็กซเร่ย์อีกก็ไม่พบฟันผุ ผมจำได้ว่าถามหมอสาวสวยว่า 3 ซี่นี้ซี่ไหนผุมากสุดและมันผุมากเหรอถึงต้องอุด หมอคนสวยบอกว่าผุมากสิไม่งั้นจะให้อุดไปทำไม)
ย้อนกลับมาที่หมอสาวอายุ 50 ที่จะถอนฟันผมให้ได้
หลังจากหมออุดเสร็จ หมอยังขู่ว่า ภายในฟันจะมีช่องว่างซึ่งมีแก๊ส บางทีอยู่ๆที่อุดไปมันก็จะพุบเข้าไป ทำให้เจ็บปวดนอนไม่หลับ
ผ่านไป 1 ปี ผมเปลี่ยนหมอดีกว่า เพราะที่อุดไว้มันก็ปกติดี ไม่เห็นเจ็บปวดอะไรอย่างที่หมอขู่เลย เลยไปขูดหินปูนอีกเจ้านึง แล้วเล่าให้หมอคนใหม่ฟังหมอก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องถอนเลยนี่
อ่าวอะไรกันเนี่ย
และหลังจากนั้นผมก็ค่อยๆแปรงฟันแบบไม่แรงตรงซี่ที่อุด เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุอุดฟันหลุดอีก ก็ผ่านไปไม่มีปัญหาอะไร
จนผ่านไป 3 ปี ผมไปหาหมอฟันอีกคนนึง (ผมอยากได้ฟังจากปากหมอหลายๆท่านว่าคิดเหมือนกันมั้ย)
หมอขูดหินปูนให้ และผมเล่าเรื่องฟันซี่ที่จะโดนถอนให้ฟัง หมอคนใหม่นี้หมอผู้ชายอายุเกือบ 60 ปี ก็บอกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องถอนเลย ถ้ามันอุดไม่ได้จริง ก็สามารถรักษารากฟันและครอบฟันได้ แล้วก็อธิบายอะไรต่างๆให้ผมฟังอย่างยืดยาวถึงเทคโนโลยีในการเก็บฟันไว้ไม่ต้องถอน
และหมอบอกผมว่าจากการที่เช็คดู ผมมีฟันสึกอีก 2 จุด ซึ่งผมน่าจะเป็นคนไข้ประเภท Sensitive กับการเสียวฟันน้อย กว่าคนทั่วไป สังเกตจากเวลาเช็คความเสียว ผมไม่ค่อยรู้สึก ( ผมจึงคิดในใจว่า ถึงว่าหมอคนแรกเลย คนที่จะถอนฟันผม บอกว่าผมไม่เสียวฟันแสดงว่าฟันตาย)
สรุปฟันกรามซี่สำคัญยังอยู่กับผมมาเกือบ 4 ปีแล้วหลังจากถูกทันตแพทย์คนแรก วินิจฉัย ว่าต้องถอนทิ้ง แต่ผมไม่ยอม
อยากให้ทุกคนคิดใคร่ๆครวญดีๆและเชื่อมั่นในเหตุผล อย่าไปเชื่อคนอื่นมากครับ
และที่สำคัญผมอยากให้เราทุกคนใส่ใจกับการแปรงฟัน ให้ถูกวิธี ไม่ใช่แปรงบ่อยๆหรือแปรงนานๆนะครับ
แปรงฟันให้ถูกวิธีต้องไม่แปรงแรงเกินไป และไม่ควรแปรงนานเกินไป เพราะมันจะทำลายฟันบริเวณเคลือบฟันและฟันจะสึก แบบที่ผมเป็นมาแล้ว
ขอให้ทุกคนรักฟัน ของตัวเองให้มากๆครับ
ปล.ผมอยากรู้จักเลยว่า มีทางที่จะฟ้องร้องหรือเล่นงานหมอฟัน 2 ท่านที่ผมเจอมาได้มั้ย คนแรกคือหลอกว่าผมฟันผุและจะอุดให้ได้ต้ง 3 ซี่
อีกคนบอกว่าจะถอนฟันกรามผม
ผมไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่ดันไปอ่านเจอบทกวีนึงที่เขียนว่า
