คำว่า
พี่ชายที่แสนดีเราอาจจะพบเห็นได้ในหนังครอบครัวพี่รักน้องได้ในหนังทั่วๆไป แต่ไม่ใช่สำหรับหนังเรื่องนี้แน่ๆของผู้กำกับอย่าง คุณบอล(
วิทยา ทองอยู่ยง)กับใบปิดที่ดึงความเป็นตัวตนจนน่าดู และไม่ว่ามันจะเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยังคงอยู่ในมาตรฐานของหนังฟิลกู้ดตามสไตล์ที่ไม่ได้ดีมากอย่างที่คาดหวังไว้
เปิดองค์แรกมาด้วยเรื่องราวของพี่ชัช(
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์)กับชีวิตที่เป็นอิสระและไร้กฏเกณฑ์ ก่อนที่จะเจอกับเจน(
อุรัสยา เสปอร์บันด์)น้องสาวที่คอยบงการชีวิตของชัชมาตลอดตั้งแต่เป็นพี่น้องกัน ซึ่งภาพรวมองค์แรกทุกอย่างออกมาดีสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเกริ่นเรื่องความสัมพันธ์พี่น้องที่ไม่ต้องจัดหนักก็เข้าใจได้ ฉากรักกุ๊งกิ๊งกับโมจิ(
นิชคุณ หรเวชกุล)ที่ดูแล้วตลกยิ้มตาม เมื่อลองย้อนดูผลงานเก่าๆของคุณบอลอย่างเรื่อง
เก๋า เก๋า(2549) วงดนตรีหลงยุค หรืออย่างเรื่อง
บ้านฉัน...ตลกไว้ก่อน(2553)ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสั้นเรื่อง
ทำไมต้องเป็นตลก(2542) หนังสั้นที่แกเคยทำไว้ว่าด้วยเรื่องลูกชายที่อยากเป็นตลก ดึงเอาเรื่องความเชื่อง่ายๆบ้านๆบวกกับคาแรคเตอร์ตัวละครไม่ซับซ้อน ออกมาพอให้เรายิ้มกรุ่มกริ่ม เลยไม่แปลกใจที่หนังช่วงแรกจะเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพและความชำนาญในการเล่าเรื่องราวที่ถนัดอยู่แล้วออกมาได้ดี
แต่นั้นก็เฉพาะฉากเล่าเรื่องง่ายเท่านั้น เพราะพอเริ่มช่วงดราม่าเมื่อไหร่ หนังกลายเป็น การกระจายปมต่างๆ พร้อมทั้งการขยี้บางๆจุดต่อจุด จะดราม่า จะหวาน จะซึ้ง จะตลก จะดีจะเห็นแก่ตัว จนมันกลายเป็น
ความล้นของตัวบทที่แปลก การเปลี่ยนประเด็นไปมา โดยเฉพาะการนำเสนอบทคาแรคเตอร์ของพี่ชัชที่ดูแล้วแปลกจนต้องกลับมาคิดว่ามีคนแบบนี้อยู่ในโลกจริงๆหรอ??เป็นความตั้งใจของทีมงานคืออะไร อยากให้คนดูรัก และเคารพตัวละครนี้อย่างสุดหัวใจ ขยี้ปมตอนท้ายแล้วร้องอ๋ออออ หรืออย่างไรกันแน่??
