สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาวพันทิป (คราวที่แล้วตั้งกระทู้ผิดประเภทครั้งนี้ขอตั้งกระทู้ใหม่นะคะ)
 
เนื่องจากตอนที่ดิฉันหาข้อมูลการเรียนและการทำใบขับขี่ ดิฉันได้หาข้อมูลค่อนข้างเยอะ และอ่านมาหลากหลายส่วน แต่ไม่มีที่รวบรวมข้อมูลไว้ในที่เดียว
 
ในโอกาสนี้ เนื่องจากดิฉันได้ใบขับขี่แล้วจึงตัดสินใจทำรีวิว ต้อนรับปีใหม่ เป็นการขอบคุณเพื่อน ๆ ในเว็ปพันทิปที่ได้แชร์ข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการหาข้อมูลในการทำใบขับขี่ด้วย
 
วันนี้ดิฉันจะมารีวิวเกี่ยวกับขั้นตอนและการใช้บริการของทางกรมขนส่งทางบก(จตุจัดร) นะคะ โดยจะเขียนเรียงตามประสบการณ์และวันเลยนะคะ เพื่อความไม่สับสนของช่วงเวลา
 
โดยหัวข้อจะประกอบไปด้วย
 
ความเห็นต้นกระทู้
1. การเรียนขับรถกับโรงเรียนขนส่ง(จตุจักร) จนถึงการได้ใบขับขี่
 
1.1 การสมัครเรียน สิ่งที่ต้องเตรียม ค่าใช้จ่ายการเรียนและค่ามัดจำความเสียหาย การบันทึกข้อมูลลงในระบบเพื่อการสอบข้อเขียน การทดสอบสมรรถภาพ การนัดวันอบรม
 
1.2 การอบรม จำนวน 5 ชม. การนัดเจออาจารย์ผู้สอน
 
1.3 ประสบการณ์การเรียนขับรถ จำนวน 10 ชม.
 
ความเห็นที่ 1
1.4 ประสบการณ์การสอบ และยื่นผลสอบเพื่อนัดวันรับใบรับรอง การจองคิวในแอปขนส่งเพื่อทำใบขับขี่
 
1.5 วันมารับใบรับรอง ติดต่อขนส่งเพื่อทำใบขับขี่ และการทำเรื่องขอเงินคืนค่ามัดจำความเสียหาย
 
ความเห็นที่ 2
2. การต่อใบขับขี่กรณีขาดต่อ
 
2.1 ขาดต่อไม่เกิน 1 ปี
2.2 ขาดต่อเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี
2.3 ขาดต่ออายุเกิน 3 ปี
 
ความเห็นที่ 3
3. การสอบใบขับขี่ที่ขนส่ง
 
3.1 อบรมและสอบกับขนส่ง
3.2 อบรมกับเอกชนและสอบกับขนส่ง
 
โดยในแต่ละหัวข้อจะแทรกการใช้แอปพลิเคชันการจองคิวขนส่งไปในตัวนะคะ
 
 
มาเริ่มกันเลยนะคะ
 
วิธีแรกที่จะได้ใบขับขี่และยุ่งยากน้อยที่สุด สำหรับผู้ไม่เคยมีใบขับขี่* คือ
 
1. การเรียนกับโรงเรียนขนส่ง(ของรัฐนอกเวลา)
 
2. การเรียนกับโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการรับรองให้ออกใบรับรองการเรียนและการสอบใบขับขี่ได้
 
สองข้อข้างต้นค่อนข้างคล้ายกันในแง่ความง่ายของการได้มาซึ่งใบขับขี่ และค่าใช้จ่าย(กรณีเช่ารถ)
 
ดังนั้นการตัดสินใจหลักของผู้เรียนควรเรียนใกล้บ้านเป็นหลัก
 
เนื่องจากต้องมาอบรม 5 ชม. 1 ครั้ง เรียนครั้งละ 2 ชม. จำนวน 5 ครั้ง และ สอบข้อเขียนและสอบขับรถยนต์ 1 ครั้ง(ไม่แน่ใจว่าโรงเรียนเอกชนแยกวันหรือไม่นะคะ ต้องสอบถามกับโรงเรียนเอง)
 
