#### ที่สุดของของนักลงทุนสายมโน #### ตอนลงทุนใหม่ๆ ตอนเข้าตลาดผมมโนว่า....

กระทู้สนทนา
พี่แจ้อยู่ในตลาดมาเกือบ 10 ปี เจ็บมาเยอะ เลยเอาความคิดแก่อนเข้าตลาดและหลังเข้าตลาด มาแชร์

>>>ก่อนเข้าตลาด...คิดว่า

1.เบื่องาน  อยากมีอิสระภาพทางการเงิน ให้เงินทำงานแทนคุณ  คำฮิตสมัยสิบปีที่แล้ว

2.อยากจะตัดหน้า 10 ล้อ หยิบแบ๊งค์พันทุกวัน แค่วันละใบ ก็อยู่ได้แล้ว

3.อยากจะทำงานที่ไหนก็ได้  เทรดผ่านระบบออนไลด์ นั้งในร้านกาแฟชิลล์

4.คิดว่ามีเงินทุนแค่ 6 หลัก  เอามาตัดหน้าสิบล้อก็เก็บแบงค์พันอยู่ได้สบาย

5.คิดว่าถ้ารู้เทคนิค อ่านงบ  รู้ข่าววงใน ก็กินเงินเจ้าได้แน่ๆ

6.คิดว่าถ้าอยากรู้ก็ต้องไปเรียนตามสำนักต่างๆที่ผุดเป็นดอกเห็ด..คงได้ออกมาโลดแล่น
  ซิ่งในตลาดหุ้นเหมือนเด็กแว็นซ์ 


>>>ผลหลังเข้าตลาด...กลับกลาย

 ดอยตั้งแต่ตัวแรกที่ซื้อ เลย...ถูกตลาดปรับทัศนคติ

1.รักงาน  รักเจ้านาย    อิสระภาพทางการเงินเอาไว้ทีหลัง  ให้คุณทำงานหาเงิน  

2.ผลการตัดหน้า 10 ล้อ จะหยิบแบ๊งค์พัน  ดันแบ๊งปลิวหาย กระเป๋าตังหายระหว่างตัดหน้า

3.ทำงานที่ออฟฟิต  แอบเทรดก็มีกาแฟกิน ประหยัดดีเนอะ

4.ความจริงมีเงินทุนแค่ 6 หลักไม่พอ  ต้องเอาเงินเดือนมาเติม เพื่อหาความรู้ในการเลือกหุ้นที่ใช่

5.รู้เทคนิค อ่านงบ  รู้ข่าววงใน  เจ้ารู้ใจทำตรงข้ามกับเราคิด ผลหามลงทุกนัด

6.คิดว่าถ้าอยากรู้ก็ต้องไปเรียนตามสำนักต่างๆที่ผุดเป็นดอกเห็ด..คงได้ออกมาโลดแล่น
  ซิ่งในตลาดหุ้นเหมือนเด็กแว็นซ์ >>>> ผลทำไมไม่ตรงปกกับอาจารย์สอนมา ทำไม
 หยิบใช้อาวุธที่เรียนมาไม่ถูกชนิดเลย  ผลหามลงเช่นเคย

  สรุป  การลงทุนในหุ้นเราต้องรู้ศาสตร์ทุกอย่างที่มี ข่าว เหคูการณ์  แต่อย่าเชื่อข้อมูลเบื้องต้น
           ต้องเอามาวิเคราะห์ มโนศึกษา เพราะข่าวหรือเหตุการณ์มันไม่บอกให้เราทำตรงๆตามข่าว
           เพราะข่าวเป็นสิ่งที่ปรุงแต่ง เพื่อทำให้เกิดผลอีกอย่าง หรือให้ผู้ที่รับข่าวเข้าใจตามเนื้อข่าว
          ทำตามแนวทางข่าว แล้วเจ้าก็ทำตรงข้ามกับข่าวเพื่อโยกย้ายเงินของเราสู่กระเป๋าเจ้า
          ดังนั้น ชาวสวนเลยพอเอาตัวรอด และระฆังฟั่มขาเอส เลยเฟื่องฟูในตลาดขาลงช่วงนี้

      สบายดี.....



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่