นอกจากตัวละครอย่างชัชวินทร์กับเจนขวัญสองพี่น้องแล้ว นอกนั้นก็แทบจะเป็นตัวประกอบยิ่งกว่าตัวประกอบ เดียร์น้องฝึกงานที่มีบทเพิ่มมานิดนึง หมวยแฟนเก่า เส็งเพื่อนสมัยเรียน ที่เหมือนมาพูดสองสามคำแล้วก็ไปโดยเฉพาะบทแม่(
อัญชุลีอร บัวแก้ว)ที่นานๆทีเราจะเห็นคุณไก่แสดง ก็แทบจะไม่มีบทบาทกระทบอะไรถึงสองพี่น้องคู่นี้เลย ทั้งที่ความเป็นจริงสามารถเล่าย้อนสักนิดมาเพิ่มน้ำหนักความสัมพันธ์อย่างคนในครอบครัวได้
หรือว่าบางทีนี้อาจจะเป็นความตั้งใจของทีมงาน เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวและโฟกัสกับความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเพียงอย่างเดียว ไม่มีการเล่าถึงคนอื่น พ่อกับแม่เลิกกันส่งผลกระทบยังไง คนรอบข้าง ผลกระทบ สังคม โรงเรียน ไม่เล่าไม่เล่นประเด็นอะไรเลย เปิดมาปุ้ปพี่ก็ไม่ชอบหน้าน้อง ทำให้ใครหลายๆคนแทบจะไม่เข้าใจการกระทำของพระเอก ตรงนี้คือจุดบอดของหนังอย่างให้อภัยไม่ได้จริงๆ เมื่อไม่เข้าใจก็กลายเป็นว่าเราไม่ลุ้นตาม และผลลัพธ์กลับกลายเป็นความไม่สนุกของใครหลายๆคน โดยเฉพาะประโยคอย่าง
เลิกเป็นพี่น้องกันไม่ได้ที่ซึ้งๆก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ในขณะเดียวกันก็ต้องขอชื่นชมหนังที่เล่าประเด็นนี้เหมือนกัน นี่คือความจริงครับ แล้วในหนังก็เล่าความสัมพันธ์ได้อย่างพอดีไม่มากไป การไม่พูดความจริง พี่น้องกันไม่ว่าบ้านไหนเวลาพูดกันก็ประมาณนี้ทั้งนั้น ถือว่าเล่าออกมาได้ประทับใจ
ในส่วนดีที่นอกจากเล่าเรื่องช่วงแรกแล้ว เห็นทีจะมีแค่การแคสตัวละครและการแสดง ต้องชื่นชมทีมงานเหมือนกันที่เลือกตัวละครทุกตัวสมบทบาทกับนักแสดงจนดูแล้วไม่ขัดใจ โดยเฉพาะซันนี่ที่กล้าพูดได้เลยว่าถ้าเป็นคนอื่นหนังคงไม่สนุกขนาดนี้ ยกเว้นช่วงสุดท้ายที่บางทีอาจจะยังทำให้ผมเชื่อไม่ได้ ซีนขยี้อารมณ์ช่วงหลังยังไปไม่สุด ทางบทน้องสาวเองต้องบอกว่าเรื่องนี้ ยกระดับการแสดงของญาญ่า ที่ดูสวยทั้งสีหน้าแววตาได้อย่างพึงพอใจ
น้องพี่ที่รัก...กับระดับความสนุกที่ดูแล้วใครๆก็คงสนุกแหละ ฉากต่างๆประกอบกับนักแสดงก็ทำให้คุณนั่งยิ้มอยู่ที่บ้านได้ เสียดายที่ว่าตัวหนังไม่ได้เน้นประเด็นอื่นเลย ถึงเน้นก็เบาบางทำให้ดราม่าต่างๆมันดูไม่มีน้ำหนักมากพอ เป็นหนังพี่น้องที่เล่าแค่ประเด็นพี่น้องจริงๆ จะบอกว่าที่ไม่เล่าเพราะอยากให้หนังดูสนุกตลก ซึ่งก็ดูสนุกตลกจริงๆจนพอซีนดราม่าเลยไม่สุด พอจะเล่าก็เล่าตรงๆไม่ย้อนไม่อะไร ก็ดูง่ายเล่าง่ายตามสไตล์ครับ
🎂 : 7/10
น้องพี่ที่รัก.กำกับโดยวิทยา ทองอยู่ยง อำนวยการสร้างโดยจิระ มะลิกุล วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ แสดงนำโดยซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อุรัสยา เสปอร์บันด์ ค่ายจอกว้างฟิลม์ จัดจำหน่ายโดย จีดีเอช ห้าห้าเก้า.
