สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการโพสในห้องเฉลิมกรุงไปนานแสนนาน วันนี้จะกลับมารีวิวการไปดูคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์อีกแล้ว
โดยศิลปินที่เราไปดูในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ไฟแรงที่น่าติดตามมากๆ ไปไหนใครก็ต้องเคยได้ยินเพลงอกหักที่ฟังแล้วอยากจะร้องไห้ตามอย่าง Someone You Loved นอกจากนี้แล้วเพลงอื่นๆในอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของเขา Divinely Uninspired to a Hellish Extent (ชื่อยากค่อดๆ) ยังเต็มไปด้วยความเหงา เศร้า ซึ้ง เสียใจ เรียกน้ำตา ฟังแล้วอยากจะเอามีดปักกลางอกตัวเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
แต่ว่าคอนเสิร์ตคราวนี้จะเรียกน้ำตาเราได้รึเปล่า ลองมาดูกันค่ะ
เริ่มต้นก็เรียกน้ำตาได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้วเพราะตอน Lewis Capaldi ประกาศทัวร์เอเชียนั้น ไม่มีประเทศไทยอยู่ด้วย เดือดร้อนตามไปดูที่ต่างประเทศอีกละ และที่เราเลือกสิงคโปร์ก็เป็นเพราะตรงกันวันเสาร์พอดี ไม่ต้องลางาน
ตารางทัวร์ในคราวนี้ค่ะ
ผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้คือ Lushington Entertainment
สถานที่จัดเป็นโรงละครเล็กๆใจกลางเมืองชื่อว่า Capitol Theatre
ความจุของโรงละครก็เล็กๆอยู่ที่ 977 คน ซึ่งก็แน่นอนว่า Sold Out ค่ะ
การเดินทางไปยัง Capitol Theatre ก็ไม่ยากเลย ลง MRT สถานี City Hall ก็เจอเลย
ด้านล่างนี้เป็นภาพภายใน Capitol Theatre ค่ะ
สวย ระบบเสียงดี ความจุกำลังพอเหมาะ คนไม่เยอะเกินไป เดินทางสะดวก ชอบมาก
หักคะแนนนิดหน่อยคือไม่มีจุดให้ฝากกระเป๋า
ราคาค่าตั๋วก็ไม่ถูกนะ (น้ำตาไหลครั้งที่สอง) โซนหน้าเวทีเป็นตั๋วยืน ราคา 148 SGD ถัดมาโซนนั่ง ราคาอยู่ที่ 128 SGD ส่วนโซนที่เราเลือก โซนบนภูเขาค่ะ แถวเกือบหลังสุด ราคา 98 SGD
เป็นธรรมดาของคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ที่จะไม่มีบัตรแข็งให้ อย่างดีที่สุดก็เป็นกระดาษแข็งแบบนี้ เสียค่าบัตรด้วย น่าจะใบละ 3 SGD มั้ง
ถ้าไม่อยากเสียตังก็ไม่ต้องเอาก็ได้ค่ะ เค้าจะมี e-ticket ให้ ปริ้นใส่กระดาษมาหรือโชว์ในโทรศัพท์ที่หน้างานก็ได้
แต่เราดันชอบสะสม เลยต้องจ่ายไป
เกริ่นมานานแล้ว มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
ในบัตรเขียนว่าเริ่มแสดงตอน 8.00PM สตาฟเริ่มออกมาจัดเวทีตอนประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ บนเวทีไม่มีอะไรซับซ้อน เครื่องดนตรี 4 ชิ้นเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ใช้เวลา Set up แค่นิดเดียว ฉากด้านหลังก็เขียนชื่อเจ้าตัว
เวลาประมาณสองทุ่มนิดๆ นักดนตรีทั้ง 4 คนก็เดินขึ้นมาประจำการอยู่ที่เครื่องดนตรีทั้ง 4 ชนิด ตามมาด้วยพ่อหนุ่มน้อย Lewis Capaldi พระเอกในงานวันนี้
เพลงแรกที่เล่นคือ Grace ค่ะ อัดคลิปมาด้วย
คลิปค่อนข้างจะแย่ เพราะอยู่หลังสุด ต้องซูมเยอะ แถมยังแสงไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายวีดีโออีก แต่ Lewis เสียดีงามมากค่ะ มีหยอกกับแฟนเพลงแถวหน้าสุดด้วย ดูแล้วอยากกระโดดลงไปแจมด้วยเลย
