Marcus Morris อาจจะมีอาการบาดเจ็บที่คอจนไม่ได้ลงเล่นมา 5 เกมส์เเล้วเเต่เขาก็ยังเนื้อหอมในตลาดเทรดอยู่ สาเหตุที่เขายังหาทีมรับเทรดไม่ได้เพราะทีม Knicks ต้องการสิทธิ์ดราฟต์รอบเเรก pick กลางๆ หรือผู้เล่นระดับสตาร์จากทีมคู่เทรดเป็นการตอบเเทน
ทีม Knicks ต้องการเปิด cap space ของทีมในปี 2020 หรือ 2021 ให้ว่างไว้ระหว่างที่ทีมรอล่าสตาร์ดังจากตลาด free agency กลางปีนี้หรือปีหน้า ทีมเลยไม่อยากรับเทรดผู้เล่นที่มีสัญญาราคาเเพงจากทีมอื่นที่อาจเเถมมาใน trade package ทีมอยากได้สิทธิ์ดราฟต์รอบเเรก pick กลางๆ หรือทีมอื่นต้องยอมเสนอผู้เล่นระดับสตาร์มาเเลกเท่านั้น ทีมถึงจะยอมเทรดด้วย ถ้าจะมีการเทรดเเลกตัว Morris จริงคงต้องมีการดึงทีมที่ 3 เข้ามาร่วมวงเทรดด้วยโดยทีมที่ 3 จะเป็นฝ่ายรับเอาผู้เล่นที่มีค่าเหนื่อย match กับ Morris ที่ $15 ล้านไปเเบกต่อ ในขณะที่ทีม Knicks อาจจะได้สิทธิ์ดราฟต์หรือผู้เล่นที่มีค่าเหนื่อยถูกๆ ไปเเทน
ตอนเเรกทีม Knicks ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจาก Morris มากในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลปีนี้ ทีมคิดเเค่จะว่าจ้างเขาด้วยสัญญาระยะสั้นเเบบ 1 ปีเพื่อเอาเขามาเป็น trade chip ในช่วง trade deadline ตอนที่ทีมหมดลุ้นเข้ารอบเพลยออฟเเล้ว ทีมหวังอยากได้สิทธิ์ดราฟต์รอบเเรก pick ปลายๆหรือดราฟต์รอบ 2 pick ต้นๆ ในตัวเขาเเต่กลับกลายเป็นว่า Morris ทําผลงานได้ดีกว่าที่ทีมคาดไว้ด้วยสถิติ 19.1 PPG, 5.5 RBs (FG 43.8%, สามเเต้มลง 46.9%) เขาสามารถเล่นเกมส์รับได้ดี ทําเเต้มได้เเละที่สําคัญเขามีความเป็นผู้นําสูงมากในขณะที่ Kevin Knox ผู้เล่นดาวรุ่งที่เล่นตําเเหน่งเดียวกับ Morris กลับมีผลงานที่น่าผิดหวัง
ทีม Knicks เลยคิดว่าถ้าทีมไม่ได้รับข้อเสนอเทรดที่น่าสนใจพอจากทีมอื่น ทีมก็จะเก็บ Morris ไว้ใช้ต่อจนจบฤดูกาลเเล้วทีมจะพยายามจะต่อสัญญากับเขาในช่วงปิด season โดยให้เขาอยู่เป็นตัวหลักของทีมไปเลย ตอนนี้ Morris มีอายุ 30 ปีเลยถือว่ายังไม่เเก่เกินไป ตัว Morris เองก็เเบะท่าพร้อมอยู่ต่อเช่นกันถ้าเขาได้สัญญาระยะยาวพร้อมค่าเหนื่อยงามจากทีม Knicks
ตอนนี้เริ่มมีเเววว่า Morris น่าจะได้อยู่จะทีม Knicks ต่อเพราะถึงทีมระดับเพลยออฟหลายๆ ทีมจะสนใจเขาก็จริงเเต่ค่าหัวของเขามันสูงเกินไปเเละคงไม่คุ้มที่ทีมอื่นจะจ่ายบรรณาการราคาเเพงเพื่อที่จะเอาตัวเขามาใช้งานระยะสั้นๆ จนจบฤดูกาลนี้ (Credit: Real GM)
