ก่อนพาแม่ไปผ่าต้อกระจก
ได้หาอ่านข้อมูลและได้ประโยชน์จากหลายๆท่านเยอะมาก
เลยตั้งใจว่า ถ้าพาแม่ไปแล้ว จะขอเขียนรีวิวไว้ให้ท่านอื่นๆ อ่านบ้าง
เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ ^_^
คุณแม่อายุ 54 ปี ตรวจพบเป็นต้อกระจก
พบปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากมองไม่ชัด ฝ้าฝาง
มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน
จึงเข้าตรวจที่คลินิค ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทางของโรงพยาบาลประจำจังหวัด
เพื่อจองคิวเข้ารับการรักษา
ปรากาฎว่าเข้าตรวจช่วงเดือน พ.ย 2562 ได้คิวผ่าตัดเดือน พ.ค 2563
โดยค่าลอกและเปลี่ยนเลนส์นิ่มอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท และค่านอน รพ 1 คืนอีกประมาณ 2,000 บาท (รพ.รัฐ)
ซึ่ง จขกท คิดว่านานมากเหมือนกัน เลยมองหาทางเลือกอื่น
แม่อยู่ ตจว. แต่ จขกท. อยู่สมุทรปราการ
จึงคิดอยากพาแม่มาผ่าแถวบ้าน เพราะจะได้ดูแลแม่ด้วย
จึงหาข้อมูลโรงพยาบาลหลายๆ ที่ เปรียบเทียบราคา และรีวิวต่างๆ
ในที่สุด จึงตัดสินใจเลือกที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง แถวบางนา
ซึ่งเป็น รพ. ที่ข้าราชการสามารถใช้สิทธิได้แบบไม่ต้องสำรองจ่าย
และเห็นรีวิว ข้าราชการมาทำเป็นชุดๆ ชุดละ 10-20 คนเลยทีเดียว
จึงคิดว่าทาง รพ.น่าจะมีประสบการณ์และความชำนาญทางด้านนี้มากพอสมควร
รวมถึงราคาที่รับได้คือ เป็นราคาแพคเกจรวมทุกอย่าง 21,000 บาท (เลนส์นิ่ม)
หากเป็นเลนส์ธรรมดา ราคา 10,000 บาท
จขกท เลือกแบบเลนส์นิ่ม
ค่าใช้จ่ายนี้รวมตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจ-ค่าลอก-ค่าเลนส์-ค่าตรวจหลังผ่าตัด
แม่เดินทางมาสมุทรปราการ วันที่ 9 ธ.ค 62
นัด รพ. ไว้วันที่ 10 ธ.ค 62 ได้คิวตอนเที่ยงพอดี
เดินทางมาถึง รพ. มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ยิ้มแย้มทักทายดี
เป็นมิตรกับผู้มาใช้บริการ สอบถามจึงบอกว่าพาแม่มาผ่าต้อกระจก โดยได้โทรนัดแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงขอบัตรประชาชนตัวจริงของแม่ เพื่อทำบัตร รพ. ค่ะ
รอไม่ถึง 5 นาที เนื่องจากไม่มีคิว เจ้าหน้าที่ก็พาเดินขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 แผนกตาค่ะ
เมื่อมาถึงแผนกตา
เจ้าหน้าที่ทำหน้า งงๆ เล็กน้อยที่บอกว่าเรานัดไว้ตอนเที่ยง เพราะคุณหมอเพิ่งกลับไป
พร้อมกับถามว่าเมื่อเช้าได้โทรมาคอนเฟิร์มไหมค่ะ
เราก็งง เพราะทาง รพ.เพิ่งโทรมาแจ้งเวลานัดเมื่อวานตอนบ่ายสาม ว่าให้มาตอนเที่ยงวันนี้
แล้วตอนเช้า เราต้องโทรคอนเฟิร์มอีกรอบเหรอ ??