หลังจากจบเพลงแรกแล้วก็ตามด้วยเพลงที่จังหวะช้าลงมาหน่อยแต่ยังเต็มไปด้วยความเศร้าอย่าง Forever
ถึงเพลงจะเศร้า แต่บรรยากาศในคอนเสิร์ตไม่ได้เศร้าเลย Lewis ทักทายหยอกล้อกับแฟนๆได้น่ารักมากมาย ปล่อยมุกกระจาย
รูปนี้แฟนๆโยนของให้ขึ้นไปบนเวที เจ้าตัวก็เก็บทุกอย่างทั้งหมวกทั้งแว่น แถมยังเอามาใส่ด้วย
เป็นคอนเสิร์ตที่อารมณ์สวิงมาก หลังจากนั่งดูตลกแล้ว Lewis ก็ขนเพลงช้าๆความหมายเศร้าๆพร้อมกับน้ำเสียงอันบาดจิตอย่าง One กับ Don't Get Me Wrong มาให้เราได้ซึมซับกันต่อ
เราจำ Setlist เป๊ะๆไม่ได้ แต่คับคล้ายคับคาว่าจะเล่น Hold Me While You Wait ต่อ ซึ่งเพลงนี้คนดูช่วยกันร้องดังมาก เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มเลย
คอนเสิร์ตในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยน Setlist จากคอนเสิร์ต Lewis ครั้งก่อนๆเล็กน้อย แต่จำนวนเพลงทั้งหมดที่เล่นยังเท่าเดิมคือ 11 เพลง เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ยาวค่ะ แค่ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะเจ้าตัวยังเพิ่งออกมาแค่ 1 อัลบั้ม ยังมีเพลงน้อยอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะอยากให้เอาเพลงจาก EP อย่างเช่น Tough หรือ Mercy มาเล่นบ้างแต่ก็ไม่มี
ช็อตที่เรียกเสียงฮาคือมีตอนที่ Lewis กำลังพูดเรื่องจำนวนเพลง แล้วมีคนตะโกนไปว่า WONDERWALL นี่แหละ ถ้าใครติดตามจะรู้ว่า Lewis เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับลุง Noel แห่งบ้าน Gallagher อยู่พักนึง Lewis บอกว่าหยุดตะโกนชื่อเพลงนี้ได้แล้ว นี่มันคอนเสิร์ตผมนะ ผมจะเล่นเพลงของตัวเองเท่านั้น ว่าแล้วก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาเกา Intro ของเพลง Wonderwall เรียกเสียงกรี๊ดลั่นทั้งฮอล แต่ก็นั่นแหละค่ะ เล่นแค่อินโทร ทำเอาแฟนๆอารมณ์ค้าง 555
ใน Setlist ก็จะเป็นเพลงจังหวะเศร้าสลับกับเพลงจังหวะสนุกอย่างเช่น Hollywood/Bruises
ที่พลาดไม่ได้อีกเพลงก็คือเพลงใหม่อย่าง Before You Go ที่ปล่อยมาให้ฟังกันช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งมันดีมาก
อัดมาไม่เต็มเพลง ไม่รู้โทรศัพท์เป็นอะไรมันหยุดให้อัตโนมัติ
อีกจังหวะนึงที่น่ารักของคอนเสิร์ตครั้งนี้คือแฟนๆชาวสิงคโปร์พยายามสอนให้ Lewis พูดว่า หว่อ อ้าย หนี่
แต่เจ้าตัวพูดว่า วอ อาย นี่ / หวอ ไอ นี้ พยายามพูดอยู่นาน จนกระทั่งตอนท้ายคอนเสิร์ตก็พูดได้ซักที ทำเอาแฟนๆเฮกันลั่น
คลิปนี้ก็เป็นอีกเพลงที่เราชอบค่ะ Fade
รายชื่อเพลงที่เล่นในคอนเสิร์ตคราวนี้ (แต่ไม่เรียงลำดับ)
Grace
Forever
Don't Get Me Wrong
One
Maybe
Before You Go
Bruises
Hollywood
Fade
Hold Me While You Wait
Someone You Loved
สรุปแล้วเป็นคอนเสิร์ตที่สนุกมากๆค่ะ ศิลปินคือดีงาม เสียงดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก บรรยากาศเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสก็อยากจะให้ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ไทยช่วยพามาหน่อย ถ้ามาแล้วสัญญาว่าจะซื้อตั๋วอยู่หน้าสุดเลย
ปิดท้ายด้วยเพลงนี้ที่ไม่มีไม่ได้เลยอย่าง Someone You Loved ค่ะ (คลิปของคนอื่น)
