แชร์ประสบการณ์เสริมจมูกที่แสนสาหัส ( สำหรับคนที่มีฐานจมูกเอียงเบี้ยวต้องอ่าน!!! )

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์เสริมจมูกของเราเอง เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจใครหลายๆ  คนที่คิดจะเสริมจมูก ให้คิดดีๆ ก่อนทำศัลยกรรม “โดยเฉพาะคนที่มีฐานจมูกเอียงเบี้ยว”  ถ้าจมูกไม่ได้แย่มากก็อย่าคิดทำเลย  เพราะถ้าทำแล้วมันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่คุณคิดหรือคาดหวังไว้ก็ได้

ขอเริ่มเลยนะคะ .......เราเป็นคนที่มีปลายจมูกเอียงเบี้ยวมาทางขวาตั้งแต่กำเนิด (ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเบี้ยว  แต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่มีใครรู้)
-รูปใหญ่มากเวอร์ย่อขนาดไม่เป็น  แฮร่ๆ-

เรามารู้ตัวตอนเรียนอยู่มหาลัยชั้นปีที่ 2  ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุอะไรกับจมูกเลย  หรือเอาง่ายๆ คือเบี้ยวมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ค่ะ
จากนั้นเราจึงคิดที่จะเสริมจมูก  เพราะคิดว่า ‘จมูกมันจะตรงขึ้นได้  พอจบปี 4 เราจึงไปเสริมจมูกอยู่ที่คลินิกนึงใน กทม. เราเป็นคนจ.อุบล ไม่สะดวกเดินทางไปปรึกษากับคุณหมอที่คลินิก เราจึงได้ทักแชท ส่งรูปใบหน้าให้เขาดูทาง FB และได้คำตอบว่าสามารถแก้ไขให้ตรงได้  และเราก็ได้ถามย้ำกับเขาแล้วว่าเคยมีเคสแบบหนูมั้ยคะ  เขาตอบว่า ‘มี  และแก้ไขให้ตรงได้ 

ด้วยความที่อยากสวย  อยากมีจมูกที่ตรง และบวกกับดูรีวิวโดยศึกษามาแค่ 2 เดือน   เราจึงเดินทางไปทำจมูกกับคลินิคแห่งนั้น พอถึงคลินิค เขากลับบอกว่าปลายจมูกเราเบี้ยวมาก จะเสริมให้ตรงเป้ะเลยคงทำไม่ได้  แต่จะทำให้ดีขึ้น และถามเราว่าจะทำหรือไม่ทำ ส่วนเราในตอนนั้น ได้แต่คิดว่าทำไมไม่บอกตรูตั้งแต่ในแชทวะ  ในแชทพูดอีกแบบ...พอมาถึงคลินิกแล้วพูดอีกแบบ  แต่มันได้มาแล้วเราจึงตัดสินใจทำ และแล้วผลก็คือเบี้ยวชัดเจนมาก  เบี้ยวหนัก เบี้ยวชัด กว่าเดิม !!!   ตามรูป

คลินิคนี้เขารับประกันแค่ 3 เดือน  พอครบ 1 เดือน เราจึงกลับไปแก้กับเขา .....(ในสมองยังคิดว่ามันจะตรงได้อีก) ....พอทำรอบสองก็เบี้ยวเหมือนเดิมแหละ  แต่ก็เบี้ยวน้อยกว่าครั้งแรก และเราก็พอรับได้

เราก็อยู่กับจมูกเบี้ยวๆ ของเราไปอีก 1 ปี  พอครบ 1 ปี เราก็มีความอยากถอดซิลิโคนออก   อยากกลับไปเป็นมิ้นคนเดิมแบบหน้าเด็กใสๆ  อ่อ....ลืมบอกชื่อไป   เราชื่อ มิ้น  นะคะ  
........ แต่ !! เรื่องมันไม่จบแค่นั้นค่ะ พอเราถอดซิลิโคนออก  เราพบว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่เราใส่ซิลิโคนมานั้น ซิลิโคนได้ไปกดทับผนังกั้นจมูกของเรา  ทำให้ผนังกั้นจมูกของเราคดไปทางฝั่งขวาแบบมองเห็นได้ชัดเจน แต่เราก็คิดว่าเด๋วมันก็กลับมาเองมั้งงง  ก็ทนต่อไป  และเราก็พยายามดันปลายจมูกให้มันกลับมาตรงอยู่วันละ 10 20 30 ครั้ง จนติดนิสัยเป็นคนชอบจับจมูก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยหรือทำให้ตรงขึ้นไปเลย  และยิ่งนับวันจมูกรัดแกน ยิ่งมองเห็นได้ชัดว่ากระดูกอ่อนมันเริ่มโผล่มาแทงเนื้อที่ปลายจมูกฝั่งขวา  เริ่มมีอาการเจ็บตรงที่โดนกระดูกอ่อนแทง และเราเริ่มหายใจเข้า-ออกทางฝั่งขวาไม่สะดวก 


เราจึงตัดสินใจไปปรึกษาหมอคอหูจมูก หมอบอกว่าผนังกั้นจมูกมันคดไปทางขวามาก  ทำให้ปลายจมูกฝั่งขวาอักเสบ (ปล.เราคิดว่ามันอาจจะอักเสบเพราะเราเอานิ้วไปดันมันบ่อยๆ มากกว่า) น้ำมูกไหลบ่อยๆ ปล่อยไว้นานอาจเป็นไซนัสได้  และก็ให้ยาสเตียรอยด์มาทา ให้เราป้ายเข้าไปในรูจมูกทุกวันเช้า-เย็น เพื่อลดอาการบวมอักเสบ แต่เราเกลียดสเตียรอยด์  หมอจึงแนะนำเราผ่าตัดผนังกั้นจมูก  ซึ่งการผ่าตัดผนังกั้นจมูกนั้นจะมีอยู่ 2 แบบ
แบบที่1 คือผ่าตัดเพื่อรักษา ผลคือ ผนังกั้นตรง แต่จมูกจะสั้นขึ้น  ทำที่โรงพยาบาล
แบบที่2 คือผ่าตัดพร้อมกับศัลยกรรมจมูก ผลคือ ผนังกั้นอาจจะตรง(50:50)  และปลายจมูกไม่สั้น  ทำที่คลินิกศัลยกรรม


เราจึงได้กลับมาศึกษาเรื่องการทำศัลยกรรมจมูกอีกครั้ง  โดยเน้นไปในเรื่องของการแก้ไขโครงสร้างจมูกและเราก็มีคุณหมอเก่งๆ ในใจเราอยู่  3 ท่าน คือ 
1.Masterpiece Hospital  By หมอเบนซ์
2. S45 CLINIC By หมอตี้
3. จินตรักษ์คลินิก By  หมอเชษฐ์ 


แต่ว่าราคาแพงมากกกก (หนึ่งแสนถึงสามแสนบาท)  ซึ่งเราไม่อยากเอาเงินที่มากมายขนาดนั้นมาทุ่มกับอิแค่จมูกอันเดียวของเราแต่นับวันนานไป  นานมาจนถึง 2 ปี  จมูกเรารัดแกนมากขึ้นทำให้เห็นชัดว่ากระดูกอ่อนมันแทงปลายจมูก และเจ็บอยู่ตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจที่จะแก้ไขจมูกอีกครั้ง  ซึ่งเป็นการเสริมจมูกครั้งที่ 3  ในชีวิตของเรา

.....เด๋วมาต่อนะคะ  พร้อมรูปประกอบ.......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่