ผมเคยอ่านและดูมังงะ GATE JSDF และ nihonkoku shoukan ซึ่งเนื้อหาสองเรื่องเป็นการกล่าวถึงจะเกิดอะไรขึ้นถ้าโลกแฟนตาซีสมัยโบราณ ที่มีเผ่าพันธ์ต่าง ๆ เวทมนตร์ มังกร มาพบกับโลกยุคปัจจุบัน ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย และทุนนิยม
อย่าง GATE JSDF นั้นเป็นการที่ประตูมาเปิดกลางนครหลวงโตเกียว พร้อมกับกองทัพยุคกลางที่ออกมาไล่ฆ่าประชาชน จนกองทัพ JSDF สามารตีโต้กลับเข้าไปอีกโลกหนึ่งได้และบุกเข้าไปยังโลกแฟนตาซี
nihonkoku shoukan เนื้อหาก็ประมาณญี่ปุ่นไปต่างโลก และไปเกี่ยวข้องกับสถาการณ์ต่างภายในโลกแฟนตาซี
ซึ่งสำหรับสองเรื่องนี้แล้วนั้นเท่าที่ผมอ่านมา มันออกไปแนวการเมืองและการทหารมากกว่า ซึ่งผมก็เลยเกิดสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรถ้ามีการเจาะลึกการเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในโลกแฟนตาซี มันจะส่งผลต่อโลกนั้นอย่างไรบ้าง เมื่อยุคกลางหรืออารยธรรมโบราณ ที่พร้อมด้วยเวทมตร์และสัตว์ในตำนาน มาพบกับประเทศที่ถูกพามายังต่างโลก(หรือประตูเปิด) ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย (ทีวี ตู้เย็น เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนตร์ เครื่องบิน) และการปกครองรูปแบบใหม่ ทั้งเศรษฐกิจแบบทุนนิยม สังคมบริโภคนิยม และอื่นๆ อีกมากมาย
สมมุติเนื้อเรื่องแบบนี้
โดยเรื่องราวนั้นมันเริ่มต้นเมื่อประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศถูกวาร์ปมายังต่างโลก (หรือไม่ก็มีประตูมาเปิด) เมื่อ30 ปีก่อน และได้มีสวนร่วมในสงครามต่างๆ ภายในมหาทวีป จนกระทั้งหลังสงครามจบลง ญี่ปุ่นได้เข้าไปลงทุนทรัพยากรและพัฒนาดินแดนต่าง ๆ ภายใต้หลักทุนนิยมแบบญี่ปุ่น ตัวเอกนั้นเป็นชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางไปเที่ยวยังดินแดนและทวีปต่างของต่างโลก พร้อมกับเพื่อต่างเผ่าพันธ์ที่เป็นเอลฟ์ คนแคระ หรือไม่ก็มนุษย์จากทวีปอื่น ๆ ซึ่งการเดินทางในแต่ละครัง จะพบว่าดินแดนต่างๆ ที่เคยมีกลิ่นอายแบบยุคกลางหรืออารย์ธรรมโบราณที่เคยยิ่งใหญ่และมีสิ่งก่อสร้างวิจิตรตระการตา นั้นกำลังจะหายไปด้วยการเข้ามาของ เทคโนโลยีรถยนต์และเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (เดิมที่ชาวบ้านในโลกแฟนตาซีนั้นมักใช้ชีวิตแบบยุคกลาง จนกระทั้งทุนนิยมญี่ปุ่นเข้ามามันได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ) นอกจากนี้ระบบการปกครองแบบขุนนางหรือฟิวดัล ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยหรือไม่ก็คณาธิปไตย รวมถึงการเข้ามาของอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมรวมถึง สูบทรัพยากรไปมากมาย นอกจากนี้ยังเกิดกลุ่มมาเฟียอย่างยากูซ่าที่เข้าไปมีอิทธิพลในดินแดนต่าง ๆ ด้วย เวทมนตร์นั้นได้กลายมาเป็นพลังสำคัญในการคับเคลื่อนอุตสาหกรรม และสัตว์แฟนตาซีหลายตัวใกล้ศูนย์พันธ์อันเป็นผลมาจากการล่าเพื่อป้องกันการบุกรุกและล่าเพื่อสะสมอวัยวะต่างๆ ไปขาย นอกจากนี้ปัญหาที่โลกแฟนตาซีเจอหลังการเข้ามาของทุนนิยมคือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากทุนนิยม และยังมีการค้าบริการทางเพศที่หลากหลาย (ทั้งเอลฟ์และเผ่ามนุษย์หูสัตว์)
ซึ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ก็ประมาณว่าถ้าเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และการพัฒนา รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยจากญี่ปุ่น เข้ามาสู่โลกแฟนตาซี คิดว่ามันจะส่งผลต่อสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างไรบ้าง มันจะสร้างผลต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ อย่างไรบ้าง เมื่อสังคมแบบโบราณมาเจอกับสังคมแบบยุคปัจจุบัน และอาณาจักรรวมถึงจักรวรรดิต่างๆ ที่ติดต่อและรับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมไปใช้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ หรือไหม (เพราะในนิบายและมังงะมักเล่น ประเด็นการเมืองและการทหาร ก็เลยเกิดคิดว่าถ้าเล่นประเด็นสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจไปด้วยคิดว่ามันจะมีเรื่องราวแบบใด)
