SPOTLIGHT: เพชร พี่สาวที่คอยดูแลทุกคนในบ้าน ยกเว้นตัวเอง ในซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ
.
“บูมอย่าคิดอะไรเป็นเด็กๆ เลย เราไม่ได้รู้สึกอะไรกันขนาดนั้นหรอก เราแค่มาอยู่บ้านเดียวกัน แล้วก็คิดไปเองว่ารู้สึกอะไรมากมาย อีก 2-3 เดือนบูมก็เบื่อเราแล้ว”
.
ถึงแม้ เพชร (เฌอปราง อารีย์กุล) พี่สาวคนโตแห่งจักรวาล ‘บ้านฉัน’ จะพูดประโยคบอกลากับ บูม (เก้า-จิรายุ ละอองมณี) ด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่ภายใน ‘หัวใจ’ ของอัญมณีที่แข็งแกร่งที่สุดแหลกสลายกลายเป็นผุยผงภายในพริบตา
.
ตลอด 6 EP. ของซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ เพชรเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ จุดศูนย์กลางของจักรวาลที่มีส่วนสำคัญกับทุกๆ เหตุการณ์ในบ้าน เธอใช้พลังงานความร้อนเผาผลาญความรู้สึกของตัวเองไป เพื่อเผื่อแผ่ความอบอุ่นให้กับทุกคน และเป็น ‘ดวงอาทิตย์’ ที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอ
.
ในทุกๆ เช้า เพชรคือคนแรกที่ตื่นก่อนใคร ปลุก ตะวัน (จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน) และแม่มุก (แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช) ลุกไปแปรงฟัน อาบน้ำ ลงมาทำอาหารเตรียมไว้ให้ทุกคน โดยมีแม่คอยจัดแจงอุ่นอาหารจากมื้อก่อนๆ รอให้ทุกคนมากินพร้อมกัน ก่อนที่จะขับรถส่งน้องๆ ไปโรงเรียน
.
เนื่องจากมุกเป็นแม่ที่มีนิสัยคล้ายเด็ก ทำให้เพชรกลายเป็นพี่สาวคนโตที่ต้องดูแลทุกคนในบ้าน มีสถานะ ‘หัวหน้าครอบครัว’ ที่ทุกคนรัก เคารพ และเกรงใจไปโดยปริยาย
.
ใครอยากได้โทรศัพท์มือถือใหม่ก็ต้องมาขออนุญาตจากเพชร และถ้าเห็นยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เธอก็สามารถปฏิเสธคำขอ ต่อให้คนนั้นเป็นแม่หรือน้องสาวอย่าง ไพลิน (วี-วีรยา จาง) ได้อย่างไม่ลังเล เป็นคนควบคุมค่าใช้จ่าย จัดการเรื่องเงินในบ้าน
.
แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุด วันที่แม่มุกตัดสินใจแต่งงานครั้งใหม่กับลุงตั้ม (ดู๋-สัญญา คุณากร) เรื่องทั้งหมดก็ต้องถูกส่งเข้าห้องพิจารณาคดีความ ที่มีผู้พิพากษาสุดหินอย่างเพชรเป็นคนตัดสิน
.
ตอนแรกเพชรและน้องๆ ไม่เห็นด้วย และแสดงท่าทีต่อต้านออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพชรถึงขนาดพูดจาไม่น่ารัก ทำทุกอย่างให้ครอบครัวลุงตั้มกลับไปอยู่บ้านของตัวเองอย่างเร็วที่สุด รวมทั้งพาน้องๆ ออกไปอยู่ที่โรงแรมกันทั้งหมด
.
เราไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่คือการกระทำที่น่ารักและถูกต้อง แต่ถ้ามองลงไปให้ลึกไปกว่าน้ำเสียงแข็งๆ คำพูดตรงไปตรงมาอย่าง
.
“แม่ไม่คิดจะปรึกษาพวกเราก่อนตัดสินใจอะไรเลยใช่ไหม”, “น้องๆ ไม่โอเคสักคน แต่แม่ก็ไม่สนใจสักนิด”, “เวลาแม่เสียใจเรื่องผู้ชายจะเป็นจะตาย ใครล่ะต้องเป็นคนเห็นภาพนั้น ไม่ใช่พวกเราเหรอ”
.
เราจะเห็นว่าทุกคำพูดของเพชรมีความรักและปรารถนาดีที่ไม่อยากให้น้องและแม่ ต้องเสียใจอีกครั้งเป็นแรงผลักสำคัญ ความต้องการส่วนตัวเป็นเรื่องท้ายๆ ที่เธอจะนึกถึง
.
เช่นเดียวกับในวันที่เปลี่ยนใจ ก็เป็นเพราะเธอถามความคิดเห็นจากคนอื่น จนเข้าใจได้ว่าการยอมให้แม่และลุงตั้มอยู่ด้วยกันได้จะทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด
.
สุดท้ายเมื่อแม่กับลุงตั้มไปด้วยกันไม่ได้ สิ่งเดียวที่เธอต้องการก็มีแค่ขอให้แม่ยืนยันว่าจะยังมีชีวิตอยู่กับพวกเธอต่อไปก็พอ
.
เมื่อสองครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันจริงๆ เพชรก็ยังเป็นคนเดิมที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอ เป็นคนล้างจานเองมาตลอด เพราะกลัวว่าคนอื่นจะล้างไม่สะอาด จนตอนหลังค่อยมีบูมที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการล้างจานมาคอยช่วย
.
ตอนบูมตากฝนเก็บผ้า ก็ยื่นผ้าขนหนูให้บูมก่อนตัวเอง, เวลาไปซูเปอร์มาร์เก็ตก็ซื้อแต่ของกินที่แม่และน้องๆ ชอบกลับไปฝาก รวมทั้งสมาชิกใหม่อย่าง เบบี้ (ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา) เพชรก็สังเกตจนรู้ว่าชอบช็อกโกแลตและซื้อไปฝากเหมือนกัน
.