"คนชั่วอหังการเพราะคนดี ไม่ยอมทำอะไรเลย "
ถ้าผมไปฟ้องร้องอาจจะจุดประกายให้มีการแก้ไขอะไรในเรื่องแย่ๆแบบนี้ให้มันถูกต้องชัดเจนขึ้นมาบ้างก็ได้ แต่ก็กลัวแต่ค่ารักษาฟันก็จะแพงขึ้นแค่นั้นเอง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านครับ
คุณเป็นคนนึงมั้ยที่เชื่อทันตแพทย์(หมอฟัน) แนะนำอะไรคุณก็ทำตามเพราะเค้าเป็นหมอ? ลองอ่านประสบการณ์ผมดูครับ
เมื่อ 2 ปีก่อน ฟันกรามซี่ล่างซ้าย(ซี่ที่ 2 ถ้านับจากด้านในสุด ) คอฟันที่อุดไว้วัสดุ อุดฟันหลุดออกมา
ผมจึงไปหาหมอคนนึง เป็นหมอหญิงอายุประมาณ 50 ปี เค้าบอกผมว่าต้องถอนทิ้ง
ผมงง และบอกว่าทำไมต้องถอนครับ ทุกทีก็อุดได้นะครับ หมอยืนยันว่าต้องถอน เพราะบริเวณที่อุดใกล้กับรากฟันในรากฟันมีประสาทฟัน
ซึ่งฟันผมน่าจะตายแล้วด้วย ซี่นี้ หมอบอก
ผมบอกว่าแล้วไม่ต้องเอ็กซเร่ย์ดูเหรอ หมอบอกว่าไม่ต้อง ถอนได้เลย
ผมบอกว่าผมไม่ถอนครับ ถ้าถอนก็ต้องใส่ฟันปลอมเหรอครับ หมอก็บอกว่าใช่
สรุปผมไม่ยอมถอน และให้หมออุดให้ ที่ผมอุดแต่แรกคืออุดคอฟันที่สึกนะครับ เกิดจากการแปรงฟันแรงของผม(แปรงฟันผิดวิธี)
หมอบอกว่าลองอุดดูก็ได้ และระหว่างที่หมอกรอฟัน เพื่อ Clear พื้นที่ในการอุดนั้นเอง ผมก็รู้สึกเสียวฟันซี่นั้น ผมจึงพยักหน้าว่าผมเสียว
หมอก็บอกว่ารู้สึกเสียวแล้วเหรอ (แสดงว่าฟันผมไม่ตาย)
(ดีที่ผมไม่ยอมถอน เพราะก่อนหน้านั้นเกิดเหตุการณ์ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมไม่ค่อยไว้ใจหมอฟัน คือผมไปขูดหินปูนกับทันตแพทย์สาวสวยท่านนึง
ท่านขอเอ็กซเร่ย์ฟันและบอกผมว่า เจอผมฟันผุ 3 ซี่ ซึ่งปกติผมแปรงฟันหนักมาก จึงไม่เชื่อว่าฟันจะผุได้ถึง 3 ซี่ และมีอยู่ซี่นึงเป็นเพียงคราบดำจากกาแฟที่ผมดื่มประจำ หมอท่านอื่นก่อนหน้าไม่เคยบอกว่าตรงนั้นคือฟันผุเลย แต่ผมเห็นมันดำๆก็เลยบอกหมอสาวสวยว่า อุดซี่นั้นก่อนละกันอีก 2 ซี่ยังไม่อุด ภายหลังผมไปให้หมออีกที่นึงตรวจไม่พบฟันผุแต่อย่างใด และหมอท่านใหม่นี้ขอเอ็กซเร่ย์อีกก็ไม่พบฟันผุ ผมจำได้ว่าถามหมอสาวสวยว่า 3 ซี่นี้ซี่ไหนผุมากสุดและมันผุมากเหรอถึงต้องอุด หมอคนสวยบอกว่าผุมากสิไม่งั้นจะให้อุดไปทำไม)
ย้อนกลับมาที่หมอสาวอายุ 50 ที่จะถอนฟันผมให้ได้
หลังจากหมออุดเสร็จ หมอยังขู่ว่า ภายในฟันจะมีช่องว่างซึ่งมีแก๊ส บางทีอยู่ๆที่อุดไปมันก็จะพุบเข้าไป ทำให้เจ็บปวดนอนไม่หลับ
