ปัญหาที่เห็นชัดๆจากฟอร์มทีมไทยที่เจอกับไต้หวันล่าสุดและน่าจะเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ ก็คือ บอลแรกทีมไทย
คืออาการเป๋พอสมควรอีกนิดก็ใกล้สู่ขิตแล้ว ขนาดแค่เจอบอลเสริฟไต้หวันนะยังเป๋ไปเป๋มาเลย นี่ถ้าเจอบอลเสริฟ
เกาหลีใต้ แน่นอนทีมนี้คงเตรียมบอลเสริฟมากะสกัดทีมไทยไม่ให้บุกได้สะดวกอยู่แล้ว (ถ้าเกาไม่เสริฟเสียเองซะก่อนนะ) ยิ่งน่าเป็นห่วงเลย
โอเค แน่นอน ทุกคนรู้อยู่แล้ว ว่าปัญหาของทีมไทยก็คือบอลแรกที่ไม่เสถียร ซึ่งจริงๆก็เป็นปัญหาของหลายๆทีมนั่นแหละ
แต่ก็รู้กันว่า อย่างพวกทีมในยุโรปบอลแรกแหกยังไง ก็ยังยกสูงมีตัวตบแก้บอลได้ แต่สำหรับทีมตัวเล็กๆอย่างไทย
ถ้าบอลแรกไม่เข้า มีก็ผลต่อเกมบุกพอสมควร แล้วถามว่า แล้วจะแก้ยังไงล่ะเรื่องบอลแรกของไทย
เราก็ตอบไม่ได้ เพราะเรื่องบอลแรกมันเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ของคนรับด้วย
แล้วก็สถานการณ์ความกดดันในระหว่างการแข่งขันมีผลต่อจิตใจคนรับบอลแรกแค่ไหน
แล้วมันก็เกี่ยวข้องกับการเสริฟของฝ่ายตรงข้ามอีก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ต่อให้ซ้อมมาดีแค่ไหน
แต่โอกาสที่บอลแรก จะแหกก็มีได้ทุกเมื่อ บางปัจจัยมันเป็นอะไรที่ควบคุมได้ยากในสนามจริง
แต่ประเด็นที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ไม่ใช่จะมาบ่นเรื่องปัญหาเดิมๆของทีมไทย หรือจะมาเสนอแนะการแก้ปัญหาเรื่องบอลแรกของทีมไทย
เพราะมาแก้ไขอะไรตอนนี้คงไม่ทัน เพราะมันขึ้นอยู่กับทักษะและสภาพจิตใจของคนรับบอลแรกของทีมแล้วล่ะว่าจะควบคุมความนิ่งได้แค่ไหน
โดยเฉพาะอร กับ บิ๋ม แน่นอนโอกาสที่เกาจะเสริฟจี้ไปที่บิ๋มมีสูงอยู่แล้ว เพราะคู่แข่งก็น่าจะรู้ว่า
บิ๋มก็เป็นคิลเลอร์คนหนึ่งของทีมก็ต้องการตัดเกมบุกบิ๋มและทีมไทยอีกด้วย
สมมุตว่า ถ้าอรกับบิ๋มลงพร้อมกันนะ เพราะเปอร์เซนต์การส่งบอลให้บิ๋มตบน่าจะมากกว่าอร นั่นหมายถึง
โอกาสในการทำเกมบุกของบิ๋มน่าจะมีมากกว่าอร แล้วด้วยอายุและประสบการณ์ของบิ๋มที่ยังน้อย การเสริฟจี้ไปที่บิ๋ม
ย่อมมีโอกาสสร้างแรงกดดันให้กับบิ๋มได้มากกว่าผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากอย่างอร เพราะฉะนั้น บอลแรกของบิ๋ม