รวมทั้งสิ้นจะต้องไป 7 ครั้งเป็นอย่างน้อย
 
1.1 การสมัครเรียน
 
ที่โรงเรียนขนส่ง(จตุจักร) ควรไปในเวลาราชการประมาณ 9.00 น.(เวลาเริ่มทำการของโรงเรียน) ถึง 14.00 น. และ เว้นพักเที่ยงทานข้าวนะคะ โดยที่แนะนำเวลาดังกล่าวเพราะคลินิคออกใบรับรองแพทย์บริเวณขนส่งเปิดในเวลานี้ ถ้าเอกสารไม่ครบจะได้ไม่ติดขัดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คลินิคแพทย์ลำดวน อยู่บริเวณก่อนเลี้ยวถนนใหญ่ มาทาง M จตุจักร ออกใบรับรองแพทย์ไม่นาน และ ราคา 80 บาทค่ะ สถานที่คลินิค
เปิดเวลา 7.00 น. จนถึง 14.00 น.
 รูปป้ายหน้าโรงเรียน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รูปตึกที่จะสมัครเรียน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
 
รูปเคาท์เตอร์สมัครเรียน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
การสมัครเรียนสิ่งที่ต้องเตรียมประกอบด้วย
 
1.บัตรประชาชนตัวจริง
 
2.บัตรประชาชนสำเนาเซ็นสำเนาถูกต้อง 2 ฉบับ
 
3.รูป 4 ใบ (ถ่ายได้จากบริเวณ ทาง 3 แพร่งมีที่รับถ่ายรูป เยื้องๆเซเว่น ครึ่งโหล ราคาประมาณ 100 ต้นๆ สอบถามกับคนแถวนั้นได้ค่ะ)
 
4.ใบรับรองแพทย์ 1 ฉบับ
 
5.ค่าใช้จ่ายการสมัคร 650 บาท
 
6.ค่ามัดจำความเสียหายสนามเรียน 2,000 บาท
 
7.ค่าเช่ารถสำหรับคนที่ไม่มีรถมาเรียน 2,700 บาท(ชม.ละ 270 บาท) ถ้าใครนำรถมาเรียนเอง ไม่ต้องเสียในส่วนนี้นะคะ
 
รูปสิ่งที่ต้องเตรียม

 
ในวันนั้นทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำว่าเรียนเกียร์ออโตเรียนง่ายกว่าและผ่านง่ายกว่า(ซึ่งจริงค่ะ)
 
แต่ถ้าที่บ้านใครมีเกียร์ธรรมดาควรเรียนตามรถที่ตัวเองมีนะคะ เดี๋ยวถึงเวลาจริงไปจอดบนสะพานรถไหลแล้วจะเสียหายเอา เพราะเกียร์ธรรมดามีการสอนหยุดรถบนสะพานด้วยค่ะ สำคัญมาก ๆ
 
ยังไงเตรียมปากกามาด้วยนะคะ เพื่อความชัวร์
 
ในวันนั้นหลังการสมัครจะได้เข้าห้องเล็กๆข้างที่สมัครเพื่อทำการทดสอบสมรรถภาพ ประกอบด้วย
 
1.การทดสอบตาบอดสี ดูว่าในวงกลมมีเลขอะไร เพราะตาบอดสีจะมีปัญหาในการแยกแยะไฟจราจร
 
2.การทดสอบสายตาทางลึก ให้เหยียบแท่นเพื่อขยับให้ก้าน 2 ก้านขยับมาให้ขนานกัน เพื่อทดสอบการกะระยะการจอดรถ หรือระยะห่างจากคันข้างหน้า
 
3.การทดสอบปฏิกิริยาในการเบรค ให้เอาเท้าวางแท่นข้างๆและให้เหยียบเบรคให้เร็วที่สุดเมื่อเห็นไฟสีแดง ถ้าเหยียบเบรคช้าอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
 
4.การทดสอบสายตาทางกว้าง ให้มองตรงและให้บอกสีของไฟที่แวบข้างๆโดยห้ามหันตาไปมอง เพราะตอนขับรถต้องมองข้างหน้า แต่ก็ต้องรู้ว่าข้าง ๆ มีอะไรแวบๆ
 
