***************************************
อัพเดตครั้งสุดท้ายค่ะ
*********************************************
สรุปแล้วไม่เข้าเกณฑ์ UCEPค่ะ
และต้องทำเรื่องร้องเรียน ร.พ.ที่เก็บค่ามัดจำก่อนเข้ารักษาต่อไปค่ะ
**
*
ขอให้กระทู้นี้เป็นประสบการณ์ความรู้แก่ผู้ประสบอุบัติเหตุนะคะ
หลังจากประสบอุบัติอุบัติเหตุให้เข้าโรงพยาบาลที่อิงจากประกันอะไรก็แล้ว หรือ พรบ.ที่ตนมีอยู่
ถ้าผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ฉุกเฉิน หรือ UCEP สามารถรักษาฟรี 72 ชั่วโมง
ร.พ. ทุกแห่งไม่มีสิทปฏิเสธการรักษา หรือเรียกเก็บเงินล่วงหน้าทุกกรณี
พรบ.อุบัติเหตุเบิกได้ 30,000 บาท แต่ถ้าแจ้งความแล้วจะได้เป็น 80,000 บาทค่ะ
ขอบคุณทุกๆความเห็นมากๆค่ะ
*********************************อัพเดตครั้งที่ 1************************************
เนื่องจาก ข้างล่างเรียบเรียงได้ไม่ดี เลยจะสรุปเหตุการณ์ให้ดังนี้นะคะ
- ผู้ป่วยประสพอุบัติเหตุ มีคนโทรเรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ และรับไปที่ร.พ.รัฐบาล แถวศาลายา
- เมื่อถึงร.พ.รัฐบาล ญาตผู้ป่วยได้สอบถาม ที่แผนกฉุกเฉิน ว่าสามารถใช้ พรบ.ได้ไหม เพราะมอไซค์ของตนมี พรบ.
- ร.พ.รัฐบาล ตอบว่า ไม่รองรับ ถ้าหากใช้ ต้องไปยื่นเรื่อง และขอเบิกเอง และถ้าจะเข้ารับรักษา ต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้า 30,000 บาท
- ญาติไม่สามารถวางเงินมัดจำตามที่ร.พ.เรียกได้ หน่วยกู้ภัยจึงพาผู้ป่วย ไปที่ร.พ.เอกชนอีกแห่งหนึ่ง
- ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา สามารถใช้พรบ.เบิกค่ารักษาได้หลังจากที่แจ้งความ 80,000 บาท แต่ก็ยังมีเศษส่วนต่างจากค่ารักษาที่ต้องจ่ายเพิ่มเองอีก
- ญาติโทรถาม สพฉ. ถึงความโปร่งใสของการปฏิบัติงานใน ร.พ.รัฐแห่งแรก ที่เรียกเก็บมัดจำก่อนเข้ารักษา 30,000 บาท
- ได้ความว่า ร.พ.ทุกแห่งไม่สามารถเรียกเก็บเงินก่อนเข้ารับรักษาได้ และเคสนี้เข้าข่ายเคสฉุกเฉิน หรือ ยูเซพ แต่แรก ซึ่งรักษาฟรี 72 ชม.แรก
- จึงได้แจ้งให้ทาง ร.พ.เอกชน ให้คีย์ข้อมูลผู้ป่วยเป็น ผู้ป่วยฉุกเฉิน และทำเรื่องร้องเรียน ร.พ.รัฐบาลที่เรียกเก็บเงิน
- ทางโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธ โดยให้เหตุผลแรก ว่า ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนย้ายจากร.พ.แรกมาที่ร.พ.ที่สองได้ แสดงว่าอดทนได้
- สพฉ. จึงให้ทำเรื่องส่งคำร้องเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน
- ญาติได้ไปคุยกับทาง ร.พ.เอกชนอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ร.พ.ให้เหตุผลว่า ผู้ป่วยไม่เข้าข่ายฉุกเฉินหรือยูเซพ เพราะตอนมาที่ร.พ.