ในทุกๆ ครั้งที่เกิดปัญหาขึ้นในบ้าน เพชรคือตัวละครเดียวในเรื่องที่มีส่วนช่วยคลี่คลายปัญหาอยู่ทุกครั้งไม่ว่ามากหรือน้อย เริ่มตั้งแต่ขับรถพาบูมไปตามหาเบบี้, เอาพาวเวอร์แบงก์ให้เบบี้ใช้, เป็นคนบอกให้แม่ชวนบ้านลุงตั้มเข้ากรุ๊ป LINE ครอบครัว
.
ตอนปลอบตะวันหลังอกหัก เพชรที่ปกติเป็นคนมีเหตุผล ก็พร้อมที่จะต่อว่าผู้ชายเพื่อปกป้องไม่ให้น้องตัวเองรู้สึกผิดขึ้นมาทันที, ปลอบใจแม่ตอนที่แพรวพราว (มิวนิค-นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) ย้ายไปอยู่กับพ่อ, จับไหล่เตือนสติไม่ให้แม่โกรธจนเกินไปตอนไพลินขอถ่ายรูปครอบครัวแบบไม่มีบ้านลุงตั้ม และขับรถไปส่งพลอย (ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร) ให้ไปตามง้อมาร์ก (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) ฯลฯ
.
ในขณะที่เพชรพร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือทุกคนอยู่เสมอ แต่เมื่อไรก็ตามที่มีปัญหา เธอจะกอดทุกความรู้สึกไว้กับตัว ราวกับความเป็น ‘เพชร’ ที่แข็งแกร่งจะสร้างกำแพงหนาขึ้นมาให้เธอรู้สึกว่าจะแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นไม่ได้
.
โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับบูม ความรักแบบหนุ่มสาวครั้งแรกในชีวิตของเพชร แถมยังมาพร้อมเงื่อนไขพิเศษว่าพ่อและแม่ของทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน ทำให้ในตอนแรกเพชรพยายามปิดกั้นความรู้สึกนี้เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้น
.
สุดท้ายเพชรก็เลือกคบกับบูมแบบลับๆ ยอมก้าวข้ามเงื่อนไขสำคัญที่เธอเป็นคนตั้งขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นการตัดสินใจตามเสียงหัวใจของตัวเองจริงๆ ครั้งแรกก็ได้
.
แต่แล้วโชคชะตา (คนเขียนบท) ก็เล่นตลก ให้เพชรที่ไม่มีความมั่นใจในความรักครั้งนี้อยู่แล้วต้องมาเจอบททดสอบสำคัญ เมื่อ ตะวัน น้องสาวที่เธอสนิทใจด้วยที่สุดหลงรักบูมเข้าเหมือนกัน แถมยังเป็นความรักครั้งสำคัญที่ตะวันเพิ่งรู้สึกได้เป็นครั้งแรก
.
เพชรก็ยังเป็นพี่สาวผู้มีแต่ความปรารถนาดี ช่วยตะวันเลือกชุดที่สวยที่สุด บอกให้น้องสาวที่กำลังประหม่า ‘เป็นตัวของตัวเอง’ ก่อนไปออกเดตกับบูม ‘คนรัก’ ที่ไม่มีใครรู้ของเธอ
.
ตอนที่เพชรส่งข้อความโกหกบอกตะวันว่าปวดท้อง ภาพที่ตะวันนั่งมอเตอร์ไซค์ไกลกลับบ้านเพื่อเอายากลับมาให้ เลยกลายเป็นอีกหนึ่งฉากที่ปวดร้าวมากที่สุด
.
เพราะเราไม่มีทางจินตนาการออกได้เลยว่า คนที่คิดถึงคนอื่นมาตลอดแบบเพชรจะรู้สึกแย่และเจ็บปวดกับตัวเองขนาดไหนที่เผลอทำอะไรแบบนี้ออกมา
.
สุดท้ายเพชรก็ตัดสินใจบอกลากบูม ตามเหตุผล ความรู้สึกของคนอื่น ทั้งแม่มุก ลุงตั้ม ตะวัน และทุกคนที่เธอรัก (ยกเว้นบูม) มากกว่าตัวเอง โดยไม่แสดงออกถึงความเสียใจและอ่อนแอให้ใครเห็นอีกครั้ง แม้ว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดจวนสลายมากแค่ไหนก็ตาม
.
ถ้าพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์ เพชรคืออัญมณีที่พื้นฐานคือธาตุคาร์บอน ที่ถ้าถูกเผาด้วยความร้อนในอุณหภูมิที่สูงถึงจุดหนึ่ง ธาตุคาร์บอนจะถูกเผากลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จนไม่เหลือสิ่งใดหลงเหลืออยู่
.
แต่เราเชื่อว่า ‘เพชร’ คนนี้จะเข้มแข็งมากกว่านั้น ชนิดที่ยอมแบกรับความเจ็บปวดได้ทุกรูปแบบ ขอแค่ให้ทุกคน แม่และน้องๆ ที่เธอรักมีความสุขได้เท่านั้นก็พอ
.
และต่อให้หลังจากนี้เพชรจะตัดสินใจเลือกทางเดินแบบไหน เราก็พร้อมที่จะเข้าใจและยืนอยู่ข้างพี่สาวผู้แสนใจดีคนนี้เสมอ
.
One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ
.
#OneYear365วันบ้านฉันบ้านเธอ #PopSpotlight #WhatCultureMeans #TheStandardPop #TheStandardCo
บทความดีๆที่อยากแชร์