Microsoft Surface นั้นต้องบอกว่าทำได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกๆออกมาทั้งแนวคิด วิธีการนำเสนอต่างๆของรุ่นนี้บอกเลยว่าทำได้ประทับใจครับ และรุ่น Laptop นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่เอาวัสดุผ้าเอามาทำกันแรกๆ ในรุ่นนี้ก็ได้พัฒนามีตัวเลือกมากขึ้น และหลายๆอย่างก็พัฒนาขึ้นด้วยเช่นกันครับ แบรนด์นี้ต้องบอกว่าเป็น Microsoft ลงมาทำเองเลยแน่นอนว่า การซัพพอร์ต การใช้งาน คุณภาพ พรีเมี่ยมจัดเต็มจริงๆ ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ได้พัฒนาขึ้นทั้งสเปค ดีไซน์ ความบางเบาและรวมถึงฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาด้วย ขอบหน้าจอบางขึ้น ลำโพงทำได้ดีขึ้นเป็นลำโพง Onmisonic ที่เป็นลำโพงที่ดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมดเลย บอกเลยว่าทำได้ดีมากเรื่องของเสียง การออกแบบเรียบสวยและที่ชอบคือสีดำด้านมันสวยจริงๆครับ ส่วนในการใช้งานต่างๆ สเปคการทดสอบจะเป็นยังไงมาชมรีวิวกัน
Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นที่เน้นในเรื่องของความพรีเมี่ยมในหลายๆจุดมากขึ้น และแน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้ดีในเรื่องของงานประกอบ วัสดุรวมถึงความบางเบา ในรุ่นก่อนๆถ้าจำกันได้นั้นจะเห็นได้ชัดเลยว่าในแง่ของวัสดุการใช้ผ้าต่างๆนั้นถือว่าน่าสนใจ แต่ก็มี Feedback เข้ามาบ้างในรุ่นนี้เลยมีให้เลือกทั้งแบบปกติและแบบผ้าครับ ในส่วนของสเปคนั้นมาพร้อมกับ CPU Intel Gen 10 ซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็น i5-1035G7 รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับ RAM LPDDR4X 8 GB และ SSD 256GB แต่ในส่วนของการ์ดจอนั้นจะเป็นตัว Intel® Iris™ Plus Graphics ไม่ได้มีตัวแยกครับ ในส่วนของหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 13.5 นิ้ว PixelSense รองรับปากกาและระบบสัมผัส ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้นั้นเป็นอัตราส่วนแบบ 3:2 ไม่ใช่ 16:9 แบบตัวอื่นๆที่เราคุ้นเคยกันครับ รุ่นนี้แบตนั้นก็สามารถใช้งาน ได้ 11 ชัวโมงโดยประมาณ และรองรับ Quickcharge ด้วยครับ และมาพร้อมกับพอร์ต USB-C และ USB-A ค่อนข้างครบเลย และน้ำหนักนั้นมาพร้อมกับ 1.2 โลเท่านั้นและวัสดุแมกนีเซียมดำด้านทั้งเครื่อง
Microsoft Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับสเปคให้เลือกทั้ง 2 ขนาดหน้าจอ 2 สีครับ
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB /128 ราคา 34,990 บาท
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB / 256 ราคา 44,990 บาท
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i7 16GB / 256 ราคา 52,990 บาท
- Surface Laptop 3 15 นิ้ว R5 8GB/ 256 ราคา 49,990 บาท
UNBOX
สำหรับตัวกล่องในรุ่นนี้มาในขนาดพอดีกับตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เกินครับมีรูปเครื่องพร้อมกับสีชัดเจนเลยว่าเป็นสีไหน และในตัวกล่องนั้นมีอุปกรณ์มาให้เหมือนกับทั่วไปครับ
- ตัวเครื่อง Surface Laptop 3
- สายชาร์จ ไฟพร้อม Adaptor
- คู่มือ
ที่ค่อนข้างชอบคือตัว Adaptor ของมันที่ให้มานั้นรองรับ Quickcharge และสามารถใช้งาน USB-A ในการชาร์จไฟได้อีก 1 ช่องครับรองรับใช้งานพวก มือถือหรือสายทั่วไปในการเสียบชาร์จไฟเวลาไปข้างนอกก็สามารถใช้ปลักแค่ตัวเดียวแต่สามารถชาร์จได้ทั้ง คอมพิวเตอร์ และ มือถือ เลยนั้นเองครับถือว่าสะดวกเอาเรื่อง
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้ที่เข้าในไทยนั้นจะมีสีดำด้าน และ สีเงินครับ ดีไซน์ในภาพรวมนั้นเรียบๆมากไม่มีลวดลายอะไรเลย อีกทั้งการออกแบบรูปทรงมีความตัดขอบตรงๆ เหลี่ยมมุมจัดสวยงามไม่มีส่วนโค้งเว้าอะไรเลยส่วนทางด้านวัสดุนั้นจะใช้งานแมกนีเซียมทั้งเครื่องเลยครับ ขึ้นรูปเต็มๆเน้นเรื่องของความแข็งแรงสวยงามเอาเรื่องเลย ตัวโลโก้นั้นจะเป็นแบบเงาตัดกับเครื่องแบบด้านๆ แต่ก็เป็นสีดำเงาไม่ใช่สีเงินเลยทำให้ภาพรวมมันดูสุขุม เรียบหรูอย่างมากครับและสีที่ใช้มันดำด้านจริงๆเวลากลางคืนมองได้ยากพอสมควรเลยตัวเครื่องถ้าวางไว้ไม่ได้ใช้งานครับ ส่วนน้ำหนักและขนาดของมันเมื่อเทียบกับ 13 นิ้วถือว่าทำได้ดีในการพกพาไปไหนมาไหนอีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่าที่คิดพอสมควร
ตัวเครื่องในภาพรวมนั้นจะเห็นว่ามีความเรียบแบนทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ รวมถึงตัวพื้นที่ด้านในด้วยเช่นกันเป็นการออกแบบที่เรียบและดูแข็งแรงเป็นชิ้นเดียวกันมากๆ ตัวหน้าจอก็อาจจะไม่ได้เต็มตาเท่าไรนักขอบยังมีความหนาพอสมควรเลยเมื่อดูและเทียบกับในยุคนี้ครับ แน่นอนว่าอาจจะต้องใส่ทั้งไมค์และสแกนใบหน้าเข้ามาด้วย มิติตัวเครื่องจะอยู่ที่ 308 มม. x 223 มม. x บางแค่ 14.5 มิลลิเมตร และการผลิตนั้นจะเป็น Unibody ทั้งเครื่องซึ่งการผลิตหลักๆนั้นใช้งานแค่ 3 ชิ้นประกอบกันแค่นั้นเรียกได้ว่าแข็งเรงเลย และไม่มีรอยต่อไม่มีช่องอะไรเลย รวมถึงไม่มีช่องลำโพงเลย ทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันและ แข็งแรงมากๆในการออกแบบแบบนี้ครับ และ โลโกจะเป็นสีดำเงา
วัสดุในด้านในก็จะเป็นดำด้านเหมือนกับข้างนอกทั้งหมดครับจะเห็นว่าในตัวเครื่องนั้นตัวปุ่ม ทัชแพดนั้นจะเป็นโทนสีเดียวกันทั้งหมดและมีความสวยและเนียนมากๆในการเลือกพื้นผิว เราจะไม่ได้เห็นวัสดุผ้าในรุ่นนี้หรือที่เอาเข้ามาเพราะวัสดุผ้านั้นสวยและดูดีก็จริงแต่มันมีปัญหาในเรื่องของ การดูแลรักษาพอสมควร ในรุ่นนี้เลยทำให้มีตัวเลือกในการใช้งานและเป็นวัสดุแบบ อลูมิเนียม ผสมกับแมกนีเซียมทั้งหมดเลยหมดห่วงไปได้ครับ ส่วนตัวขอบล่างหน้าจอจะเห็นว่ามีอีกวัสดุนึงเป็นชุดที่เป็นพวกข้อต่อหรือการประกอบอีกชิ้นนึงครับ แต่ที่ชอบคือช่องระบายความร้อนนั้นไม่ได้เป่าออกมาบนจอแต่เป็นการยิงลงด้านล่างครับ
ขอบหน้าจอด้านบนนั้นจะเห็นได้ชัดๆเลยว่า มีกล้องหน้าในความละเอียด HD มาพร้อมกับไมค์ 2 ตัว Studio Mic คู่แบบรับเสียงจากระยะไกล และเซนเซอร์วัดระยะ 3 มิติ IR ในการใช้งาน Windows Hello ครับ แต่ขอบทั้งด้านบนและด้านข้างยังมีความหนามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในค่ายอื่นๆที่ออกมาปลายปีนี้ครับแอบเสียดายนิดๆจุดนี้
เป็นเครื่องมีพัดลมระบายมาให้มุมขวานะครับ และมีช่องระบายความร้อนจัดเต็ม ด้านหลัง แต่ช่องตรงอื่นนั้นไม่มีเลย และการออกแบบทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันมากกว่าเดิม มีแค่ช่องระบายออกด้านหลังของเครื่องที่จะยิงลงด้านล่างไม่ได้ยิงขึ้นหน้าจอ และจะเห็นว่าตัวเครื่องไม่มีสติกเกอร์บอก CPU อะไรแบบค่ายอื่นเลยคือเรียบมากๆ และยังไม่เห็นรูน็อตเลยด้วยซ้ำ เพราะมันซ่อนอยู่ตรงยางรองทั้ง 4 มุมครับและต้องใช้อุปกรณ์ของช่างในการ เซอร์วิสเท่านั้นด้วยครับ
เมื่อมองจากด้านข้างนั้นจะเห็นชัดๆเลยว่าตัวเครื่องมีการยกตัวเครื่องขึ้นมาเยอะเหมือนกันและมีการปาดขอบเครื่องด้านหลังในช่องระบายออกลงด้านล่างครับ และหน้าจอก็เปิดสุดได้ตามภาพเลยไม่มีการบังแต่อย่างใด ส่วนตัวข้อพับนั้นทำได้แข็งแรงดีไม่มีการโยกอะไรครับ และซ่อนได้เนียนพอสมควรเลย จริงๆชอบงานมันมากทั้งความแข็งแรง เวลาเปิดปิด และ จับมุมเครื่องก็ไม่เจออาการโยกหรือเอนอะไรเลยแม้แต่น้อย วัสดุงานประกอบค่ายนี้ยอมรับจริงๆ
SPEC
- หน้าจอ 13.5 นิ้ว Pixel Sense ความละเอียด 2256 x 1504 อัตราส่วน 3:2CPU
- Quad-core 10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor
- GPU Intel® Iris™ Plus Graphics 950
- RAM 8GB 3733 MHz LPDDR4x
- SSD 256GB
- รองรับ WiFi 802.11 ax และ Bluetooth 5.0 LE / AMD 802.11ac 2×2 MIMO
- ไมโครโฟน Dual Farfield
- ลำโพง Omni Sonic พร้อม Dolby Audio Premium
- กล้องหน้า HD 720p
- พอร์ตเชื่อมต่อ
* USB-A
* USB-C™
* 3.5mm headphone jack
* Surface Connect
* รองรับ Surface Dial
- รองรับ Surface Pen
- Quick Charge 65W 0-80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียม
- น้ำหนัก 13.5 นิ้ว 1,310 กรัม / 1,250 กรัม
- Windows 10
- ประกัน 1 ปี
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้ค่อนข้างจัดเต็มมาให้ครับทั้งเรื่องของ CPU ตัวล่าสุดสดๆร้อนๆ Intel® Core™ 10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor ที่เทคโนโลยีผลิตที่ 10nm 1.20GHz ทำงานร่วมกับGPU Intel® Iris™ Plus Graphics 950 และ ยังให้ RAM 8GB 3733 MHz LPDDR4x รวมถึงตัว SSD 256GB ที่มีความเร็วการอ่านเขียนที่ดีพอสมควรครับ และ มาพร้อมกับ Windows 10 ครบๆพร้อมใช้งาน
PCMARK คะแนนทำได้ 3974 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเ อาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้ใน CPU i5 Gen10 ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ความร้อน CPU 60 ประมาณนี้ไม่ได้สูงมากกว่านี้ครับ
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 346 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดี ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 922 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 2027 ส่วนเขียนที่ 831 ครับจากทดลองหลายๆรอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างกับ HDD ไวกว่า HDD ประมาณเยอะมากเมื่อเทียบกัน และรุ่นนี้มาให้ถึง 512 GB และ ให้ HDD มาอีกที่ 1TB ครับ256GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แต่น่าเสียดายเมื่อเทียบเรทราคาแล้วถ้าใส่ความเร็วที่สูงสุดมาให้น่าจะทำงานได้ดีขึ้นไปอีกครับจุดนี้
[SR] รีวิว SURFACE LAPTOP 3 ขนาด 13.5 นิ้ว งานพรีเมี่ยม เน้นบางเบา !