ถ้าผู้เขียนนิยายมังงะ GATE JSDF และ nihonkoku shoukan นำประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจมาสู่ต่างโลก
อย่าง GATE JSDF นั้นเป็นการที่ประตูมาเปิดกลางนครหลวงโตเกียว พร้อมกับกองทัพยุคกลางที่ออกมาไล่ฆ่าประชาชน จนกองทัพ JSDF สามารตีโต้กลับเข้าไปอีกโลกหนึ่งได้และบุกเข้าไปยังโลกแฟนตาซี
nihonkoku shoukan เนื้อหาก็ประมาณญี่ปุ่นไปต่างโลก และไปเกี่ยวข้องกับสถาการณ์ต่างภายในโลกแฟนตาซี
ซึ่งสำหรับสองเรื่องนี้แล้วนั้นเท่าที่ผมอ่านมา มันออกไปแนวการเมืองและการทหารมากกว่า ซึ่งผมก็เลยเกิดสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรถ้ามีการเจาะลึกการเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในโลกแฟนตาซี มันจะส่งผลต่อโลกนั้นอย่างไรบ้าง เมื่อยุคกลางหรืออารยธรรมโบราณ ที่พร้อมด้วยเวทมตร์และสัตว์ในตำนาน มาพบกับประเทศที่ถูกพามายังต่างโลก(หรือประตูเปิด) ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย (ทีวี ตู้เย็น เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนตร์ เครื่องบิน) และการปกครองรูปแบบใหม่ ทั้งเศรษฐกิจแบบทุนนิยม สังคมบริโภคนิยม และอื่นๆ อีกมากมาย
สมมุติเนื้อเรื่องแบบนี้
โดยเรื่องราวนั้นมันเริ่มต้นเมื่อประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศถูกวาร์ปมายังต่างโลก (หรือไม่ก็มีประตูมาเปิด) เมื่อ30 ปีก่อน และได้มีสวนร่วมในสงครามต่างๆ ภายในมหาทวีป จนกระทั้งหลังสงครามจบลง ญี่ปุ่นได้เข้าไปลงทุนทรัพยากรและพัฒนาดินแดนต่าง ๆ ภายใต้หลักทุนนิยมแบบญี่ปุ่น ตัวเอกนั้นเป็นชาวญี่ปุ่น ได้เดินทางไปเที่ยวยังดินแดนและทวีปต่างของต่างโลก พร้อมกับเพื่อต่างเผ่าพันธ์ที่เป็นเอลฟ์ คนแคระ หรือไม่ก็มนุษย์จากทวีปอื่น ๆ ซึ่งการเดินทางในแต่ละครัง จะพบว่าดินแดนต่างๆ ที่เคยมีกลิ่นอายแบบยุคกลางหรืออารย์ธรรมโบราณที่เคยยิ่งใหญ่และมีสิ่งก่อสร้างวิจิตรตระการตา นั้นกำลังจะหายไปด้วยการเข้ามาของ เทคโนโลยีรถยนต์และเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (เดิมที่ชาวบ้านในโลกแฟนตาซีนั้นมักใช้ชีวิตแบบยุคกลาง จนกระทั้งทุนนิยมญี่ปุ่นเข้ามามันได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป เงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ) นอกจากนี้ระบบการปกครองแบบขุนนางหรือฟิวดัล ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยหรือไม่ก็คณาธิปไตย รวมถึงการเข้ามาของอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมรวมถึง สูบทรัพยากรไปมากมาย นอกจากนี้ยังเกิดกลุ่มมาเฟียอย่างยากูซ่าที่เข้าไปมีอิทธิพลในดินแดนต่าง ๆ ด้วย เวทมนตร์นั้นได้กลายมาเป็นพลังสำคัญในการคับเคลื่อนอุตสาหกรรม และสัตว์แฟนตาซีหลายตัวใกล้ศูนย์พันธ์อันเป็นผลมาจากการล่าเพื่อป้องกันการบุกรุกและล่าเพื่อสะสมอวัยวะต่างๆ ไปขาย นอกจากนี้ปัญหาที่โลกแฟนตาซีเจอหลังการเข้ามาของทุนนิยมคือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากทุนนิยม และยังมีการค้าบริการทางเพศที่หลากหลาย (ทั้งเอลฟ์และเผ่ามนุษย์หูสัตว์)
ซึ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ก็ประมาณว่าถ้าเศรษฐกิจแบบทุนนิยม และการพัฒนา รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยจากญี่ปุ่น เข้ามาสู่โลกแฟนตาซี คิดว่ามันจะส่งผลต่อสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างไรบ้าง มันจะสร้างผลต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ อย่างไรบ้าง เมื่อสังคมแบบโบราณมาเจอกับสังคมแบบยุคปัจจุบัน และอาณาจักรรวมถึงจักรวรรดิต่างๆ ที่ติดต่อและรับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมไปใช้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ หรือไหม (เพราะในนิบายและมังงะมักเล่น ประเด็นการเมืองและการทหาร ก็เลยเกิดคิดว่าถ้าเล่นประเด็นสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจไปด้วยคิดว่ามันจะมีเรื่องราวแบบใด)