หลังจากทดสอบผ่านทั้งหมด ต้องลงทะเบียนสแกนนิ้วลงระบบ ถ้าไม่ได้ทำแจ้งเจ้าหน้าที่เลยนะคะ เพราะตอนสอบข้อเขียนต้องเข้าข้อมูลจากบัตรประชาชนค่ะ ไม่งั้นจะเสียเวลาเพราะต้องลงทะเบียนก่อนสอบค่ะ รบกวนจำนิ้วที่แสกนลงทะเบียนด้วยนะคะ ไม่งั้นตอนสอบเข้าไม่ได้ ถ้าไม่อยากจำก็ข้างที่ถนัดนิ้วชี้ไปเลยก็ได้ค่ะ
 
หลังจากเสร็จขั้นตอนข้างต้นแล้วจะได้รับการนัดมาอบรม ทางโรงเรียนขนส่งจตุจักรจะจัดอบรมทุกวันเสาร์นะคะ ส่วนใหญ่จะได้เสาร์ที่จะถึงหลังสมัครเลย ถ้าไม่ได้ติดวันหยุดอะไร ถ้าจำไม่ผิดวันเสาร์มาประมาณ 9 โมงค่ะ เสร็จประมาณ บ่าย 2-3 โมง
 
เสร็จสิ้นการสมัครวันแรกแล้วค่ะ
 
สรุป คนไม่มีรถ หรือ ไม่สะดวกให้คนขับรถมา
 
ถ้าไม่มีรถมาเอง ต้องเช่ารถ โรงเรียนขนส่งของรัฐ(นอกเวลาราชการ) หรือ โรงเรียนขนส่งเอกชนที่สามารถออกใบรับรองว่าผ่านการเรียนและสอบใบขับขี่ได้*เน้นว่าต้องได้รับใบรับรองนะคะ พามาสอบที่ขนส่งไม่นับค่ะ
 
ค่าใช้จ่าย
 
โรงเรียนขนส่งของรัฐ(นอกเวลาราชการ) 605+2,700 = 3,305 บาท (มีมัดจำค่าความเสียหายสนาม 2,000 บาทได้คืนนะคะ)
 
โรงเรียนเอกชน ประมาณ 5,500 บาท สอบถามโรงเรียนนะคะ บางที่มีโปรเรียนวันธรรมดา อาจจะถูกกว่านี้ค่ะ
 
โรงเรียนขนส่งถูกกว่านิดหน่อย แต่ถ้าบ้านไกลจากขนส่งเน้นใกล้บ้านค่ะ
 
รายชื่อโรงเรียนขนส่งที่สามารถออกใบรับรอง ณ วันที่ 30 กย. 62
 
สรุป คนมีรถ และมีคนขับรถมาส่ง
 
ถ้าเอารถมาเอง เสียแค่ 605 บาท ถ้าใครมีคนที่บ้านมีใบขับขี่พามาได้เลือกชอยส์นี้ค่ะ
 
1.2 การอบรม จำนวน 5 ชม. การนัดเจออาจารย์ผู้สอน
 
วันเสาร์ที่ได้นัดจากการสมัครสอบวันแรก ถ้าจำไม่ผิดมาประมาณ 9 โมง เสร็จประมาณ บ่าย 2-3 โมงค่ะ มีเว้นพักเที่ยง แถวนั้นมีร้านอาหารเปิดแบบกับข้าวตัก ก๋วยเตี๋ยว และเซเว่นค่ะ
 
โดยการอบรมเป็นการเปิดคลิปให้ดู ค่อนข้างง่วงค่ะ พยายามฝืนลืมตาสุด ๆ แต่เนื้อหาค่อนข้างเป็นประโยชน์ค่ะ ทำให้มีจิตสำนึกในการขับรถ การกะระยะรถค่อนข้างมากค่ะ ถ้าไม่ง่วงเกินไปฟังไว้จะดีค่ะ โดยเฉพาะการนับวินาทีในการเบรครถ โดยการใช้ 1001 (หนึ่งพันหนึ่ง) 1002(หนึ่งพันสอง) 1003(หนึ่งพันสาม) จะได้ 3 วิ ประมาณนี้ และเรื่องการขับรถแร็วแล้วต้องใช้การเบรคและรถไถลกี่เมตร ทำให้ตระหนักเรื่องการขับรถเร็วได้ดีค่ะ
 
หลังจากนั้นบางท่านจะเจออาจารย์ผู้สอนวันนี้เลยนะคะ หรือถ้าไม่เจอก็จะมีการโทรนัดวันหลังจากเบอร์ที่ให้ไว้ค่ะ
 
