ทริปนี้ใช้เวลาเที่ยวเต็มๆสามวัน เดินทางวันแรกไปถึงเวนิสตอนค่ำแล้ว (ช่วงเราไปคือต้นเดือนมกรา2020) ซึ่งก่อนหน้านี้ราวปลายพย. มีข่าวน้ำท่วมหนักมากที่เวนิส ทางเราก็แอบกลัว เช็คทั้ง Tide และอากาศที่เวนิสตลอด แต่โชคดีที่ไม่เจอน้ำท่วมและฝน

จากสนามบินไปเกาะเวนิสเราเลือกซื้อตั๋วรภบัสไปกลับ 15ยูโร ออกมาจากสนามบินนี่ งง มากเพราะว่ามีรถบัสหน้าตาคล้ายกันเยอะมาก ต้องหารถหน้าตาอย่างนี้นะคะ

ปล.รูปนี้ถ่ายขากลับนะคะ ขาไปถ่ายไม่ทัน

นั่งรถบัสมา20นาทีถึงสถานีเวนิสแแล้วก็ลากกระเป๋าข้ามสะพานไปโรงแรมอีก20นาที โรงแรมที่เราจองเป็นโรงแรมสี่ดาว ไม่ได้อยู่ในแหล่งนักท่องเที่ยว เค้าอัพเกรทให้เราได้ห้องใหญ่ด่วย จาก grand doubleเป็น supirier double คือมีสเปซมากขึ้น อาจเห็นว่าเรามีเด็กด้วยก็ได้ โรงแรมที่นี่ต้องเสียภาษีนักท่องเที่ยวต่างหากด้วย ขึ้นอยู่กับว่าพักกี่ดาว กี่คินและกี่คน ภาษีนี้เป็นของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นของโรงแรม

วันแรกเราเลือกไปมิวเซียมเพราะวันนี้ไม่มีแดด อยากเก็บที่สวยๆเอ๊าท์ดอร์ไว้ถ่ายรูปวันอื่น (เราซื้อ museum pass มา เข้าได้11มิวเซียม มีอายุ6เดือนนับแต่ครั้งแรกที่ใช้ เราซื้อมาวันที่31ธันวา แต่ใช้จริงๆวันที่3มกรา เค้าก็โอเคนะ แต่พอมาจริงๆบางมิวเซียมก็ปิดช่วงหน้าหนาว บางที่ก็ปิดซ่อมแซมน้ำท่วม เสียดายมาก)

มิวเซียมแรกที่เราไปคือ Natural History museum พอดีเป็นช่วงปิดเทอม เด็กๆไปกันเยอะมาก ที่นี่มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ และสารพัดสัตว์ที่สตาฟไว้ ใหญ่โตมโหฬารมาก

หลังจากนั้นเราก็หาอะไรทานแบบคนท้องถิ่น ตามมาร้านนี้เลยค่ะ ดูหน้าร้านมองอะไรไม่เห็นเลย แต่เป็นร้านเก่าแก่เปิดมา 600กว่าปีแล้ว
หลังจากนั้นก็มาต่อกันอีก2มิวเซียมเลยค่ะ

มิวเซียมนี้มีชั้นเดียว เคยเป็นวังมาก่อน จัดแสดงถึงห้องต่างๆ เช่นห้องอาหาร ห้องวาดรูป ห้องนอน ห้องน้ำหอม ห้องครัว ห้องแต่งตัว น่าสนใจมากค่ะ ใช้เวลาเดิน45นาทีได้

มิวเซียมนี้ใหญ่โตโอ่อ่ามี4ชั้น (โชคดีชั้น3และ4 ระบบไฟเค้าเสีย เลยไม่ให้เข้าชม ไม่งั้นเราขาลากแน่ เพระวำลิฟท์ก็เสีย) บันไดขึ้นแต่ละชั้นนั้นก็วนแล้ววนอีก เพราะที่นี่เค้าเพดานสูง สองชั้นของเค้าเท่ากับขึ้นบันไดสี่ชั้นของเรา เดินได้หลายชม.เลย มีทั้งจัดแสดงห้องต่างๆและภาพวาด 
วันนี้คือเดินเมื่อยมากแถมหลงด้วย เย็นๆหมอกลงจัดและอากาศหนาวมาาก็เลยวิ่งเข้าโรงแรมกันแล้ว

---