😁 กว่าจะถึงวันเดินทาง จองทุกสิ่งไว้ล่วงหน้าเกือบครึ่งปี รอแล้วรอเล่า หาข้อมูลวนไป ตื่นเต้นแล้วตื่นเต้นอีก ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง
เราเดินทางวันที่ 30/12/62-5/01/63
ขาไป BKK-HAN-SVO แวะ เปลี่ยนเครื่องที่ฮานอย 2 ชั่วโมง ขอบอกว่า Vietnam Airline บริการดี อาหารดี Landing นิ่มมาก ราคาก็สมเหตุสมผล จากกรุงเทพฯ ไปฮานอย จะมีมื้ออาหารเสิร์ฟ 1 มื้อ แบบ full Service และนี่ก็คือข้อดีของการเปลี่ยนเครื่อง😁 เพราะเครื่องออกจากฮานอยลงมอสโก เราจะได้อาหารอีก 2 มื้อ รวมเป็นขาไปทานอาหารทั้งหมด 3 มื้อ เรียกว่าอิ่มหมีพีมันกันทีเดียว


อาหารของเวียดนามแอร์ไลน์ รสชาตจะค่อนไปทางจืดแต่โดยรวมถือว่าโอเค พอลงถึงสนามบิน svo ที่มอสโคเป็นวันที่ 31 เวลาประมาณ 06:00 น อากาศ ค่อนข้างหนาว ตม.ผ่านไม่ยากใช้เวลาแป๊บเดียวก็ออกมาเรียกแท็กซี่ แอพเรียกแท็กซี่ แนะนำให้ใช้ Yendex App และ Get เวลาใช้ก็แค่ระบุจุดเริ่มต้นกับจุดหมายปลายทางที่จะไป แล้วคนขับรถ จะผูกกับ Order ของเราเอง ใช้ไม่ยากค่ะ ส่วน Metro เราไม่ใช้เพราะเราไม่อินกับมันค่ะ


🎄ในส่วนของซิมการ์ดใช้ซิมของ sim2fly 899 บาท ใช้ได้ทั่วโลกค่ะ ถ้าใช้ซิมไทย ไม่ต้องปลดล็อค vpn ของรัสเซียสามารถเล่นโซเชียลได้ปกติทุกแอป สัญญาณดีค่ะ
🎄 จากสนามบินเข้า เมืองมอสโก ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร นั่งแท็กซี่แบบมินิแวน เนื่องจากกระเป๋าเรามี 5 ใบ😁 ราคาประมาณ 700 บาทไทย
🎄 โชคดีมาก ที่มาเที่ยวครั้งนี้ เจอแท็กซี่ใจร้าย แค่คนเดียว เพราะ ก่อนเดินทาง กลัวในของการโดนโกง พวกแสงเป็นมิจฉาชีพ ซึ่ง ซึ่งรัสเซียและตุรกี ขึ้นชื่อมากๆ 
🎄 พอมาถึงโรงแรม คนขับแท็กซี่คันนี้ก็ช่วยเราหาโรงแรมจนเจอ ซึ่งเขาน่ารักมากๆ คืนแรกเรานอนโฮสเทล Nereus hostel near Kremlin ห่างจากเกรมลิน เพียง 600 เมตร คืนละ 1,500 บาท เป็นการนอนโฮสเทลครั้งแรกของพวกเรา แต่ห้องของเรา มีทั้งหมด 4 เตียง เพราะฉะนั้นในห้องจะมีแค่เพียงเราเท่านั้น แต่ ในละแวกนี้อาคารต่างๆสูงไม่เกิน 5 ชั้น และความโชคดีก็เข้าเราเหลือเกิน นอนชั้น 4 จ้ะ แบกกระเป๋าคนละ 30 กว่ากิโลขึ้นชั้น 4 คุณพระ!! แม่เหนื่อยมาก😣😣 แต่ก็แลกกับความสะดวกสบายในการเที่ยว ที่นี่เจ้าของใจดี เราเอากระเป๋ามาฝากไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนชุด ออกไปเที่ยวต่อได้  
อยู่ใกล้กับสะพาน Kremlin เลยค่ะ ละแวกนั้นประดับไฟสวยมากๆ ขอบอกก่อนว่าทริปนี้เราลุ้นกับหิมะมากๆ เพราะมันจะสวยขึ้น 10 เท่าถ้ามีหิมะ และแล้วข่าวว่ารัสเซียร้อนที่สุดในรอบ 133 ปีก็เข้ามาในหูของเรา ยิ่งทำให้ร้อนอกร้อนใจไปใหญ่ ต้องมานั่งลุ้นกับหิมะก่อนที่จะเดินทางจริงประมาณ 1 อาทิตย์และวันที่มาถึงวันแรกก็ไม่มีวี่แววของหิมะจะตก มีแต่หิมะบนพื้นที่ตกก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อเห็นสถาปัตยกรรมต่างๆ ก็ทำให้เราลืมเรื่องหิมะไป แล้วมาตื่นเต้นกับมัน