ขออนุญาติเจ้าของภาพทุกภาพด้วยครับ ขอบคุณครับ
รีวิวหนังเก่า ///\\\Brother of the year : เรื่องราวของพี่น้อง...ที่มีแค่พี่กับน้อง
เปิดองค์แรกมาด้วยเรื่องราวของพี่ชัช(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์)กับชีวิตที่เป็นอิสระและไร้กฏเกณฑ์ ก่อนที่จะเจอกับเจน(อุรัสยา เสปอร์บันด์)น้องสาวที่คอยบงการชีวิตของชัชมาตลอดตั้งแต่เป็นพี่น้องกัน ซึ่งภาพรวมองค์แรกทุกอย่างออกมาดีสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเกริ่นเรื่องความสัมพันธ์พี่น้องที่ไม่ต้องจัดหนักก็เข้าใจได้ ฉากรักกุ๊งกิ๊งกับโมจิ(นิชคุณ หรเวชกุล)ที่ดูแล้วตลกยิ้มตาม เมื่อลองย้อนดูผลงานเก่าๆของคุณบอลอย่างเรื่องเก๋า เก๋า(2549) วงดนตรีหลงยุค หรืออย่างเรื่องบ้านฉัน...ตลกไว้ก่อน(2553)ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสั้นเรื่อง ทำไมต้องเป็นตลก(2542) หนังสั้นที่แกเคยทำไว้ว่าด้วยเรื่องลูกชายที่อยากเป็นตลก ดึงเอาเรื่องความเชื่อง่ายๆบ้านๆบวกกับคาแรคเตอร์ตัวละครไม่ซับซ้อน ออกมาพอให้เรายิ้มกรุ่มกริ่ม เลยไม่แปลกใจที่หนังช่วงแรกจะเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพและความชำนาญในการเล่าเรื่องราวที่ถนัดอยู่แล้วออกมาได้ดี
แต่นั้นก็เฉพาะฉากเล่าเรื่องง่ายเท่านั้น เพราะพอเริ่มช่วงดราม่าเมื่อไหร่ หนังกลายเป็น การกระจายปมต่างๆ พร้อมทั้งการขยี้บางๆจุดต่อจุด จะดราม่า จะหวาน จะซึ้ง จะตลก จะดีจะเห็นแก่ตัว จนมันกลายเป็นความล้นของตัวบทที่แปลก การเปลี่ยนประเด็นไปมา โดยเฉพาะการนำเสนอบทคาแรคเตอร์ของพี่ชัชที่ดูแล้วแปลกจนต้องกลับมาคิดว่ามีคนแบบนี้อยู่ในโลกจริงๆหรอ??เป็นความตั้งใจของทีมงานคืออะไร อยากให้คนดูรัก และเคารพตัวละครนี้อย่างสุดหัวใจ ขยี้ปมตอนท้ายแล้วร้องอ๋ออออ หรืออย่างไรกันแน่??