เจ้าหน้าที่บอกให้มาใหม่ได้ไหม เพราะตอนเย็นมีคิวผ่าตัดให้ข้าราชการอีก 20-30 คน
จขกท. เลยบอกว่า วันนี้ลางานมาเสียเที่ยวน่ะ เพราะทาง รพ.โทรคอนเฟิร์มเวลาแล้ว
เจ้าหน้าที่เข้าไปปรึกษากัน เรากับแม่ก็นั่งรอหน้าห้องตรวจสักพักหนึ่ง
มีเจ้าหน้าที่พยาบาลออกมาบอกให้แม่เข้าตรวจและขอดูประวัติจากสมุดเบาหวาน ตรวจค่าสายตาต่างๆ
จากนั้นบอกเราว่าจะให้แม่เราผ่าตัดเลยในตอนเย็น พร้อมกับชุดข้าราชการที่กำลังจะมาถึง โดยจะให้เป็นคิวแรก
เนื่องจากเรามาก่อนตั้งแต่เที่ยง และระหว่างนี้จะเปิดห้องพักให้อยู่ระหว่างรอผ่าตัดตอน 5 โมงเย็น
เรากับแม่ก็โอเค ที่ทาง รพ. support แก้ไขปัญหาให้กับเรา
และถามความสมัครใจว่าต้องการนอน รพ.ไหมหลังผ่าตัด ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะรวมในแพคเกจอยู่แล้ว
หรือสะดวกกลับก็ได้เช่นกัน เพราะบ้านไม่ไกลมาก (เดินทางประมาณ 45 นาที)
ซึ่งแม่เราขอเลือกแบบไม่นอน รพ.
เมื่อถึงเวลา 5 โมงเย็น
มีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตามลงไปแผนกตา
พอไปถึงพบว่ามีกลุ่มข้าราชการที่เดินทางมาจาก ตจว. เปลี่ยนใส่ชุด รพ. นอนพิงโซฟาหยอดตาเป็นแถว
ผิดจากภาพเมื่อเช้า ที่เงียบและโล่งมาก
มาถึงก็ให้แม่หยอดยาขยายม่านตา ประมาณ 5-6 รอบได้
จากนั้นก็เป็นคิวแรกที่ได้ผ่าตอน 1 ทุ่มค่ะ
ซึ่งแม่บอกว่าพอเข้าไปก็หยอดอีกหลายรอบ
ห้องข้างในหนาวเย็นมาก แม่ไม่เจ็บ แต่เสียวๆ อยู่บ้าง
เนื่องจากมองเห็น ต้องลืมตาอยู่ตลอดเวลา
ใช้เวลาผ่าตัดแปบเดียวค่ะ 10-15 นาที
มีเจ้าหน้าที่เข็นวีลแชร์มารอรับหน้าห้อง
ระหว่างรอแม่ผ่าตัด มีเจ้าหน้าพยาบาลมาอธิบายข้อควรปฏิบัติต่างๆ หลังผ่าตัด พร้อมให้ใบนัด
หลังจากผ่าตัดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้แม่นั่งพักบนรถเข็นสักครู่
แล้วพาไปห้องการเงินและห้องยา
เมื่อไปห้องการเงิน ชำระเงิน 21,000 บาท
รอรับยาหยอดตาและยากิน
กลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น
เปิดตาเอง
เอาที่ครอบตาและสำลีออก
เช็ดทำความสะอาดตาอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของพยาบาล
ใส่ที่ครอบตาหรือแว่นตาในเวลากลางวัน
และใส่ที่ครอบตาในเวลานอนกลางคืน
ระวังน้ำ ฝุ่นละออง การกระแทก ไอ จาม ฯลฯ
แม่บอกว่าดีใจมาก ตอนเปิดตา
เพราะไม่เคยมองชัดขนาดนี้มาก่อน
ช่วงแรกๆ มีอาการแปล๊บๆ ตา อยู่บ้างเล็กน้อย
จากนั้นครบ 1 อาทิตย์ และ 1 เดือนไปตรวจตากับคุณหมอตามนัดค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่เป็นและคนที่ดูแลนะคะ
สู้ๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ แล้วจะพบกับโลกใหม่ที่สดใสชัดเจน
สำหรับคนดูแล แรกๆ อาจเป็นกังวล คิดมากอยู่บ้าง
