คนอื่น:"ก็ดีนิ แม่หวง แม่เป็นห่วง มีสิ่งใหนที่ไม่ดีเหรอคะ"
เรา:เหรอคะแม่ห่วงมันก็ดีนะ แต่ว่า.... ถ้าบางทีก็ห่วงไป...... มันดีเหรอคะ
คนอื่น:อ้าว ก็แม่ห่วงแสดงว่าแม่รักคุณไงคะ ไม่ชอบเหรอ
เรา:ไม่ค่ะ
คนอื่น:คุณนี่แปลกจังนะคะ ได้รับความอบอุ่นมากเกินไปจนรำคาญแม่เหรอ
เรา: ประมาณนั้นค่ะ
เรา:อยากรู้มั้ย
เรา:ว่าเราไม่ชอบมันยังไง
คนอื่น:อืม...ก็อยากรู้นะคะ เพราะมันน่าแปลกจริงๆค่ะ
เรา:ถ้างั้นจะเริ่มเล่าเลยนะคะ
.
.
.
เรามีพี่อยู่2คน พี่คนแรกท้องก่อนเรียนจบ คนที่สองมีปัญหาทางสมอง
ดังนั้นเราจึงเป็นลูกคนเดียวที่ยังเรียนอยู่ แม่เคยบอกว่าเราเป็นความหวังสุดท้ายของพ่อแม่
เราควรดีใจมั้ยที่แม่พูดแบบนั้น ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกตื้นตันใจเป็นพิเศษแต่ก็ไม่ถึงกับขั้นเฉยเมย เราพยายามทำทุกอย่างให้แม่ภูมิใจ ตั้งใจเรียน สอบได้คะแนนดี เกรดดี ไม่เคยแก้สอบ
และมีความฝันเป็นของตัวเอง... ก็คือการได้ายทอดจินตนาการความคิดของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ในรูปแบบของอนิเมชั่น
ความฝันมันดูไร้สาระกับแม่มากๆ แล้วบอกว่าตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนเถอะ เราก็แค่เก็บความสงสัยไว้ในใจ จนเวลาผ่านไป....
เราเติบโตขึ้นทุกปีๆเหมือนต้นไม้ที่กำลังงอกงามจนเติบใหญ่ ตอนนี้อยู่ ม.2กำลังจะขึ้น ม.3แล้ว น่าแปลกที่เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ช่วงอายุ14อารมณ์มักแปรปรวนเราไม่เคยเชื่อ แต่พออายุย่างเข้าสู่14ปี... ความคิดของเราก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
อยากมีอิสระ อยากไปเที่ยว ไปไหนก็ได้ไป อยากเรียนพิเศษ อยากวาดรูป อยากเขียนนิยาย อยากมีเพื่อนเยอะๆ อยากเป็นที่รักของคนอื่น อยากเรียนเก่งๆ อยากเป็นเด็กฉลาด อยากมีโลกส่วนตัวโดยที่แม่ไม่เข้ามาก้าวก่าย อยากมีทุกๆอย่างที่ควรมี
อยากไล่ตามความฝันของตัวเองเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ บางคนในร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา ได้แข่งวาดภาพ ได้ทำหลายๆอย่างที่พวกเขาต้องการ เราก็อยากมีบ้าง...
.......
"ทว่า มันไม่ได้เป็นไปตามที่ใจต้องการ"
....
ไม่ว่ายังไงแม่ก็จะไม่สนับสนุนเราเสมอ จะกี่ปีหรือตลอดไปแม่ก็ไม่เคยอยากรู้ว่าเราต้องการอะไร ก็แค่ให้เราเรียนหนังสืออย่างเดียว กลับบ้านมาก็ทำการบ้าน กินข้าง อาบน้ำ นอน เสาร์ อาทิตย์ก็ตื่นเช้ามาทำงานบ้าน ทำการบ้าน แค่นี้เอง...
เรียบง่ายๆสุดไปเลยล่ะ
ทว่าช่วงนี้กลับร้องไห้หนักขึ้นทุกวัน อยากทำร้ายตัวเอง อยากตายแล้วไปเกิดใหม่ อยากมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ ร้องไห้ทุกวัน ปวดหัวทุกครั้ง นอนไม่หลับ และเครียดทุกเรื่องที่หลั่งใหลเข้ามาในหัว ร้องให้ฟูมฟายแค่ไหนก็ไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครปลอบ อยากทำร้ายตัวเองระบายอารมธณ์โกรธแค้นที่มีอยู่ในจิตใจลงที่ร่างกายตัวเอง
แต่รู้มั้ยคะ ว่าทำไม่ได้
ไม่กล้าทำ ไม่อยากให้ร่างกายต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ สุดท้ายแล้ว....
