[CR] รีวิวอ.ปัว จ.น่าน 2 วัน 1 คืน

สวัสดีค่ะ นี่เป็นทริปแรกที่จะนำมารีวิว เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปเที่ยวกันค่ะ ไปแบบ 2 วัน 1 คืน(เดินทางวันศุกร์เย็น กลับวันอาทิตย์ ไม่ต้องลางานจ้าาา) พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ 😊

เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราตัดสินใจไปจ.น่าน เพราะตกหลุมรักเมืองแห่งขุนเขาที่ทรงเสน่ห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองหรือจะเป็นต่างอำเภอที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสกัน ทริปนี้เราเลือกไปอ.ปัว โดยมีผู้ร่วมทริปอีกหนึ่งคน 

การเดินทางเราจองตั๋วรถทัวร์ของบขส.เส้นทางกรุงเทพฯ-น่านไว้ในราคา 480 บาททั้งขาไปและขากลับ

เมื่อถึงเวลาค่ำของวันศุกร์เราไปขึ้นรถที่บขส.นวนคร(รถออกจากต้นทางหมอชิต ตอนจองเราเลือกจุดขึ้นรถที่นวนคร) ใครอยู่ใกล้ ๆ แถวนวนครก็จองตั๋วหรือซื้อตั๋วที่นวนครได้นะ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปหมอชิตให้เสียเวลา นี้คือสาเหตุหลักที่เราเลือกบริการของบขส.ค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราออกเดินทางไปด้วยกันเลยค่ะ Let' goooo 🚎🛣

วันที่ 1: เช้าวันที่ 12 ตุลาคม เรามาถึงบขส.น่าน ก็ทำธุระ ล้างหน้า แปรงฟัน พร้อมโทรหาพี่ที่เราได้เช่ารถไว้ ซึ่งเราได้เช่ารถผ่านทางเว็บไซต์ drivehub ค่ะ เมื่อส่งเอกสาร ตรวจสอบรถกันเรียบร้อยเราก็พร้อมออกเดินทาง เราเริ่มทริปด้วยการไหว้พระขอพรให้การเดินทางของเราเต็มไปด้วยความสุข ความสนุก และปลอดภัยตลอดทั้งทริปนี้ 🙏🙏

เราไปกันที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 2 กม. สามารถเดินทางไปได้ทุกวัน จะเปิดให้เข้านมัสการตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.ค่ะ 

หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อย ตามด้วยมื้อเช้าแบบมัน ๆ

จากนั้นเราได้มุ่งหน้าสู่อ.บ่อเกลือ โดยผ่านเส้นทางในฝันที่ใครหลายคนเรียกว่า "ถนนลอยฟ้า"



ถนนเส้นนี้สวยงามจริง ๆ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ
เป็นอีกเส้นทางที่เราชอบและประทับใจที่สุดเลยค่ะ 🥰 

ไม่นานเราก้ขับรถมาถึงจุดชมวิว 1715 ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องแวะพักชมวิวกัน และเนื่องจากอยู่สูงมากกกก อากาศเลยหนาวตลอด แถมอยู่ๆหมอกก็พัดมาให้เจอตอนบ่ายสองง! ฟินสุดๆไปเลย

หลังจากพักรถ พักคน ให้อิ่มเอมกับธรรมชาติสักพัก
เราก็เดินทางมาถึงบ่อเกลือสินเธาว์ ซึ่งเป็นบ่อเกลือโบราณ แห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่ใน อ. บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร
นอกจากบ่อเกลือและธรรมชาติที่น่าทึงแล้ว
ที่นี้ยังมีร้านค้าของชาวบ้านที่มีการผลิตเกลือมาวางขาย ทั้งเกลือขัดผิว ขัดหน้า เกลือบริโภค และอีกหลายผลิตภัณฑ์สามารถเลือกซื้อกันได้ตามชอบเลยจ้าาา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะเวียนกันเยอะมากค่ะ 👍

หลังจากเที่ยวมาทั้งวันด้วยอากาศที่ร้อนจัด🌞 เราเลยแวะคาเฟ่ เพื่อเติมความหวานกันหน่อยค่ะที่นี่เลย cocoa valley cafe หรือ cocoa valley resort ☕ การเดินทางไป cocoa valley ขับรถจากตัวเมืองน่านไปยังอ.ปัว ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งทำเลที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นยอดดอยภูคาได้ด้วยค่ะ

cocoa valley cafe เป็นคาเฟ่ภายในรีสอร์ทที่เปิดให้คนนอกเข้ามานั่งชิล จิบช็อกโกแลตแท้ 100%ที่ทางร้านทำเอง โดยใช้โกโก้ที่ทางร้านปลูกมาผ่านกรรมวิธีอย่างพิถีพิถันในการแปรรูปเป็นเมล็ดโกโก้ แล้วแปรรูปเป็นช็อกโกแลตแท้ 100% เพื่อที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่ม

บรรยากาศของที่นี่ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาสามารถชมวิวภูเขาได้สุดลูกหูลูกตา แต่น่าเสียดายมากช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ฝนตกเลยไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศข้างนอกมาให้ชมกัน แต่แค่ได้ช็อกโกแลตอุ่น ๆ ก็ฟินแล้ว☕🍮

หลังจากแวะพัก แวะเที่ยว แวะกินระหว่างทาง ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักสำหรับคืนนี้ค่ะ ⛺ ตูบนา โฮมสเตย์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลย 👍👍

เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่กลางทุ่งนา บอกเลยว่าที่นี้จ่ายหลักพันแต่ได้วิวราคาหลักล้านมากกกก คือดีย์ บรรยากาศดี อากาศสดชื่น เงียบ เป็นส่วนตัวสุด ๆ เหมาะแก่การมานอนพักผ่อนมาก ๆ 

ที่พักที่เราจองไว้เป็นกระท่อมหลังเล็กอยู่ในทุ่งนา พักได้ 2 คน คืนละ 1,400 บาท ห้องน้ำรวมแต่ไม่น่ากลัวนัก เนื่องจากคนไม่เยอะเพราะกระท่อมในทุ่งนามีแค่ 5 หลังเท่านั้นค่ะ แต่ใครที่ไปหลายคน ไปกันเป็นครอบครัว ทางที่พักก็มีบ้านพักหลังใหญ่ไว้ให้บริการด้วยนะ

ตกเย็นมาเดินชิล ๆ แบบ เนิบ เนิบ ในบรรยากาศยามเย็นที่สดชื่น ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่นากำลังเหลืองสีกำลังดีเลยทำให้ได้ภาพบรรยากาศสีของนาสีเขียวสลับกับสีเหลืองอย่างสวยงาม

แสงพระอาทิตย์ตกกระทบกับนาสวยมากกกกก วิวดีมากกก

ตอนเย็นมีขันโตกมาเสิร์ฟเป็นอาหารเหนือ มีทั้งน้ำพริกหนุ่ม ข้าวเหนียว ข้าวสวย ปลา ไส้อั่ว แกงฮังแล (รับขันโตกจ่ายเพิ่มคนละ 200 นะแจ้งตอนจองที่พักได้เลย)

ถึงเวลานอนเพลิน ๆ ในบรรยากาศที่เงียบสงบเต็มไปด้วยธรรมชาติที่โอบล้อมเราไว้ 🏞 คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ค่า 😊

วันที่ 2: เช้าวันที่ 13 ตุลาคม 
เราตื่นเช้ามาก็พบกับอากาศที่สดชื่น สูดอากาศได้เต็ม ๆ ปอด

พร้อมกินอาหารเช้าอร่อย ๆ 😋 (ที่พักมีอาหารเช้าให้ฟรีจ้า)

ก่อนเดินทางกลับอ.เมืองก็ไม่ลืมที่จะหามุมถ่ายรูปสวย ๆ 🙂 
อ้อลืมบอกไป นอกจากที่พักแล้วยังมีคาเฟ่ตูบนา มีชา กาแฟ สั่งมากินในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ได้ด้วยนะ 🌞
 
หลังจากเสพความสดชื่นและถ่ายรูปกันเต็มอิ่ม ก็ออกเดินทางกันต่อ

ขับรถออกจากที่พักไม่นานก็มาถึงวัดภูเก็ต อ.ปัว

ถือว่าเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และวิวที่สวยงาม โดยจุดเด่นของวัด คือ มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัดติดกับทุ่งนาที่กว้าง พร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม

ด้านล่างวัดมีแม่น้ำไหลผ่าน ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทานค่ะ สามารถให้อาหารปลาได้ค่ะ👍

จากวัดก็ขับรถมาแวะพักจิบกาแฟในบรรยากาศไทลื้อกับร้านกาแฟบ้านไทลื้อ 🌞 อืมมม คนเยอะมากจริงๆ 555+

