สวัสดีครับ ผมได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น เป็นเคสด่วนได้เข้ารับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินครับ
ก่อนที่ผมจะเข้ามารักษา คือก่อนหน้านี้มาอาการปวดท้องแบบรุนแรงมาก อาเจียน และถ่ายท้อง มาหลายรอบ
จึงได้เข้ามารักษาที่แผนกฉุกเฉินครับ เวลาที่ได้เข้ามาตอนนั้น ประมาณ 09:30 น. ปวดท้องมากจนทนไม่ไหวร้องไห้
แต่คุณหมอในห้องฉุกเฉินไม่ได้มีการมาดูแลหรือตรวจการเบื่องต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย มีแต่พยาบาลที่ค่อยมาถาม
และบอกว่ารอคุณหมอมาตรวจ ซึ่งคุณหมอที่ให้ผมรอคือหมอเวรครับ หมอที่ตรวจคนไข้ที่ประกันสังคม รอจนถึงเที่ยงกว่าๆ
มีหมอมาตรวจมาจับๆ กดๆ บริเวณท้อง บอกว่าอาจจะเป็นไส้ติ่ง ต้องให้หมอศัลยกรรมมาตรวจและก็ไปครับ
รอหมอศัลยกรรมมาตรวจอีกประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ถึงมาตรวจ พอหมอมาก็จับๆ กดๆ แบบหมอคนก่อน แล้วบอกว่า
น่าจะอาหารเป็นพิษ ต้องไป ซีทีสแกนว่าเป็นอะไร รอไปซีทีสแกนอีก 1-2 ชม. เวลานั้นประมาณ 15:30น. ได้ครับถึงได้ไปสแกน
แล้วรอผลสแกน และรอหมอศัลยกรรมคนเดิมมาดูผลกว่าหมอจะมา (เหมือนจะตาย ทรมานมากครับ) ประมาณ 17:00น.
หมอถึงมาบอกผลตรวจ ปรากฎว่าเป็นลำไส้อักเสบครับ และหมอศัลยกรรมก็ส่งต่อให้หมอฉุกเฉินดูแลต่อครับ หมอฉุกเฉินมีหน้าที่แค่นี้หรอครับ
ไม่สามารถทำอะไรได้เลยหรอครับ แย่มากครับ 
******แต่ที่ผมสงสัย คือ แผนกฉุกเฉิน หมอก็มี แต่ทำไมไม่ถึงไม่มาดูแลมาตรวจคนไข้เลยครับ ***
เพราะแผนกฉุกเฉิน เป็นแผนกที่ต้องให้บริการคนป่วยที่ฉุกเฉินมา และต้องเป็นหมอที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา
สามารถตรวจรักษาและวินิจฉัยโรคหรืออาการเบื้องต้นได้ครับ แต่ที่นี้คือคุณหมอที่ห้องฉุกเฉินไม่สามารถตรวจหรือวินิจฉัย
อาการของคนไข้ได้เลย แม้แต่มาดูอาการยังไม่มาเลยครับต้องรอแต่หมอเวร กว่าผมจะตรวจวันนั้นตั้งแต่มา9:30น. จนถึง 17:45น. ถึงเสร็จครับ และที่สำคัญ
ค่าการรักษาแพงมากครับ ผมโดนค่ายาและค่ารักษาไป 25,000-26,000 บาท ครับ แต่การทำงานของแผนกฉุกเฉินแย่มากครับ