สิ่งที่เรียกว่าความสุขมันก็หายไปจากชีวิต เวลาที่ตัวเองเหยียบย่ำมาที่บ้าน และได้พบปะกับแม่
คิดยังไงกับแม่ที่เป็นห่วงลูกตัวเองคะ
เรา:เหรอคะแม่ห่วงมันก็ดีนะ แต่ว่า.... ถ้าบางทีก็ห่วงไป...... มันดีเหรอคะ
คนอื่น:อ้าว ก็แม่ห่วงแสดงว่าแม่รักคุณไงคะ ไม่ชอบเหรอ
เรา:ไม่ค่ะ
คนอื่น:คุณนี่แปลกจังนะคะ ได้รับความอบอุ่นมากเกินไปจนรำคาญแม่เหรอ
เรา: ประมาณนั้นค่ะ
เรา:อยากรู้มั้ย
เรา:ว่าเราไม่ชอบมันยังไง
คนอื่น:อืม...ก็อยากรู้นะคะ เพราะมันน่าแปลกจริงๆค่ะ
เรา:ถ้างั้นจะเริ่มเล่าเลยนะคะ
.
.
.
เรามีพี่อยู่2คน พี่คนแรกท้องก่อนเรียนจบ คนที่สองมีปัญหาทางสมอง
ดังนั้นเราจึงเป็นลูกคนเดียวที่ยังเรียนอยู่ แม่เคยบอกว่าเราเป็นความหวังสุดท้ายของพ่อแม่
เราควรดีใจมั้ยที่แม่พูดแบบนั้น ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกตื้นตันใจเป็นพิเศษแต่ก็ไม่ถึงกับขั้นเฉยเมย เราพยายามทำทุกอย่างให้แม่ภูมิใจ ตั้งใจเรียน สอบได้คะแนนดี เกรดดี ไม่เคยแก้สอบ
และมีความฝันเป็นของตัวเอง... ก็คือการได้ายทอดจินตนาการความคิดของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ในรูปแบบของอนิเมชั่น
ความฝันมันดูไร้สาระกับแม่มากๆ แล้วบอกว่าตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนเถอะ เราก็แค่เก็บความสงสัยไว้ในใจ จนเวลาผ่านไป....
เราเติบโตขึ้นทุกปีๆเหมือนต้นไม้ที่กำลังงอกงามจนเติบใหญ่ ตอนนี้อยู่ ม.2กำลังจะขึ้น ม.3แล้ว น่าแปลกที่เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ช่วงอายุ14อารมณ์มักแปรปรวนเราไม่เคยเชื่อ แต่พออายุย่างเข้าสู่14ปี... ความคิดของเราก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
อยากมีอิสระ อยากไปเที่ยว ไปไหนก็ได้ไป อยากเรียนพิเศษ อยากวาดรูป อยากเขียนนิยาย อยากมีเพื่อนเยอะๆ อยากเป็นที่รักของคนอื่น อยากเรียนเก่งๆ อยากเป็นเด็กฉลาด อยากมีโลกส่วนตัวโดยที่แม่ไม่เข้ามาก้าวก่าย อยากมีทุกๆอย่างที่ควรมี
อยากไล่ตามความฝันของตัวเองเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ บางคนในร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา ได้แข่งวาดภาพ ได้ทำหลายๆอย่างที่พวกเขาต้องการ เราก็อยากมีบ้าง...
.......
"ทว่า มันไม่ได้เป็นไปตามที่ใจต้องการ"
....
ไม่ว่ายังไงแม่ก็จะไม่สนับสนุนเราเสมอ จะกี่ปีหรือตลอดไปแม่ก็ไม่เคยอยากรู้ว่าเราต้องการอะไร ก็แค่ให้เราเรียนหนังสืออย่างเดียว กลับบ้านมาก็ทำการบ้าน กินข้าง อาบน้ำ นอน เสาร์ อาทิตย์ก็ตื่นเช้ามาทำงานบ้าน ทำการบ้าน แค่นี้เอง...
เรียบง่ายๆสุดไปเลยล่ะ
ทว่าช่วงนี้กลับร้องไห้หนักขึ้นทุกวัน อยากทำร้ายตัวเอง อยากตายแล้วไปเกิดใหม่ อยากมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ ร้องไห้ทุกวัน ปวดหัวทุกครั้ง นอนไม่หลับ และเครียดทุกเรื่องที่หลั่งใหลเข้ามาในหัว ร้องให้ฟูมฟายแค่ไหนก็ไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครปลอบ อยากทำร้ายตัวเองระบายอารมธณ์โกรธแค้นที่มีอยู่ในจิตใจลงที่ร่างกายตัวเอง
แต่รู้มั้ยคะ ว่าทำไม่ได้
ไม่กล้าทำ ไม่อยากให้ร่างกายต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ สุดท้ายแล้ว....
สิ่งที่เรียกว่าความสุขมันก็หายไปจากชีวิต เวลาที่ตัวเองเหยียบย่ำมาที่บ้าน และได้พบปะกับแม่