คำแนะนำ* ถ้าไม่อยากเรียนแบบยืดเยื้อ ระบุวันไปเลยนะคะว่าว่างวันไหน คิวอาจารย์ได้ไหม ถ้าไม่ได้จะได้ทราบค่ะ แต่ทางอาจารย์มี KPI ต้องเรียนจบหลังสมัครภายใน 2 และสอบให้ผ่านภายใน 3 เดือนค่ะ ถ้าไม่รีบมาก็ไม่เกินนี้อย่างแน่นอนค่ะ
 
ข้อคิดเห็นส่วนตัว: เนื่องจากดิฉันไม่เจออาจารย์วันดังกล่าว และอาจารย์โทรนัด และไม่ได้จองคิวแบบฟิควันแบบที่ควรจะทำ จองเป็นครั้งๆไป บางทีอาจารย์ก็ไม่ว่าง แพลนที่ดิฉันวางแผนไว้ว่าเรียนเสาร์ อาทิตย์ สามอาทิตย์จบ จึงต้องเลื่อนไปอีก ผิดหวังนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอ่านในเน็ตมาบางท่านแจ้งไปเลยว่าจะเรียนวันไหนบ้าง เลยค่อนข้างคาดหวังค่ะ
 
เวลานอกเวลาราชการที่เรียนได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
 
ลิงก์โรงเรียนขนส่งค่ะ
 
1.3 ประสบการณ์การเรียนขับรถ จำนวน 10 ชม.
 
รูปลานที่เรียน ลานเดียวกับที่สอบ อยู่หน้าตึกสมัครค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
 
วันเรียน ใส่กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น เสื้อสุภาพนะคะ โดยเฉพาะผู้หญิงเพราะอาจารย์ที่สอนเป็นผู้ชายค่ะ ถ้าใส่แขนยาวมาด้วยจะดีค่ะ แดดแรงมากและต้องเดินลงจากรถไปดูหลังการจอดเทียบ และ เข้าซองด้วย
 
เจออาจารย์ตามเวลาที่นัดไว้ไปก่อนเวลานิดนึงนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาการใช้รถของท่านที่คิวถัดไป เพราะคิวเสาร์อาทิตย์แน่นมาก
 
อาจารย์จะแนะนำตัว และนั่งรถไปด้วยพร้อมสอน ประมาณ 3 ครั้งและนอกนั้นให้ขับวนเองในสนามค่ะ
 
โดยท่าที่จะสอนประกอบด้วยท่าสอบ 3 ท่า และท่าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน 1 ท่า และพื้นฐานทั่วไปเช่นเลี้ยววงแคบ ขับตรง การสตาร์ท การขึ้นสะพาน การเข้าเกียร์ เปิดไฟเลี้ยว ขับซิกแซกตัวเอส การขับวนวงเวียน การชะลอก่อนเลี้ยว การให้ทางเอกไปก่อน การขึ้นเนินเลี้ยว (เกียร์ออโต) มีท่าจอดตรงสะพาน(เพิ่มสำหรับเกียร์ธรรมดา)ค่ะ
 
1.ท่าเดินหน้าถอยหลัง ให้ตรงทางตรงและไม่ชนแท่นข้าง ๆ
 
2.ท่าเทียบฟุตบาท ให้ล้อเหยียบเส้น และห่างไม่เกิน 25 ซม. กระโปรงหน้าอยู่ในกรอบใกล้ป้ายหยุด
 
3.ท่าจอดเข้าซองทางซ้าย ระหว่างรถคันหน้าและหลัง
 
ท่าในชีวิตประจำวัน
 
4.ท่าถอยเข้าซองจอดรถแนวตรง แบบที่จอดรถในห้าง
 
ข้อดีของการเรียนที่โรงเรียนขนส่ง คือสนามฝึกขับคือสนามสอบค่ะ ทำให้เราชินกับสนาม ทำให้มีโอกาสผ่านค่อนข้างมากค่ะ
 
และเรียนจนครบ 10 ชม.ค่ะ
 
ขอต่อในความเห็นนะคะ
 
ปล.หากเพื่อน ๆ เห็นว่ากระทู้มีประโยชน์รบกวนกดโหวตและแสดงความเห็นหรือประสบการณ์ที่เคยเรียนขับรถหรือสอบในกระทู้ด้วยนะคะ เผื่อเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยสอบหรือจะไปต่อใบขับขี่จะได้เตรียมตัวรับมือค่ะ ขอบคุณมากนะคะ