Microsoft Surface นั้นต้องบอกว่าทำได้น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกๆออกมาทั้งแนวคิด วิธีการนำเสนอต่างๆของรุ่นนี้บอกเลยว่าทำได้ประทับใจครับ และรุ่น Laptop นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่เอาวัสดุผ้าเอามาทำกันแรกๆ ในรุ่นนี้ก็ได้พัฒนามีตัวเลือกมากขึ้น และหลายๆอย่างก็พัฒนาขึ้นด้วยเช่นกันครับ แบรนด์นี้ต้องบอกว่าเป็น Microsoft ลงมาทำเองเลยแน่นอนว่า การซัพพอร์ต การใช้งาน คุณภาพ พรีเมี่ยมจัดเต็มจริงๆ ในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ได้พัฒนาขึ้นทั้งสเปค ดีไซน์ ความบางเบาและรวมถึงฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาด้วย ขอบหน้าจอบางขึ้น ลำโพงทำได้ดีขึ้นเป็นลำโพง Onmisonic ที่เป็นลำโพงที่ดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมดเลย บอกเลยว่าทำได้ดีมากเรื่องของเสียง การออกแบบเรียบสวยและที่ชอบคือสีดำด้านมันสวยจริงๆครับ ส่วนในการใช้งานต่างๆ สเปคการทดสอบจะเป็นยังไงมาชมรีวิวกัน
Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นที่เน้นในเรื่องของความพรีเมี่ยมในหลายๆจุดมากขึ้น และแน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ทำได้ดีในเรื่องของงานประกอบ วัสดุรวมถึงความบางเบา ในรุ่นก่อนๆถ้าจำกันได้นั้นจะเห็นได้ชัดเลยว่าในแง่ของวัสดุการใช้ผ้าต่างๆนั้นถือว่าน่าสนใจ แต่ก็มี Feedback เข้ามาบ้างในรุ่นนี้เลยมีให้เลือกทั้งแบบปกติและแบบผ้าครับ ในส่วนของสเปคนั้นมาพร้อมกับ CPU Intel Gen 10 ซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็น i5-1035G7 รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับ RAM LPDDR4X 8 GB และ SSD 256GB แต่ในส่วนของการ์ดจอนั้นจะเป็นตัว Intel® Iris™ Plus Graphics ไม่ได้มีตัวแยกครับ ในส่วนของหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ 13.5 นิ้ว PixelSense รองรับปากกาและระบบสัมผัส ซึ่งจุดเด่นของค่ายนี้นั้นเป็นอัตราส่วนแบบ 3:2 ไม่ใช่ 16:9 แบบตัวอื่นๆที่เราคุ้นเคยกันครับ รุ่นนี้แบตนั้นก็สามารถใช้งาน ได้ 11 ชัวโมงโดยประมาณ และรองรับ Quickcharge ด้วยครับ และมาพร้อมกับพอร์ต USB-C และ USB-A ค่อนข้างครบเลย และน้ำหนักนั้นมาพร้อมกับ 1.2 โลเท่านั้นและวัสดุแมกนีเซียมดำด้านทั้งเครื่อง
Microsoft Surface Laptop 3 นั้นมาพร้อมกับสเปคให้เลือกทั้ง 2 ขนาดหน้าจอ 2 สีครับ
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB /128 ราคา 34,990 บาท
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i5 8GB / 256 ราคา 44,990 บาท
- Surface Laptop 3 13 นิ้ว i7 16GB / 256 ราคา 52,990 บาท
- Surface Laptop 3 15 นิ้ว R5 8GB/ 256 ราคา 49,990 บาท
UNBOX
สำหรับตัวกล่องในรุ่นนี้มาในขนาดพอดีกับตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่เกินครับมีรูปเครื่องพร้อมกับสีชัดเจนเลยว่าเป็นสีไหน และในตัวกล่องนั้นมีอุปกรณ์มาให้เหมือนกับทั่วไปครับ
- ตัวเครื่อง Surface Laptop 3
- สายชาร์จ ไฟพร้อม Adaptor
- คู่มือ