พยาบาลถามผู้ป่วยว่า ไหวไหม ผู้ป่วยตอบว่า ไหว จึงทำให้หมดสิทฉุกเฉิน
- อาการของผู้ป่วยที่ทางโรงพยาบาลได้แจ้ง หลังจากการรับรักษา เลือดออกในสมอง ซี่โครงหัก นิ้วเท้าสามนิ้วแตกละเอียด ความดันสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช้ำและถลอกทั้งตัว
- ผู้ป่วยไม่สามารถขยับตัวได้ ตั้งแต่ประสพอุบัติเหตุ และหลังจากเข้ารับการรักาษต้องอยู่ในห้อง ICU ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา
โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งแถวศาลายาเรียกเก็บเงินมัดจำผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนเข้ารับรักษาได้หรอ?
- ผู้ป่วยประสพอุบัติเหตุ มีคนโทรเรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ และรับไปที่ร.พ.รัฐบาล แถวศาลายา
- เมื่อถึงร.พ.รัฐบาล ญาตผู้ป่วยได้สอบถาม ที่แผนกฉุกเฉิน ว่าสามารถใช้ พรบ.ได้ไหม เพราะมอไซค์ของตนมี พรบ.
- ร.พ.รัฐบาล ตอบว่า ไม่รองรับ ถ้าหากใช้ ต้องไปยื่นเรื่อง และขอเบิกเอง และถ้าจะเข้ารับรักษา ต้องจ่ายมัดจำล่วงหน้า 30,000 บาท
- ญาติไม่สามารถวางเงินมัดจำตามที่ร.พ.เรียกได้ หน่วยกู้ภัยจึงพาผู้ป่วย ไปที่ร.พ.เอกชนอีกแห่งหนึ่ง
- ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา สามารถใช้พรบ.เบิกค่ารักษาได้หลังจากที่แจ้งความ 80,000 บาท แต่ก็ยังมีเศษส่วนต่างจากค่ารักษาที่ต้องจ่ายเพิ่มเองอีก
- ญาติโทรถาม สพฉ. ถึงความโปร่งใสของการปฏิบัติงานใน ร.พ.รัฐแห่งแรก ที่เรียกเก็บมัดจำก่อนเข้ารักษา 30,000 บาท
- ได้ความว่า ร.พ.ทุกแห่งไม่สามารถเรียกเก็บเงินก่อนเข้ารับรักษาได้ และเคสนี้เข้าข่ายเคสฉุกเฉิน หรือ ยูเซพ แต่แรก ซึ่งรักษาฟรี 72 ชม.แรก
- จึงได้แจ้งให้ทาง ร.พ.เอกชน ให้คีย์ข้อมูลผู้ป่วยเป็น ผู้ป่วยฉุกเฉิน และทำเรื่องร้องเรียน ร.พ.รัฐบาลที่เรียกเก็บเงิน
- ทางโรงพยาบาลเอกชนปฏิเสธ โดยให้เหตุผลแรก ว่า ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนย้ายจากร.พ.แรกมาที่ร.พ.ที่สองได้ แสดงว่าอดทนได้
- สพฉ. จึงให้ทำเรื่องส่งคำร้องเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน
- ญาติได้ไปคุยกับทาง ร.พ.เอกชนอีกรอบ ซึ่งคราวนี้ร.พ.ให้เหตุผลว่า ผู้ป่วยไม่เข้าข่ายฉุกเฉินหรือยูเซพ เพราะตอนมาที่ร.พ.
พยาบาลถามผู้ป่วยว่า ไหวไหม ผู้ป่วยตอบว่า ไหว จึงทำให้หมดสิทฉุกเฉิน
- อาการของผู้ป่วยที่ทางโรงพยาบาลได้แจ้ง หลังจากการรับรักษา เลือดออกในสมอง ซี่โครงหัก นิ้วเท้าสามนิ้วแตกละเอียด ความดันสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช้ำและถลอกทั้งตัว
- ผู้ป่วยไม่สามารถขยับตัวได้ ตั้งแต่ประสพอุบัติเหตุ และหลังจากเข้ารับการรักาษต้องอยู่ในห้อง ICU ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา