เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ทีมผู้สมัครของ “บิ๊กอู๊ด” ภิญโญ นำโดย นายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีตอุปนายก เดินทางเข้าพบ  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เพื่อขอให้ กกท.มีคำสั่งให้สมาคมลูกหนังไทยเปิดเผยบัญชีรายชื่อผู้สมัครทันที หลังจาก สำนักเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยืนยันจะขอตรวจคุณสมบัติเสียก่อน เพราะกลัวผู้สมัครเสียชือเสียง หากคุณสมบัติไม่ผ่าน นายวิชัย กล่าวว่า การไม่ประกาศรายชื่อ ทำให้ชวนสงสัยว่าหากวันปิดรับ คณะผู้สมัครของอีกทีมยังได้ชื่อมาไม่ครบ หลังจากนั้นอาจเอาชื่อมาใส่ทีหลัง ซึ่ง ดร.ก้องศักดิ์ กล่าวว่า จะนำไปสอบถามสำนักเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ กกท. เข้ามาดำเนินการจัดการเลือกตั้งแทนนั้น ตามระเบียบการเลือกตั้งกำหนดให้ สำนักเลขาธิการ ส.ฟุตบอล เป็นผู้ดำเนินการ กกท. จะทำได้ในบทบาทที่กฎหมายกำหนด คือส่งคนเข้าไปสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จาก พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 มาตรา 73 ระบุว่า ห้ามมิให้สมาคมกีฬากระทำการใดๆดังต่อไปนี้ (3) เปิดเผยข้อมูล เอกสาร หรือข้อความอันเกี่ยวกับประโยชน์ได้เสียโดยเฉพาะของสมาชิกผู้ใดเว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากสมาชิกผู้นั้น...

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/sports/751864

-------------------------------------------------------

บอกแล้วว่าสงครามครั้งนี้เดือดจริง ฝ่ายแชมป์เก่าก็เดินหน้าของตัวเองไป ส่วนผู้ท้าชิงถนนทุกสายมุ่งสู่ กกท. จะขอให้ผู้ว่า กกท. ไปแทรกแซงข้อบังคับสมาคมฟุตบอลทั้งสองกรณี (ทั้งบังยีร้องเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครเลือกตั้ง คุณภิญโญร้องเรื่องขอให้เปิดชื่อผู้สมัครทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ) น่าจะยาวและไม่จบง่ายๆ ผู้ว่า กกท น่าจะต้องรับศึกหนักน่าดู ขอให้ท่านตั้งมั่นในความถูกต้องและเป็นธรรม เอากฎหมายเป็นหลังพิง เอาฟีฟ่าเป็นผู้ช่วย ใครก็จะทำอะไรท่านไม่ได้ครับ

ปล. ตามข้อบังคับสมาคม กำหนดให้คณะกรรมการเลือกตั้งแจ้งกลับไปยังผู้สมัครว่ามีคุณสมบัติหรือไม่ 25 วันก่อนวันเลือกตั้ง (17 ม.ค.) และให้แจ้งไปยังสมาชิกสมาคมทุกคนว่ามีใครลงเลือกตั้งบ้าง 15 วันก่อนเลือกตั้ง (27 ม.ค.) ก็ตรงกับไทม์ไลน์ของทีมสมยศที่จะเปิดตัวผู้สมัครวันที่ 17 หลังได้รับการรับรองจาก กกต ว่ามีสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้ง