[CR] Lewis Capaldi Live in Singapore นี่ฉันมาดูคอนเสิร์ตหรือมาดูทอล์คโชว์กันแน่
โดยศิลปินที่เราไปดูในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ไฟแรงที่น่าติดตามมากๆ ไปไหนใครก็ต้องเคยได้ยินเพลงอกหักที่ฟังแล้วอยากจะร้องไห้ตามอย่าง Someone You Loved นอกจากนี้แล้วเพลงอื่นๆในอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของเขา Divinely Uninspired to a Hellish Extent (ชื่อยากค่อดๆ) ยังเต็มไปด้วยความเหงา เศร้า ซึ้ง เสียใจ เรียกน้ำตา ฟังแล้วอยากจะเอามีดปักกลางอกตัวเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
แต่ว่าคอนเสิร์ตคราวนี้จะเรียกน้ำตาเราได้รึเปล่า ลองมาดูกันค่ะ
เริ่มต้นก็เรียกน้ำตาได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้วเพราะตอน Lewis Capaldi ประกาศทัวร์เอเชียนั้น ไม่มีประเทศไทยอยู่ด้วย เดือดร้อนตามไปดูที่ต่างประเทศอีกละ และที่เราเลือกสิงคโปร์ก็เป็นเพราะตรงกันวันเสาร์พอดี ไม่ต้องลางาน
ตารางทัวร์ในคราวนี้ค่ะ
ผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้คือ Lushington Entertainment
สถานที่จัดเป็นโรงละครเล็กๆใจกลางเมืองชื่อว่า Capitol Theatre
ความจุของโรงละครก็เล็กๆอยู่ที่ 977 คน ซึ่งก็แน่นอนว่า Sold Out ค่ะ
การเดินทางไปยัง Capitol Theatre ก็ไม่ยากเลย ลง MRT สถานี City Hall ก็เจอเลย
ด้านล่างนี้เป็นภาพภายใน Capitol Theatre ค่ะ
สวย ระบบเสียงดี ความจุกำลังพอเหมาะ คนไม่เยอะเกินไป เดินทางสะดวก ชอบมาก
หักคะแนนนิดหน่อยคือไม่มีจุดให้ฝากกระเป๋า
ราคาค่าตั๋วก็ไม่ถูกนะ (น้ำตาไหลครั้งที่สอง) โซนหน้าเวทีเป็นตั๋วยืน ราคา 148 SGD ถัดมาโซนนั่ง ราคาอยู่ที่ 128 SGD ส่วนโซนที่เราเลือก โซนบนภูเขาค่ะ แถวเกือบหลังสุด ราคา 98 SGD
เป็นธรรมดาของคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ที่จะไม่มีบัตรแข็งให้ อย่างดีที่สุดก็เป็นกระดาษแข็งแบบนี้ เสียค่าบัตรด้วย น่าจะใบละ 3 SGD มั้ง
ถ้าไม่อยากเสียตังก็ไม่ต้องเอาก็ได้ค่ะ เค้าจะมี e-ticket ให้ ปริ้นใส่กระดาษมาหรือโชว์ในโทรศัพท์ที่หน้างานก็ได้
แต่เราดันชอบสะสม เลยต้องจ่ายไป
เกริ่นมานานแล้ว มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
ในบัตรเขียนว่าเริ่มแสดงตอน 8.00PM สตาฟเริ่มออกมาจัดเวทีตอนประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ บนเวทีไม่มีอะไรซับซ้อน เครื่องดนตรี 4 ชิ้นเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ใช้เวลา Set up แค่นิดเดียว ฉากด้านหลังก็เขียนชื่อเจ้าตัว
เวลาประมาณสองทุ่มนิดๆ นักดนตรีทั้ง 4 คนก็เดินขึ้นมาประจำการอยู่ที่เครื่องดนตรีทั้ง 4 ชนิด ตามมาด้วยพ่อหนุ่มน้อย Lewis Capaldi พระเอกในงานวันนี้
เพลงแรกที่เล่นคือ Grace ค่ะ อัดคลิปมาด้วย
คลิปค่อนข้างจะแย่ เพราะอยู่หลังสุด ต้องซูมเยอะ แถมยังแสงไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายวีดีโออีก แต่ Lewis เสียดีงามมากค่ะ มีหยอกกับแฟนเพลงแถวหน้าสุดด้วย ดูแล้วอยากกระโดดลงไปแจมด้วยเลย
หลังจากจบเพลงแรกแล้วก็ตามด้วยเพลงที่จังหวะช้าลงมาหน่อยแต่ยังเต็มไปด้วยความเศร้าอย่าง Forever