ที่ค่อนข้างชอบคือตัว Adaptor ของมันที่ให้มานั้นรองรับ Quickcharge และสามารถใช้งาน USB-A ในการชาร์จไฟได้อีก 1 ช่องครับรองรับใช้งานพวก มือถือหรือสายทั่วไปในการเสียบชาร์จไฟเวลาไปข้างนอกก็สามารถใช้ปลักแค่ตัวเดียวแต่สามารถชาร์จได้ทั้ง คอมพิวเตอร์ และ มือถือ เลยนั้นเองครับถือว่าสะดวกเอาเรื่อง
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้ที่เข้าในไทยนั้นจะมีสีดำด้าน และ สีเงินครับ ดีไซน์ในภาพรวมนั้นเรียบๆมากไม่มีลวดลายอะไรเลย อีกทั้งการออกแบบรูปทรงมีความตัดขอบตรงๆ เหลี่ยมมุมจัดสวยงามไม่มีส่วนโค้งเว้าอะไรเลยส่วนทางด้านวัสดุนั้นจะใช้งานแมกนีเซียมทั้งเครื่องเลยครับ ขึ้นรูปเต็มๆเน้นเรื่องของความแข็งแรงสวยงามเอาเรื่องเลย ตัวโลโก้นั้นจะเป็นแบบเงาตัดกับเครื่องแบบด้านๆ แต่ก็เป็นสีดำเงาไม่ใช่สีเงินเลยทำให้ภาพรวมมันดูสุขุม เรียบหรูอย่างมากครับและสีที่ใช้มันดำด้านจริงๆเวลากลางคืนมองได้ยากพอสมควรเลยตัวเครื่องถ้าวางไว้ไม่ได้ใช้งานครับ ส่วนน้ำหนักและขนาดของมันเมื่อเทียบกับ 13 นิ้วถือว่าทำได้ดีในการพกพาไปไหนมาไหนอีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่าที่คิดพอสมควร
ตัวเครื่องในภาพรวมนั้นจะเห็นว่ามีความเรียบแบนทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ รวมถึงตัวพื้นที่ด้านในด้วยเช่นกันเป็นการออกแบบที่เรียบและดูแข็งแรงเป็นชิ้นเดียวกันมากๆ ตัวหน้าจอก็อาจจะไม่ได้เต็มตาเท่าไรนักขอบยังมีความหนาพอสมควรเลยเมื่อดูและเทียบกับในยุคนี้ครับ แน่นอนว่าอาจจะต้องใส่ทั้งไมค์และสแกนใบหน้าเข้ามาด้วย มิติตัวเครื่องจะอยู่ที่ 308 มม. x 223 มม. x บางแค่ 14.5 มิลลิเมตร และการผลิตนั้นจะเป็น Unibody ทั้งเครื่องซึ่งการผลิตหลักๆนั้นใช้งานแค่ 3 ชิ้นประกอบกันแค่นั้นเรียกได้ว่าแข็งเรงเลย และไม่มีรอยต่อไม่มีช่องอะไรเลย รวมถึงไม่มีช่องลำโพงเลย ทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันและ แข็งแรงมากๆในการออกแบบแบบนี้ครับ และ โลโกจะเป็นสีดำเงา
วัสดุในด้านในก็จะเป็นดำด้านเหมือนกับข้างนอกทั้งหมดครับจะเห็นว่าในตัวเครื่องนั้นตัวปุ่ม ทัชแพดนั้นจะเป็นโทนสีเดียวกันทั้งหมดและมีความสวยและเนียนมากๆในการเลือกพื้นผิว เราจะไม่ได้เห็นวัสดุผ้าในรุ่นนี้หรือที่เอาเข้ามาเพราะวัสดุผ้านั้นสวยและดูดีก็จริงแต่มันมีปัญหาในเรื่องของ การดูแลรักษาพอสมควร ในรุ่นนี้เลยทำให้มีตัวเลือกในการใช้งานและเป็นวัสดุแบบ อลูมิเนียม ผสมกับแมกนีเซียมทั้งหมดเลยหมดห่วงไปได้ครับ ส่วนตัวขอบล่างหน้าจอจะเห็นว่ามีอีกวัสดุนึงเป็นชุดที่เป็นพวกข้อต่อหรือการประกอบอีกชิ้นนึงครับ แต่ที่ชอบคือช่องระบายความร้อนนั้นไม่ได้เป่าออกมาบนจอแต่เป็นการยิงลงด้านล่างครับ
ขอบหน้าจอด้านบนนั้นจะเห็นได้ชัดๆเลยว่า มีกล้องหน้าในความละเอียด HD มาพร้อมกับไมค์ 2 ตัว Studio Mic คู่แบบรับเสียงจากระยะไกล และเซนเซอร์วัดระยะ 3 มิติ IR ในการใช้งาน Windows Hello ครับ แต่ขอบทั้งด้านบนและด้านข้างยังมีความหนามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในค่ายอื่นๆที่ออกมาปลายปีนี้ครับแอบเสียดายนิดๆจุดนี้