🏀 ทีม Knicks อาจเก็บ Marcus Morris ไว้ใช้ต่อ
ทีม Knicks ต้องการเปิด cap space ของทีมในปี 2020 หรือ 2021 ให้ว่างไว้ระหว่างที่ทีมรอล่าสตาร์ดังจากตลาด free agency กลางปีนี้หรือปีหน้า ทีมเลยไม่อยากรับเทรดผู้เล่นที่มีสัญญาราคาเเพงจากทีมอื่นที่อาจเเถมมาใน trade package ทีมอยากได้สิทธิ์ดราฟต์รอบเเรก pick กลางๆ หรือทีมอื่นต้องยอมเสนอผู้เล่นระดับสตาร์มาเเลกเท่านั้น ทีมถึงจะยอมเทรดด้วย ถ้าจะมีการเทรดเเลกตัว Morris จริงคงต้องมีการดึงทีมที่ 3 เข้ามาร่วมวงเทรดด้วยโดยทีมที่ 3 จะเป็นฝ่ายรับเอาผู้เล่นที่มีค่าเหนื่อย match กับ Morris ที่ $15 ล้านไปเเบกต่อ ในขณะที่ทีม Knicks อาจจะได้สิทธิ์ดราฟต์หรือผู้เล่นที่มีค่าเหนื่อยถูกๆ ไปเเทน
ตอนเเรกทีม Knicks ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจาก Morris มากในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลปีนี้ ทีมคิดเเค่จะว่าจ้างเขาด้วยสัญญาระยะสั้นเเบบ 1 ปีเพื่อเอาเขามาเป็น trade chip ในช่วง trade deadline ตอนที่ทีมหมดลุ้นเข้ารอบเพลยออฟเเล้ว ทีมหวังอยากได้สิทธิ์ดราฟต์รอบเเรก pick ปลายๆหรือดราฟต์รอบ 2 pick ต้นๆ ในตัวเขาเเต่กลับกลายเป็นว่า Morris ทําผลงานได้ดีกว่าที่ทีมคาดไว้ด้วยสถิติ 19.1 PPG, 5.5 RBs (FG 43.8%, สามเเต้มลง 46.9%) เขาสามารถเล่นเกมส์รับได้ดี ทําเเต้มได้เเละที่สําคัญเขามีความเป็นผู้นําสูงมากในขณะที่ Kevin Knox ผู้เล่นดาวรุ่งที่เล่นตําเเหน่งเดียวกับ Morris กลับมีผลงานที่น่าผิดหวัง
ทีม Knicks เลยคิดว่าถ้าทีมไม่ได้รับข้อเสนอเทรดที่น่าสนใจพอจากทีมอื่น ทีมก็จะเก็บ Morris ไว้ใช้ต่อจนจบฤดูกาลเเล้วทีมจะพยายามจะต่อสัญญากับเขาในช่วงปิด season โดยให้เขาอยู่เป็นตัวหลักของทีมไปเลย ตอนนี้ Morris มีอายุ 30 ปีเลยถือว่ายังไม่เเก่เกินไป ตัว Morris เองก็เเบะท่าพร้อมอยู่ต่อเช่นกันถ้าเขาได้สัญญาระยะยาวพร้อมค่าเหนื่อยงามจากทีม Knicks
ตอนนี้เริ่มมีเเววว่า Morris น่าจะได้อยู่จะทีม Knicks ต่อเพราะถึงทีมระดับเพลยออฟหลายๆ ทีมจะสนใจเขาก็จริงเเต่ค่าหัวของเขามันสูงเกินไปเเละคงไม่คุ้มที่ทีมอื่นจะจ่ายบรรณาการราคาเเพงเพื่อที่จะเอาตัวเขามาใช้งานระยะสั้นๆ จนจบฤดูกาลนี้ (Credit: Real GM)