หามุมถ่ายรูปได้ทุกที่จริงๆแม้กระทั้งบน ต้นไม้😁ส่วนตอนบ่ายกลับโรงแรมมาเช็คอินอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนชุดเพื่อไปชมไฟ แถวRed Square

  
 เวลาประมาณ 17:00 นนะคะ หน้าหนาวจะค่ำเร็ว ทนรอเคาน์ดาวน์ตอนเที่ยงคืนไม่ไหว แวะกลับมาพักเอาแรงที่ห้องก่อนแล้วค่อยไปอีกที แต่ด้วยความที่เพลียมาก เราจึงส่งตัวแทนหมู่บ้านออกไป เก็บภาพพลุ😁มาฝาก

เช้าวันที่ 1/01/63 เราตื่นเช้าเพื่อเช็คเอาท์ และเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมใหม่ ชื่อ status Hotel อยู่ใกล้Arbat Street เป็นถนน ย่านช้อปปิ้ง และบริเวณนี้ อาคารสูงไม่เกิน 5-6 ชั้นเหมือนกัน คุณพระ เราต้องแบกกระเป๋าขึ้นชั้น 3 อีกแล้วจ้า แต่โชคดีที่นอน 2 คืนไม่ต้องย้ายกระเป๋าบ่อย แต่ถ้าวิวสวยขนาดนี้ก็ให้อภัยแหละ โรงแรมคืนละ 2,4xx บาท ข้างๆมีทั้ง Supermarket ร้านอาหารญี่ปุ่น และคาเฟ่สวยๆ อีกด้วยค่ะ
 

ตื่นเช้ามา เจอหิมะแบบนี้ มันก็จะฟินฟินแหละเนาะ เอากระเป๋าเก็บเรียบร้อย แล้วออกไปเที่ยวต่างจังหวัด กันดีกว่า เมืองนี้ชื่อSergeiv Posad เมืองที่มีมหาวิหารสีพาสเทลชื่อ Trinity Lavra of St.Serguis เราให้แท็กซี่ไปส่งที่สถานีรถไฟจุดสังเกตุ จะมีตึกสีเขียวดูเก่าๆอยู่ตรงนั้นและเป็นที่ขายตั๋วนั่นเอง ถ้าเดินจากรถไฟใต้ดิน สถานีKomsomolskaya ก็จะมาโผล่ที่ตึกสีเขียวนี้เช่นกัน การสื่อสารใช้รูปภาพสำคัญมากๆ แล้วเจ้าหน้าที่จะเข้าใจเลยว่าเราต้องการอะไร การซื้อตั๋วก็เช่นกันตั๋วไปกลับตกคนละไม่เกิน 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที รถจะจอดที่สถานีSergeiv Posad เป็นสถานีปลายทาง อาหารซื้อขึ้นรถไฟได้ค่ะ ค่าตั๋วเข้ามหาวิหาร 350 บาท
ระหว่างทางไปหิมะตกเบาๆตลอดทางจนในที่สุดแม่ก็ได้เจอกับ Snowflakes ของจริงสักที ปกติเจอแต่ก้อนๆ
 