เป็นเครื่องมีพัดลมระบายมาให้มุมขวานะครับ และมีช่องระบายความร้อนจัดเต็ม ด้านหลัง แต่ช่องตรงอื่นนั้นไม่มีเลย และการออกแบบทำให้มันเป็นชิ้นเดียวกันมากกว่าเดิม มีแค่ช่องระบายออกด้านหลังของเครื่องที่จะยิงลงด้านล่างไม่ได้ยิงขึ้นหน้าจอ และจะเห็นว่าตัวเครื่องไม่มีสติกเกอร์บอก CPU อะไรแบบค่ายอื่นเลยคือเรียบมากๆ และยังไม่เห็นรูน็อตเลยด้วยซ้ำ เพราะมันซ่อนอยู่ตรงยางรองทั้ง 4 มุมครับและต้องใช้อุปกรณ์ของช่างในการ เซอร์วิสเท่านั้นด้วยครับ
เมื่อมองจากด้านข้างนั้นจะเห็นชัดๆเลยว่าตัวเครื่องมีการยกตัวเครื่องขึ้นมาเยอะเหมือนกันและมีการปาดขอบเครื่องด้านหลังในช่องระบายออกลงด้านล่างครับ และหน้าจอก็เปิดสุดได้ตามภาพเลยไม่มีการบังแต่อย่างใด ส่วนตัวข้อพับนั้นทำได้แข็งแรงดีไม่มีการโยกอะไรครับ และซ่อนได้เนียนพอสมควรเลย จริงๆชอบงานมันมากทั้งความแข็งแรง เวลาเปิดปิด และ จับมุมเครื่องก็ไม่เจออาการโยกหรือเอนอะไรเลยแม้แต่น้อย วัสดุงานประกอบค่ายนี้ยอมรับจริงๆ
SPEC
- หน้าจอ 13.5 นิ้ว Pixel Sense ความละเอียด 2256 x 1504 อัตราส่วน 3:2CPU
- Quad-core 10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor
- GPU Intel® Iris™ Plus Graphics 950
- RAM 8GB 3733 MHz LPDDR4x
- SSD 256GB
- รองรับ WiFi 802.11 ax และ Bluetooth 5.0 LE / AMD 802.11ac 2×2 MIMO
- ไมโครโฟน Dual Farfield
- ลำโพง Omni Sonic พร้อม Dolby Audio Premium
- กล้องหน้า HD 720p
- พอร์ตเชื่อมต่อ
* USB-A
* USB-C™
* 3.5mm headphone jack
* Surface Connect
* รองรับ Surface Dial
- รองรับ Surface Pen
- Quick Charge 65W 0-80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียม
- น้ำหนัก 13.5 นิ้ว 1,310 กรัม / 1,250 กรัม
- Windows 10
- ประกัน 1 ปี
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้ค่อนข้างจัดเต็มมาให้ครับทั้งเรื่องของ CPU ตัวล่าสุดสดๆร้อนๆ Intel® Core™ 10th Gen Intel® Core™ i5-1035G7 Processor ที่เทคโนโลยีผลิตที่ 10nm 1.20GHz ทำงานร่วมกับGPU Intel® Iris™ Plus Graphics 950 และ ยังให้ RAM 8GB 3733 MHz LPDDR4x รวมถึงตัว SSD 256GB ที่มีความเร็วการอ่านเขียนที่ดีพอสมควรครับ และ มาพร้อมกับ Windows 10 ครบๆพร้อมใช้งาน
PCMARK คะแนนทำได้ 3974 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเ อาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้ใน CPU i5 Gen10 ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ความร้อน CPU 60 ประมาณนี้ไม่ได้สูงมากกว่านี้ครับ
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 346 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดี ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 922 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 2027 ส่วนเขียนที่ 831 ครับจากทดลองหลายๆรอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างกับ HDD ไวกว่า HDD ประมาณเยอะมากเมื่อเทียบกัน และรุ่นนี้มาให้ถึง 512 GB และ ให้ HDD มาอีกที่ 1TB ครับ256GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แต่น่าเสียดายเมื่อเทียบเรทราคาแล้วถ้าใส่ความเร็วที่สูงสุดมาให้น่าจะทำงานได้ดีขึ้นไปอีกครับจุดนี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้