จากนั้นเราได้มาจัดมื้อเที่ยงแบบหนักๆกันที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำค่ะซึ่งถ้ามาถึงอ.ปัว หากไม่ได้แวะมาลิ้มลองเมนูเห็ดที่นี้ก็ถือว่าพลาดมาก! แนะนำเลยค่ะ พิซซ่าหน้าเห็ดของที่นี่อร่อยมากๆ ต้องสั่ง!
พิชซ่าหน้าเห็ดแป้งหนานุ่ม ชีสยืด ๆ 
คำเตือน !! ใครที่หิวจัดควรหาอะไรรองท้องมาก่อนเลยค่ะเพราะรอคิวนานมากอย่างต่ำครึ่งชม. (คนเยอะมาก) ไม่รวมเวลารออาหารนะคะ

หลังจากอิ่มเอมกับการรอคิวกินมื้อเที่ยงกันไปแล้ว เราก็ได้เดินทางต่อไปยังอ.เมือง เพื่อจะไปคืนรถเช่าและขึ้นรถกลับที่บขส.น่าน

แต่ก็ต้องแวะชิมขนมหวานที่ขึ้นชื่อของน่านอีกหนึ่งที่ นั้นคือร้านของหวานป้านิ่มที่คนต่อคิวรอเยอะไม่แพ้ที่ไหนเลยจ้า 

ร้านใหม่อยู่ทางไปสนามบินน่าน เปิด google map แล้วพิมพ์คำว่า ของหวานป้านิ่มสาขาใหม่ แล้วไปกันเลยยย
เป็นอีกร้านที่ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงเช้า หยุดทุกวันพุธนะ 

มีหลายหลายเมนูให้เลือกกันตามชอบเลยจ้า ที่เราสั่งคือบัวลอย+ไข่ และบัวลอย+ไอติม ตัวบัวลอยอร่อยหนึบหนับ กะทิหอม หวาน มันถึงใจมาก โดยส่วนตัวแล้วชอบมาก (ปล.รสชาติไอติมมีให้เลือกหลายรสชาติมากค่ะ) ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากเด้อ ใครอยากเห็นหน้าตาเป็นยังไง แนะนำว่าต้องไปลองสักครั้งค่ะ

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ 🛣 หลังจากกินขนมหวานเสร็จเราก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ ➡️ บขส.น่าน

และแล้วทริปนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์ในแบบที่มันควรจะเป็น และการเที่ยวครั้งนี้เป็นการเที่ยวที่ได้อะไรหลายอย่าง ได้ปล่อยวางทุกอย่างแล้วใช้ชีวิตแบบ เนิบ เนิบ ปล่อยให้เป็นวันสบาย ๆสมกับการพักผ่อนตามใจตัวเองไปกับ 2 วัน 1 คืน หากคุณได้ไปเที่ยวแบบนี้แล้วคุณจะหลงรักการเดินทางเที่ยวอย่างแน่นอน... 

On Holiday เที่ยว อ.ปัว จ.น่าน 2 วัน 1 คืน (วันเสาร์-อาทิตย์)
• ที่พักตูบนา กระท่อมกลางนา 1,400 / คืน ตกคนละ 700 บาท
• ค่าขันโตกคนละ 200 บาท 
• ค่ารถทัวร์ขาไปเดินทางวันศุกร์ เวลา 20.30น. ถึงบขส.น่าน 5.30น. ราคา 480 บาท
• ค่ารถทัวร์ขากลับเดินทางวันอาทิตย์ เวลา 19.00 ราคา 480 บาท รวมค่ารถทัวร์ตกคนละ 960 บาท
• ค่าเช่ารถ 2วัน 2,000 บาท มีค่าจอง 1,000 บาท เราเช่ารถผ่าน drivehub (https://m.drivehub.co/) ค่าใช้จ่ายเมื่อรับรถคือ ค่าเช่าอีก 1,000 + วางเงินประกัน 2,000 =3,000 บาทคะ เงินประกันจะได้คืนวันที่เราคืนรถ (รายละเอียดค่าบริการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับทางร้านที่เลือกจองค่ะ)
*การเช่ารถผ่าน drivehub สะดวกสบายสามารถเลือกได้เลยว่าเราต้องการรถแบบไหน ราคาเท่าไร ถือว่าได้รับบริการที่ดีทีเดียวค่ะ เราใช้บริการมาสองครั้งคือประทับใจและที่สำคัญมีให้บริการหลากหลายจังหวัดมากจ้ะ
ทริปนี้เราก็ขอลาไปก่อน ทริปหน้ารออยู่ 👍😊
ชื่อสินค้า:   สถานที่ท่องเที่ยว จ.น่าน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่