สังเกตรูปกรุ๊ปของเราจะมีแต่รูปตลกๆ เพราะเราไม่กล้าให้ใครถ่ายให้เลยกลัวโดนฉกโทรศัพท์🤪 ตอนเดินออกจากมหาวิหาร จะมีของขายเยอะเลย ซื้อเป็นของฝาก


กลับเข้าเมืองไปร้านอาหารที่ดังที่สุดในมอสโกกันดีกว่า White Rabbit Restaurant นั่นเอง แค่ลิฟท์ก็ว้าวแล้วอ่ะ



ทั้งหมดนี้ค่าเสียหาย 5,000 บาท อาหารรสชาติดี แต่ไม่อิ่ม😁🍸🍺ปูสดมาก Cocktail อร่อยเชฟหล่อสุด ไม่ใช่คนนี้นะ ข้างหลังอ่ะ
มาต่อกันที่ล่องเรือ Moskva River เราซื้อตั๋วผ่าน klook ราคา 753 บาทส่วนอาหารต้องไปจ่ายเพิ่มบนเรือนะคะ อาหารดีปริมาณเยอะ อิ่มค่ะ ค่าเสียหาย 2,500 บาท

เรือล่องไปรอบๆเมืองมอสโก จะเห็นวิวทั้งหมดของมอสโก สวยมากก ขากลับ😣เจอแท็กซี่ไม่น่ารักเลยจากท่าเรือไปโรงแรมแพงที่สุดที่เจอมาปกติ 300 บาทนี่ล่อไป 700 บาทเลย😪เช้าวันใหม่เราตื่นกัน 05:00 น.เนื่องจากนอนอิ่มแล้วตื่นมาเจอหิมะตกกรี๊ดหนักมากดีใจมากๆ เพราะแพลนวันนี้เราจะไปเก็บตกRed Square และ St.Basil รีบแต่งตัวไปดีกว่าเดี๋ยวหิมะ

 
ก่อนจะมีภาพนี้ได้เมื่อเช้ามืดไปตามล่าหา starbucks ที่อยู่ในตึก Four Season เพราะประตูเข้ามหาวิหารจะเปิด 9:00น.เดินไปจนเจอ starbucks ป้ายบอกเปิด 7:00น. เราก็นั่งรอรอแล้วรออีกประตูก็ไม่เปิดต้องขอขอบคุณลุงยามที่ให้ไปนั่งรอข้างในไม่งั้นแข็งตายแน่ๆ สรุปแล้วช่วงเทศกาลร้านเปิด 9:00น.😁รอ 2 ชม.จ่ะ คนรัสเซียใจดีเหมือนกันนะเนี่ย


Starbucksที่นี่ราคาถูกกว่าบ้านเราประมาณ 30%อิ่มแล้วเราก็เดินเที่ยวต่อที่ห้างกุมที่นี่เขาเอาจริงเอาจังกับการประดับตกแต่ง
เดินไปเรื่อยๆจนหลงทิศไปหมดอ้อมไปอ้อมมาฝนหิมะก็ตกตลอดทางเรียกแท็กซี่ก็ไม่มีใครไป เราจึงต้องเปิด GPSเดินกลับโรงแรมกว่าจะถึงขาแทบพัง พัง เริ่มคิดถึงอาหารไทย โชคดีข้างโรงแรมมี ร้านเกาหลีที่มีซูชิและต้มยำ อิอิ

ตื่นเช้าหาอะไรรองท้องก่อนเดินทางไปตุรกี ข้างโรงแรมมีค่าเฟ่ชื่อ Look Cafe ร้านสวย วิวข้างนอกก็ดี อาหารอร่อยราคาไม่แรง
  

อิ่มแล้วได้เวลาเดินทางไปตุรกี เรียกรถมารับให้ไว กะเวลาผิดไปนิดนึงแต่ก็ทันเวลา เราบิน Turkish Airlineไปขึ้นสนามบิน VKO Terminal Dนะคะ ใช้เวลาเดินทาง 30-40 นาที