ผ่านไป 1 ปี ผมเปลี่ยนหมอดีกว่า เพราะที่อุดไว้มันก็ปกติดี ไม่เห็นเจ็บปวดอะไรอย่างที่หมอขู่เลย เลยไปขูดหินปูนอีกเจ้านึง แล้วเล่าให้หมอคนใหม่ฟังหมอก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องถอนเลยนี่
อ่าวอะไรกันเนี่ย
และหลังจากนั้นผมก็ค่อยๆแปรงฟันแบบไม่แรงตรงซี่ที่อุด เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุอุดฟันหลุดอีก ก็ผ่านไปไม่มีปัญหาอะไร
จนผ่านไป 3 ปี ผมไปหาหมอฟันอีกคนนึง (ผมอยากได้ฟังจากปากหมอหลายๆท่านว่าคิดเหมือนกันมั้ย)
หมอขูดหินปูนให้ และผมเล่าเรื่องฟันซี่ที่จะโดนถอนให้ฟัง หมอคนใหม่นี้หมอผู้ชายอายุเกือบ 60 ปี ก็บอกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องถอนเลย ถ้ามันอุดไม่ได้จริง ก็สามารถรักษารากฟันและครอบฟันได้ แล้วก็อธิบายอะไรต่างๆให้ผมฟังอย่างยืดยาวถึงเทคโนโลยีในการเก็บฟันไว้ไม่ต้องถอน
และหมอบอกผมว่าจากการที่เช็คดู ผมมีฟันสึกอีก 2 จุด ซึ่งผมน่าจะเป็นคนไข้ประเภท Sensitive กับการเสียวฟันน้อย กว่าคนทั่วไป สังเกตจากเวลาเช็คความเสียว ผมไม่ค่อยรู้สึก ( ผมจึงคิดในใจว่า ถึงว่าหมอคนแรกเลย คนที่จะถอนฟันผม บอกว่าผมไม่เสียวฟันแสดงว่าฟันตาย)
สรุปฟันกรามซี่สำคัญยังอยู่กับผมมาเกือบ 4 ปีแล้วหลังจากถูกทันตแพทย์คนแรก วินิจฉัย ว่าต้องถอนทิ้ง แต่ผมไม่ยอม
อยากให้ทุกคนคิดใคร่ๆครวญดีๆและเชื่อมั่นในเหตุผล อย่าไปเชื่อคนอื่นมากครับ
และที่สำคัญผมอยากให้เราทุกคนใส่ใจกับการแปรงฟัน ให้ถูกวิธี ไม่ใช่แปรงบ่อยๆหรือแปรงนานๆนะครับ
แปรงฟันให้ถูกวิธีต้องไม่แปรงแรงเกินไป และไม่ควรแปรงนานเกินไป เพราะมันจะทำลายฟันบริเวณเคลือบฟันและฟันจะสึก แบบที่ผมเป็นมาแล้ว
ขอให้ทุกคนรักฟัน ของตัวเองให้มากๆครับ
ปล.ผมอยากรู้จักเลยว่า มีทางที่จะฟ้องร้องหรือเล่นงานหมอฟัน 2 ท่านที่ผมเจอมาได้มั้ย คนแรกคือหลอกว่าผมฟันผุและจะอุดให้ได้ต้ง 3 ซี่
อีกคนบอกว่าจะถอนฟันกรามผม
ผมไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่ดันไปอ่านเจอบทกวีนึงที่เขียนว่า
"คนชั่วอหังการเพราะคนดี ไม่ยอมทำอะไรเลย "
ถ้าผมไปฟ้องร้องอาจจะจุดประกายให้มีการแก้ไขอะไรในเรื่องแย่ๆแบบนี้ให้มันถูกต้องชัดเจนขึ้นมาบ้างก็ได้ แต่ก็กลัวแต่ค่ารักษาฟันก็จะแพงขึ้นแค่นั้นเอง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านครับ