จะดีหรือไม่ก็อยู่ที่ใจน้องด้วยว่ามันควบคุมสภาพจิตใจได้นิ่งแค่ไหนสำหรับความกดดันที่จะถูกเสริฟจี้
เพราะฉะนั้น สิ่งที่บิ๋มต้องควบคุมให้ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องสกิลการรับบอลแรก นั่นคือ เรื่องความกดดันที่ส่งผลจิตใจแล้วส่งผล
ต่อฟอร์มการเล่นของตัวเอง (ตรงนี้ทางทีมน่าจะมีนักจิตวิทยาหรือใช้จิตวิทยามาช่วยในการฝึกเรื่องควบคุมจิตใจให้กับน้องตรงนี้)
แต่เท่าที่สังเกต คิดว่า ตัวหลักหัวเสาในการรับบอลแรกของไทยในตอนนี้ น่าจะอยู่ที่ อร บิ๋ม ปู กิ๊ฟ
(ตัดแป้นออกไปก่อนนะ ว่ากันเรื่องบอลแรกหัวเสา ส่วนเพียวกับบีม มองว่า โค้ชอาจจะปิดบอลแรก
คงไม่เสี่ยงให้สองคนนี้มารับบอลแรกในแมทสำคัญ เก็บไว้เป็นตัวบุกดีกว่า จะเห็นได้ว่าถ้าเพียว
จะบุกได้ดีถ้าปิดบอลแรกเพียว) ขึ้นอยู่กับโค้ชว่าจะให้ใครลงคู่กับใคร หรือถ้าใครบอลแรกพังก็ส่งอีกคนลงไปแทนได้
แต่คิดว่า บิ๋มน่าจะเป็นตัวยืนหลักในการรับบอลแรกและบุกหัวเสา ก็ต้องมาดูว่า โค้ชจะจับคู่วางตัวยังไงสำหรับคนรับบอลแรก
ของทีม ซึ่งมันก็มีผลต่อเกมการบุกเหมือนกัน ในการเลือกให้ใครมาช่วยรับบอลแรก เพราะทีมไทย
คนรับบอลแรกต้องสามารถเป็นตัวบุกได้ด้วย ขึ้นอยู่กับแผนการบุกของทีมในแต่ละสถานการณ์
แต่ประเด็นที่จะคุยกันต่อจากเรื่องบอลแรกคือ ถ้าบอลแรกไม่เข้าล่ะ ปัญหาก็จะตกไปอยู่ที่ตัวเซต
แล้วถ้าบอลแรกห่างจากตัวเซตล่ะ ปัญหาก็จะอยู่ที่การต่อบอลของคนอื่นๆในทีม
...ประเด็นก็คือว่า
ทีมไทยมีสกิลการต่อบอลดีแค่ไหน แล้วมันสำคัญต่อทีมไทยแค่ไหน หลายคนจะให้ความสำคัญกับบอลแรก
ซึ่งมันก็ถูก แต่สกิลการต่อบอลของทีมมันก็ไม่ควรมองข้ามมันเป็นตัวช่วยที่ดีของเกมบุกโต้กลับของทุกทีมได้เลยล่ะ
เราว่าทีมไทยก็น่าจะมองออกว่าการต่อบอลมีความสำคัญต่อการเกมการเล่นของทีมอยู่พอสมควร
จากการที่เลือกยุพามาช่วยในเกมรับ ด้วยสกิลการต่อบอลที่ดีของยุพาด้วย
แต่ยุพาคนเดียวคงไม่พอ จริงๆมันควรจะเน้นหรือฝึกการต่อบอลให้กับนักกีฬาทุกคนในทีม
และตำแหน่งที่ควรต้องเน้นเรื่องฝึกต่อบอลให้ดีนอกจากการบล็อคและบุก คือ ตำแหน่ง MB เพราะ
เป็นตำแหน่งที่ยืนอยู่ในโซนเซตมากกว่าตำแหน่งอื่นๆ จะเห็นว่า MB ระดับโลกหลายคนมีสกิลการต่อบอล