ถึงเพลงจะเศร้า แต่บรรยากาศในคอนเสิร์ตไม่ได้เศร้าเลย Lewis ทักทายหยอกล้อกับแฟนๆได้น่ารักมากมาย ปล่อยมุกกระจาย
รูปนี้แฟนๆโยนของให้ขึ้นไปบนเวที เจ้าตัวก็เก็บทุกอย่างทั้งหมวกทั้งแว่น แถมยังเอามาใส่ด้วย
เป็นคอนเสิร์ตที่อารมณ์สวิงมาก หลังจากนั่งดูตลกแล้ว Lewis ก็ขนเพลงช้าๆความหมายเศร้าๆพร้อมกับน้ำเสียงอันบาดจิตอย่าง One กับ Don't Get Me Wrong มาให้เราได้ซึมซับกันต่อ
เราจำ Setlist เป๊ะๆไม่ได้ แต่คับคล้ายคับคาว่าจะเล่น Hold Me While You Wait ต่อ ซึ่งเพลงนี้คนดูช่วยกันร้องดังมาก เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มเลย
คอนเสิร์ตในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยน Setlist จากคอนเสิร์ต Lewis ครั้งก่อนๆเล็กน้อย แต่จำนวนเพลงทั้งหมดที่เล่นยังเท่าเดิมคือ 11 เพลง เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ยาวค่ะ แค่ประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะเจ้าตัวยังเพิ่งออกมาแค่ 1 อัลบั้ม ยังมีเพลงน้อยอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะอยากให้เอาเพลงจาก EP อย่างเช่น Tough หรือ Mercy มาเล่นบ้างแต่ก็ไม่มี
ช็อตที่เรียกเสียงฮาคือมีตอนที่ Lewis กำลังพูดเรื่องจำนวนเพลง แล้วมีคนตะโกนไปว่า WONDERWALL นี่แหละ ถ้าใครติดตามจะรู้ว่า Lewis เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับลุง Noel แห่งบ้าน Gallagher อยู่พักนึง Lewis บอกว่าหยุดตะโกนชื่อเพลงนี้ได้แล้ว นี่มันคอนเสิร์ตผมนะ ผมจะเล่นเพลงของตัวเองเท่านั้น ว่าแล้วก็หยิบกีต้าร์ขึ้นมาเกา Intro ของเพลง Wonderwall เรียกเสียงกรี๊ดลั่นทั้งฮอล แต่ก็นั่นแหละค่ะ เล่นแค่อินโทร ทำเอาแฟนๆอารมณ์ค้าง 555
ใน Setlist ก็จะเป็นเพลงจังหวะเศร้าสลับกับเพลงจังหวะสนุกอย่างเช่น Hollywood/Bruises
ที่พลาดไม่ได้อีกเพลงก็คือเพลงใหม่อย่าง Before You Go ที่ปล่อยมาให้ฟังกันช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งมันดีมาก
อัดมาไม่เต็มเพลง ไม่รู้โทรศัพท์เป็นอะไรมันหยุดให้อัตโนมัติ
อีกจังหวะนึงที่น่ารักของคอนเสิร์ตครั้งนี้คือแฟนๆชาวสิงคโปร์พยายามสอนให้ Lewis พูดว่า หว่อ อ้าย หนี่
แต่เจ้าตัวพูดว่า วอ อาย นี่ / หวอ ไอ นี้ พยายามพูดอยู่นาน จนกระทั่งตอนท้ายคอนเสิร์ตก็พูดได้ซักที ทำเอาแฟนๆเฮกันลั่น
คลิปนี้ก็เป็นอีกเพลงที่เราชอบค่ะ Fade
รายชื่อเพลงที่เล่นในคอนเสิร์ตคราวนี้ (แต่ไม่เรียงลำดับ)
Grace
Forever
Don't Get Me Wrong
One
Maybe
Before You Go
Bruises
Hollywood
Fade
Hold Me While You Wait
Someone You Loved
สรุปแล้วเป็นคอนเสิร์ตที่สนุกมากๆค่ะ ศิลปินคือดีงาม เสียงดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก บรรยากาศเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสก็อยากจะให้ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ไทยช่วยพามาหน่อย ถ้ามาแล้วสัญญาว่าจะซื้อตั๋วอยู่หน้าสุดเลย
ปิดท้ายด้วยเพลงนี้ที่ไม่มีไม่ได้เลยอย่าง Someone You Loved ค่ะ (คลิปของคนอื่น)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้