นอกจากตัวละครอย่างชัชวินทร์กับเจนขวัญสองพี่น้องแล้ว นอกนั้นก็แทบจะเป็นตัวประกอบยิ่งกว่าตัวประกอบ เดียร์น้องฝึกงานที่มีบทเพิ่มมานิดนึง หมวยแฟนเก่า เส็งเพื่อนสมัยเรียน ที่เหมือนมาพูดสองสามคำแล้วก็ไปโดยเฉพาะบทแม่(อัญชุลีอร บัวแก้ว)ที่นานๆทีเราจะเห็นคุณไก่แสดง ก็แทบจะไม่มีบทบาทกระทบอะไรถึงสองพี่น้องคู่นี้เลย ทั้งที่ความเป็นจริงสามารถเล่าย้อนสักนิดมาเพิ่มน้ำหนักความสัมพันธ์อย่างคนในครอบครัวได้
หรือว่าบางทีนี้อาจจะเป็นความตั้งใจของทีมงาน เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวและโฟกัสกับความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเพียงอย่างเดียว ไม่มีการเล่าถึงคนอื่น พ่อกับแม่เลิกกันส่งผลกระทบยังไง คนรอบข้าง ผลกระทบ สังคม โรงเรียน ไม่เล่าไม่เล่นประเด็นอะไรเลย เปิดมาปุ้ปพี่ก็ไม่ชอบหน้าน้อง ทำให้ใครหลายๆคนแทบจะไม่เข้าใจการกระทำของพระเอก ตรงนี้คือจุดบอดของหนังอย่างให้อภัยไม่ได้จริงๆ เมื่อไม่เข้าใจก็กลายเป็นว่าเราไม่ลุ้นตาม และผลลัพธ์กลับกลายเป็นความไม่สนุกของใครหลายๆคน โดยเฉพาะประโยคอย่างเลิกเป็นพี่น้องกันไม่ได้ที่ซึ้งๆก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ในขณะเดียวกันก็ต้องขอชื่นชมหนังที่เล่าประเด็นนี้เหมือนกัน นี่คือความจริงครับ แล้วในหนังก็เล่าความสัมพันธ์ได้อย่างพอดีไม่มากไป การไม่พูดความจริง พี่น้องกันไม่ว่าบ้านไหนเวลาพูดกันก็ประมาณนี้ทั้งนั้น ถือว่าเล่าออกมาได้ประทับใจ
ในส่วนดีที่นอกจากเล่าเรื่องช่วงแรกแล้ว เห็นทีจะมีแค่การแคสตัวละครและการแสดง ต้องชื่นชมทีมงานเหมือนกันที่เลือกตัวละครทุกตัวสมบทบาทกับนักแสดงจนดูแล้วไม่ขัดใจ โดยเฉพาะซันนี่ที่กล้าพูดได้เลยว่าถ้าเป็นคนอื่นหนังคงไม่สนุกขนาดนี้ ยกเว้นช่วงสุดท้ายที่บางทีอาจจะยังทำให้ผมเชื่อไม่ได้ ซีนขยี้อารมณ์ช่วงหลังยังไปไม่สุด ทางบทน้องสาวเองต้องบอกว่าเรื่องนี้ ยกระดับการแสดงของญาญ่า ที่ดูสวยทั้งสีหน้าแววตาได้อย่างพึงพอใจ
น้องพี่ที่รัก...กับระดับความสนุกที่ดูแล้วใครๆก็คงสนุกแหละ ฉากต่างๆประกอบกับนักแสดงก็ทำให้คุณนั่งยิ้มอยู่ที่บ้านได้ เสียดายที่ว่าตัวหนังไม่ได้เน้นประเด็นอื่นเลย ถึงเน้นก็เบาบางทำให้ดราม่าต่างๆมันดูไม่มีน้ำหนักมากพอ เป็นหนังพี่น้องที่เล่าแค่ประเด็นพี่น้องจริงๆ จะบอกว่าที่ไม่เล่าเพราะอยากให้หนังดูสนุกตลก ซึ่งก็ดูสนุกตลกจริงๆจนพอซีนดราม่าเลยไม่สุด พอจะเล่าก็เล่าตรงๆไม่ย้อนไม่อะไร ก็ดูง่ายเล่าง่ายตามสไตล์ครับ
🎂 : 7/10
น้องพี่ที่รัก.กำกับโดยวิทยา ทองอยู่ยง อำนวยการสร้างโดยจิระ มะลิกุล วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ แสดงนำโดยซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อุรัสยา เสปอร์บันด์ ค่ายจอกว้างฟิลม์ จัดจำหน่ายโดย จีดีเอช ห้าห้าเก้า.
ขออนุญาติเจ้าของภาพทุกภาพด้วยครับ ขอบคุณครับ