หรือการเซตที่ดี อย่างน้อยก็เซตไม่ฟาล์วให้เสียแต้มฟรีๆเหมือน MB บางทีม
สำหรับไทย ตอนนี้นอกจากเซตเตอร์และลิบแล้ว คนที่ต่อบอลดี ก็จะมี กิ๊ฟ กับ หน่อง
ซึ่งสกิลการต่อบอลของกิ๊ฟกับหน่องช่วยทีมในเรื่องเกมบุกได้ดีในหลายๆครั้ง
เรียกว่า สองคนนี้ เป็น Co-Setter ของทีมได้เลย แต่มันไม่พอสำหรับทีม ถ้าทุกคนในทีม
เน้นให้ความสำคัญกับการต่อบอล โดยเฉพาะตำแหน่ง MB มันจะช่วยเกมบุกของไทยในการโต้กลับ
ได้ดีกว่าเดิม หรือ ในบางครั้งอาจจะเป็นตัวช่วยเวลาบอลแรกไทยมันเป๋ออกนอกลู่นอกทางให้กลับสู่โซนการบุกของไทยได้
ตอนนี้แมทที่จะเจอกับเกาหลีใต้ อยากให้ทุกคนในทีมฝึกเรื่องการต่อบอลด้วย โดยเฉพาะ แนน กับ ตาล
อย่างน้อยก็ให้รู้ว่า จะเซตยังไงไม่ให้ฟาล์ว จะต่อบอลส่งไปไหนไปให้ใคร อย่างน้อยก็ให้ฝึกเรื่อง MindSet
ว่าถ้าบอลมาในตำแหน่งใกล้เคียงที่เรายืนอยู่เราจะเซตหรืออันเดอร์ยังไงให้ไปสู่ตำแหน่งการบุกที่ดีได้
ในฐานะคนเชียร์คนหนึ่งก็ฝากเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยน้า
สุดท้ายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทีมไทยจะได้ตั๋วไปหรือไม่ ก็เป็นกำลังใจให้ทีมไทยเสมอ.
ว่าด้วยเรื่องบอลแรกและการต่อบอล จากแมทที่ไทยเจอกับไต้หวันล่าสุดในรายการคัดโอลิมปิค2020โซนเอเชียที่ผ่านมา
คืออาการเป๋พอสมควรอีกนิดก็ใกล้สู่ขิตแล้ว ขนาดแค่เจอบอลเสริฟไต้หวันนะยังเป๋ไปเป๋มาเลย นี่ถ้าเจอบอลเสริฟ
เกาหลีใต้ แน่นอนทีมนี้คงเตรียมบอลเสริฟมากะสกัดทีมไทยไม่ให้บุกได้สะดวกอยู่แล้ว (ถ้าเกาไม่เสริฟเสียเองซะก่อนนะ) ยิ่งน่าเป็นห่วงเลย
โอเค แน่นอน ทุกคนรู้อยู่แล้ว ว่าปัญหาของทีมไทยก็คือบอลแรกที่ไม่เสถียร ซึ่งจริงๆก็เป็นปัญหาของหลายๆทีมนั่นแหละ
แต่ก็รู้กันว่า อย่างพวกทีมในยุโรปบอลแรกแหกยังไง ก็ยังยกสูงมีตัวตบแก้บอลได้ แต่สำหรับทีมตัวเล็กๆอย่างไทย
ถ้าบอลแรกไม่เข้า มีก็ผลต่อเกมบุกพอสมควร แล้วถามว่า แล้วจะแก้ยังไงล่ะเรื่องบอลแรกของไทย
เราก็ตอบไม่ได้ เพราะเรื่องบอลแรกมันเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ของคนรับด้วย
แล้วก็สถานการณ์ความกดดันในระหว่างการแข่งขันมีผลต่อจิตใจคนรับบอลแรกแค่ไหน
แล้วมันก็เกี่ยวข้องกับการเสริฟของฝ่ายตรงข้ามอีก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ต่อให้ซ้อมมาดีแค่ไหน