แต่การอ่าน การศึกษาข้อมูลต่างๆ จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ การสอบถามจากพยาบาล
ก็จะทำให้เรามั่นใจและผ่านมันไปด้วยดีค่ะ
โชคดีนะคะทุกท่าน ^___^
[CR] รีวิวพาแม่ ผ่าต้อกระจก
ได้หาอ่านข้อมูลและได้ประโยชน์จากหลายๆท่านเยอะมาก
เลยตั้งใจว่า ถ้าพาแม่ไปแล้ว จะขอเขียนรีวิวไว้ให้ท่านอื่นๆ อ่านบ้าง
เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ ^_^
คุณแม่อายุ 54 ปี ตรวจพบเป็นต้อกระจก
พบปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากมองไม่ชัด ฝ้าฝาง
มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน
จึงเข้าตรวจที่คลินิค ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทางของโรงพยาบาลประจำจังหวัด
เพื่อจองคิวเข้ารับการรักษา
ปรากาฎว่าเข้าตรวจช่วงเดือน พ.ย 2562 ได้คิวผ่าตัดเดือน พ.ค 2563
โดยค่าลอกและเปลี่ยนเลนส์นิ่มอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท และค่านอน รพ 1 คืนอีกประมาณ 2,000 บาท (รพ.รัฐ)
ซึ่ง จขกท คิดว่านานมากเหมือนกัน เลยมองหาทางเลือกอื่น
แม่อยู่ ตจว. แต่ จขกท. อยู่สมุทรปราการ
จึงคิดอยากพาแม่มาผ่าแถวบ้าน เพราะจะได้ดูแลแม่ด้วย
จึงหาข้อมูลโรงพยาบาลหลายๆ ที่ เปรียบเทียบราคา และรีวิวต่างๆ
ในที่สุด จึงตัดสินใจเลือกที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง แถวบางนา
ซึ่งเป็น รพ. ที่ข้าราชการสามารถใช้สิทธิได้แบบไม่ต้องสำรองจ่าย
และเห็นรีวิว ข้าราชการมาทำเป็นชุดๆ ชุดละ 10-20 คนเลยทีเดียว
จึงคิดว่าทาง รพ.น่าจะมีประสบการณ์และความชำนาญทางด้านนี้มากพอสมควร
รวมถึงราคาที่รับได้คือ เป็นราคาแพคเกจรวมทุกอย่าง 21,000 บาท (เลนส์นิ่ม)
หากเป็นเลนส์ธรรมดา ราคา 10,000 บาท
จขกท เลือกแบบเลนส์นิ่ม
ค่าใช้จ่ายนี้รวมตั้งแต่วันแรกที่เข้าตรวจ-ค่าลอก-ค่าเลนส์-ค่าตรวจหลังผ่าตัด
แม่เดินทางมาสมุทรปราการ วันที่ 9 ธ.ค 62
นัด รพ. ไว้วันที่ 10 ธ.ค 62 ได้คิวตอนเที่ยงพอดี
เดินทางมาถึง รพ. มีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ยิ้มแย้มทักทายดี
เป็นมิตรกับผู้มาใช้บริการ สอบถามจึงบอกว่าพาแม่มาผ่าต้อกระจก โดยได้โทรนัดแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงขอบัตรประชาชนตัวจริงของแม่ เพื่อทำบัตร รพ. ค่ะ
รอไม่ถึง 5 นาที เนื่องจากไม่มีคิว เจ้าหน้าที่ก็พาเดินขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 แผนกตาค่ะ
เมื่อมาถึงแผนกตา
เจ้าหน้าที่ทำหน้า งงๆ เล็กน้อยที่บอกว่าเรานัดไว้ตอนเที่ยง เพราะคุณหมอเพิ่งกลับไป
พร้อมกับถามว่าเมื่อเช้าได้โทรมาคอนเฟิร์มไหมค่ะ
เราก็งง เพราะทาง รพ.เพิ่งโทรมาแจ้งเวลานัดเมื่อวานตอนบ่ายสาม ว่าให้มาตอนเที่ยงวันนี้
แล้วตอนเช้า เราต้องโทรคอนเฟิร์มอีกรอบเหรอ ??