แต่โอกาสที่บอลแรก จะแหกก็มีได้ทุกเมื่อ บางปัจจัยมันเป็นอะไรที่ควบคุมได้ยากในสนามจริง
แต่ประเด็นที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ไม่ใช่จะมาบ่นเรื่องปัญหาเดิมๆของทีมไทย หรือจะมาเสนอแนะการแก้ปัญหาเรื่องบอลแรกของทีมไทย
เพราะมาแก้ไขอะไรตอนนี้คงไม่ทัน เพราะมันขึ้นอยู่กับทักษะและสภาพจิตใจของคนรับบอลแรกของทีมแล้วล่ะว่าจะควบคุมความนิ่งได้แค่ไหน
โดยเฉพาะอร กับ บิ๋ม แน่นอนโอกาสที่เกาจะเสริฟจี้ไปที่บิ๋มมีสูงอยู่แล้ว เพราะคู่แข่งก็น่าจะรู้ว่า
บิ๋มก็เป็นคิลเลอร์คนหนึ่งของทีมก็ต้องการตัดเกมบุกบิ๋มและทีมไทยอีกด้วย
สมมุตว่า ถ้าอรกับบิ๋มลงพร้อมกันนะ เพราะเปอร์เซนต์การส่งบอลให้บิ๋มตบน่าจะมากกว่าอร นั่นหมายถึง
โอกาสในการทำเกมบุกของบิ๋มน่าจะมีมากกว่าอร แล้วด้วยอายุและประสบการณ์ของบิ๋มที่ยังน้อย การเสริฟจี้ไปที่บิ๋ม
ย่อมมีโอกาสสร้างแรงกดดันให้กับบิ๋มได้มากกว่าผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากอย่างอร เพราะฉะนั้น บอลแรกของบิ๋ม
จะดีหรือไม่ก็อยู่ที่ใจน้องด้วยว่ามันควบคุมสภาพจิตใจได้นิ่งแค่ไหนสำหรับความกดดันที่จะถูกเสริฟจี้
เพราะฉะนั้น สิ่งที่บิ๋มต้องควบคุมให้ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องสกิลการรับบอลแรก นั่นคือ เรื่องความกดดันที่ส่งผลจิตใจแล้วส่งผล
ต่อฟอร์มการเล่นของตัวเอง (ตรงนี้ทางทีมน่าจะมีนักจิตวิทยาหรือใช้จิตวิทยามาช่วยในการฝึกเรื่องควบคุมจิตใจให้กับน้องตรงนี้)
แต่เท่าที่สังเกต คิดว่า ตัวหลักหัวเสาในการรับบอลแรกของไทยในตอนนี้ น่าจะอยู่ที่ อร บิ๋ม ปู กิ๊ฟ
(ตัดแป้นออกไปก่อนนะ ว่ากันเรื่องบอลแรกหัวเสา ส่วนเพียวกับบีม มองว่า โค้ชอาจจะปิดบอลแรก
คงไม่เสี่ยงให้สองคนนี้มารับบอลแรกในแมทสำคัญ เก็บไว้เป็นตัวบุกดีกว่า จะเห็นได้ว่าถ้าเพียว
จะบุกได้ดีถ้าปิดบอลแรกเพียว) ขึ้นอยู่กับโค้ชว่าจะให้ใครลงคู่กับใคร หรือถ้าใครบอลแรกพังก็ส่งอีกคนลงไปแทนได้
แต่คิดว่า บิ๋มน่าจะเป็นตัวยืนหลักในการรับบอลแรกและบุกหัวเสา ก็ต้องมาดูว่า โค้ชจะจับคู่วางตัวยังไงสำหรับคนรับบอลแรก
ของทีม ซึ่งมันก็มีผลต่อเกมการบุกเหมือนกัน ในการเลือกให้ใครมาช่วยรับบอลแรก เพราะทีมไทย
คนรับบอลแรกต้องสามารถเป็นตัวบุกได้ด้วย ขึ้นอยู่กับแผนการบุกของทีมในแต่ละสถานการณ์
แต่ประเด็นที่จะคุยกันต่อจากเรื่องบอลแรกคือ ถ้าบอลแรกไม่เข้าล่ะ ปัญหาก็จะตกไปอยู่ที่ตัวเซต
แล้วถ้าบอลแรกห่างจากตัวเซตล่ะ ปัญหาก็จะอยู่ที่การต่อบอลของคนอื่นๆในทีม
...ประเด็นก็คือว่า
ทีมไทยมีสกิลการต่อบอลดีแค่ไหน แล้วมันสำคัญต่อทีมไทยแค่ไหน หลายคนจะให้ความสำคัญกับบอลแรก
ซึ่งมันก็ถูก แต่สกิลการต่อบอลของทีมมันก็ไม่ควรมองข้ามมันเป็นตัวช่วยที่ดีของเกมบุกโต้กลับของทุกทีมได้เลยล่ะ
เราว่าทีมไทยก็น่าจะมองออกว่าการต่อบอลมีความสำคัญต่อการเกมการเล่นของทีมอยู่พอสมควร
จากการที่เลือกยุพามาช่วยในเกมรับ ด้วยสกิลการต่อบอลที่ดีของยุพาด้วย
แต่ยุพาคนเดียวคงไม่พอ จริงๆมันควรจะเน้นหรือฝึกการต่อบอลให้กับนักกีฬาทุกคนในทีม
และตำแหน่งที่ควรต้องเน้นเรื่องฝึกต่อบอลให้ดีนอกจากการบล็อคและบุก คือ ตำแหน่ง MB เพราะ
เป็นตำแหน่งที่ยืนอยู่ในโซนเซตมากกว่าตำแหน่งอื่นๆ จะเห็นว่า MB ระดับโลกหลายคนมีสกิลการต่อบอล
หรือการเซตที่ดี อย่างน้อยก็เซตไม่ฟาล์วให้เสียแต้มฟรีๆเหมือน MB บางทีม
สำหรับไทย ตอนนี้นอกจากเซตเตอร์และลิบแล้ว คนที่ต่อบอลดี ก็จะมี กิ๊ฟ กับ หน่อง
ซึ่งสกิลการต่อบอลของกิ๊ฟกับหน่องช่วยทีมในเรื่องเกมบุกได้ดีในหลายๆครั้ง
เรียกว่า สองคนนี้ เป็น Co-Setter ของทีมได้เลย แต่มันไม่พอสำหรับทีม ถ้าทุกคนในทีม
เน้นให้ความสำคัญกับการต่อบอล โดยเฉพาะตำแหน่ง MB มันจะช่วยเกมบุกของไทยในการโต้กลับ
ได้ดีกว่าเดิม หรือ ในบางครั้งอาจจะเป็นตัวช่วยเวลาบอลแรกไทยมันเป๋ออกนอกลู่นอกทางให้กลับสู่โซนการบุกของไทยได้
ตอนนี้แมทที่จะเจอกับเกาหลีใต้ อยากให้ทุกคนในทีมฝึกเรื่องการต่อบอลด้วย โดยเฉพาะ แนน กับ ตาล
อย่างน้อยก็ให้รู้ว่า จะเซตยังไงไม่ให้ฟาล์ว จะต่อบอลส่งไปไหนไปให้ใคร อย่างน้อยก็ให้ฝึกเรื่อง MindSet
ว่าถ้าบอลมาในตำแหน่งใกล้เคียงที่เรายืนอยู่เราจะเซตหรืออันเดอร์ยังไงให้ไปสู่ตำแหน่งการบุกที่ดีได้
ในฐานะคนเชียร์คนหนึ่งก็ฝากเรื่องพวกนี้ไว้ด้วยน้า
สุดท้ายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทีมไทยจะได้ตั๋วไปหรือไม่ ก็เป็นกำลังใจให้ทีมไทยเสมอ.