เจ้าหน้าที่บอกให้มาใหม่ได้ไหม เพราะตอนเย็นมีคิวผ่าตัดให้ข้าราชการอีก 20-30 คน
จขกท. เลยบอกว่า วันนี้ลางานมาเสียเที่ยวน่ะ เพราะทาง รพ.โทรคอนเฟิร์มเวลาแล้ว
เจ้าหน้าที่เข้าไปปรึกษากัน เรากับแม่ก็นั่งรอหน้าห้องตรวจสักพักหนึ่ง
มีเจ้าหน้าที่พยาบาลออกมาบอกให้แม่เข้าตรวจและขอดูประวัติจากสมุดเบาหวาน ตรวจค่าสายตาต่างๆ
จากนั้นบอกเราว่าจะให้แม่เราผ่าตัดเลยในตอนเย็น พร้อมกับชุดข้าราชการที่กำลังจะมาถึง โดยจะให้เป็นคิวแรก
เนื่องจากเรามาก่อนตั้งแต่เที่ยง และระหว่างนี้จะเปิดห้องพักให้อยู่ระหว่างรอผ่าตัดตอน 5 โมงเย็น
เรากับแม่ก็โอเค ที่ทาง รพ. support แก้ไขปัญหาให้กับเรา
และถามความสมัครใจว่าต้องการนอน รพ.ไหมหลังผ่าตัด ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะรวมในแพคเกจอยู่แล้ว
หรือสะดวกกลับก็ได้เช่นกัน เพราะบ้านไม่ไกลมาก (เดินทางประมาณ 45 นาที)
ซึ่งแม่เราขอเลือกแบบไม่นอน รพ.
เมื่อถึงเวลา 5 โมงเย็น
มีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตามลงไปแผนกตา
พอไปถึงพบว่ามีกลุ่มข้าราชการที่เดินทางมาจาก ตจว. เปลี่ยนใส่ชุด รพ. นอนพิงโซฟาหยอดตาเป็นแถว
ผิดจากภาพเมื่อเช้า ที่เงียบและโล่งมาก
มาถึงก็ให้แม่หยอดยาขยายม่านตา ประมาณ 5-6 รอบได้
จากนั้นก็เป็นคิวแรกที่ได้ผ่าตอน 1 ทุ่มค่ะ
ซึ่งแม่บอกว่าพอเข้าไปก็หยอดอีกหลายรอบ
ห้องข้างในหนาวเย็นมาก แม่ไม่เจ็บ แต่เสียวๆ อยู่บ้าง
เนื่องจากมองเห็น ต้องลืมตาอยู่ตลอดเวลา
ใช้เวลาผ่าตัดแปบเดียวค่ะ 10-15 นาที
มีเจ้าหน้าที่เข็นวีลแชร์มารอรับหน้าห้อง
ระหว่างรอแม่ผ่าตัด มีเจ้าหน้าพยาบาลมาอธิบายข้อควรปฏิบัติต่างๆ หลังผ่าตัด พร้อมให้ใบนัด
หลังจากผ่าตัดเสร็จ เจ้าหน้าที่ให้แม่นั่งพักบนรถเข็นสักครู่
แล้วพาไปห้องการเงินและห้องยา
เมื่อไปห้องการเงิน ชำระเงิน 21,000 บาท
รอรับยาหยอดตาและยากิน
กลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น
เปิดตาเอง
เอาที่ครอบตาและสำลีออก
เช็ดทำความสะอาดตาอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของพยาบาล
ใส่ที่ครอบตาหรือแว่นตาในเวลากลางวัน
และใส่ที่ครอบตาในเวลานอนกลางคืน
ระวังน้ำ ฝุ่นละออง การกระแทก ไอ จาม ฯลฯ
แม่บอกว่าดีใจมาก ตอนเปิดตา
เพราะไม่เคยมองชัดขนาดนี้มาก่อน
ช่วงแรกๆ มีอาการแปล๊บๆ ตา อยู่บ้างเล็กน้อย
จากนั้นครบ 1 อาทิตย์ และ 1 เดือนไปตรวจตากับคุณหมอตามนัดค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่เป็นและคนที่ดูแลนะคะ
สู้ๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ แล้วจะพบกับโลกใหม่ที่สดใสชัดเจน
สำหรับคนดูแล แรกๆ อาจเป็นกังวล คิดมากอยู่บ้าง
แต่การอ่าน การศึกษาข้อมูลต่างๆ จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ การสอบถามจากพยาบาล
ก็จะทำให้เรามั่นใจและผ่านมันไปด้วยดีค่ะ
โชคดีนะคะทุกท่าน ^___^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้