เรื่องราวของรถไฟสมัยสงครามโลก

Schienenzeppelin



ปี 1930 Schienenzeppelin รถไฟความเร็วสูงของเยอรมันสุดล้ำ
 



รถไฟความเร็วสูงเยอรมัน Schienenzeppelin ความเร็วสูงสุดได้ 210 กม. / ชม. ช่วงทศวรรษที่ 1930

Schienenzeppelin ถูกสร้างโดยวิศวะกรชาวเยอรมันชื่อ Franz Kruckenbergในช่วงปี 1929 โครงสร้างมีลักษณะคล้ายรถไฟแต่มีใบพัดคล้ายเครื่องบินติดอยู่ช่วงหลังของโบกี้ สามารถวิ่งทำความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 40 คน แนวคิดการนำใบพัดเครื่องบินมาติดกับยานพาหนะทางเรียบไม่ใช่เรื่องใหม่ในยุคนั้น โดยก่อนหน้านี้มีวิศวะกรชาวรัสเซียนำใบพัดมาติดกับรถไฟขนาดเล็กมีชื่อเรียกว่า Aerowagon ในปี 1917-1921
ในยุคนั้นเยอรมันมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากกว่าประเทศอื่น ๆ นอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ววิศวะกรชาวเยอรมันยังได้สร้างเรือเหาะขนาดใหญ่ชื่อ Zeppelin Airships ใช้โครงสร้างเป็นอลูมิเนียม Aluminum ซึ่งอลูมิเนียมนี้ถูกใช้เป็นโครงสร้างของรถไฟความเร็วสูง Schienenzeppelin ด้วยนั่นเองถึงแม้ว่า Schienenzeppelin จะสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงแต่ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพียงคันเดียวเนื่องจากมีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยและได้หยุดวิ่งไปในปี 1939  จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่ารถไฟไทย วิ่งได้ความเร็วเฉลี่ยที่ 100 กม. / ชม. ถือว่ายังวิ่งได้ช้ากว่ารถไฟของเยอรมันนีใน เมื่อ 85 ปีที่แล้ว 
ขอบคุณที่มาของข้อมูล
en.wikipedia.org/wiki/Aerowagon, en.wikipedia.org/wiki/Schienenzeppelin, fierasdelaingenieria.com
Cr.https://www.nextwider.com/schienenzeppelin/ BY PEERAPAT CHUEJEEN

 armored.


(รถไฟหุ้มเกราะของโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่2.)

รถไฟ armored.คือรถไฟ ที่ทางกองทัพโซเวียต ได้คิดค้นขึ้นมา โดยนำรถไฟที่มีอยู่ มาดัดแปลงใส่เกราะติดอาวุธเข้าไป เป็นอาวุธที่มีใช้อยู่จริงในช่วงประมาณศตวรรษที่ 19-20 ความได้เปรียบของมันน่าจะอยู่ที่ความสามารถในการบรรทุก ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนใหญ่ ปืนกล หรือกำลังทหาร ส่วนข้อจำกัดก็คงเป็นเรื่องการแล่นไปได้แต่เฉพาะบนราง และการป้องกันทางอากาศ  การจะใช้เจ้าอาวุธนี้ให้ได้ผลดีจะต้องเน้นที่การเคลื่อนที่เร็ว และโจมตีแบบไม่รู้ตัว

มีภาพยนตร์รัสเซียเรื่องหนึ่ง ที่มีความแปลกตรงที่กล่าวถึงอาวุธที่อาจจะยังไม่เคยกล่าวถึงในภาพยนตร์เรื่องอื่นใด คือรถไฟหุ้มเกราะ ในเรื่องที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า The Last Armored Train จัดจำหน่ายโดย Right Beyond ในชื่อภาษาไทยว่า สงครามยึดรถเหล็กทมิฬ 

เครดิตบทความ:http://www.iseehistory.com/index.php
ติดตามภาพรถไฟหุ้มเกราะทั้งหมดได้ที่:http://www.clipmass.com/story/55458
ขอบคุณข้อมูลโดย แอดมินรถไฟหุ้มเกราะ
Cr.h-th.facebook.com/warofhistory/photos/รถไฟ-armoredรถไฟหุ้มเกราะของโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่2รถไฟ-armoredคือรถไฟ-ที่ทา/501741769890954/

ทริปไปปารีส


ภาพทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง บนตู้รถไฟโดยสารเขียนว่า ทริปไปปารีส โดยในขณะนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของสงคราม ที่ชาวเยอรมันเชื่อว่าพวกเขาจะชนะในสงครามครั้งนี้และจบลงในเวลาไม่นาน แต่เยอรมนีกลับกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในครั้งนี้สงคราม 
Cr.ภาพ WIKIPEDIA PD
Cr.https://twitter.com/spokedarktv/status/1091591037821153280

"MACARTHUR" 


นี่เป็นรถจักรไอน้ำที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สงครามของสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นรถจักรไอน้ำที่สร้างเกียรติประวัติและเป็นส่วนหนึ่งของแสนยานุภาพของกองทัพอเมริกันและพันธมิตร เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งทีสอง  แมกอาเธอร์ ซึ่งถือเป็นหนึงในกลุ่มรถจักรไอน้ำที่เรียกกันเดิมว่า “มิกาโด” 

"มิกาโด" เป็นชื่อเรียกของรุ่น รถจักรไอน้ำ ที่ออกแบบการวางล้อ แบบ  2-8-2  นั่นหมายถึงรถจักรที่มีล้อลำเลียง (Leading Wheel) หน้า 2 ล้อ ตามด้วยล้อกำลัง (Driver) 8 ล้อ และปิดท้ายด้วยล้อตามหรือล้อหลัง (Trailing Wheel) อีก 2ล้อ
รถจักรไอน้ำ มิกาโด รุ่นแรก ๆ ถูกผลิตขึ้นในราวปี คศ.1897 ให้แก่ การรถไฟเอกชนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นของ Nihon Tetsudo

มิกาโด เป็นรถจักรไอน้ำที่ผลิตโดยบริษัท บอลด์วินน์ โลโคโมทีฟ ( Baldwin Locomotive Works)ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในอเมริกา ราวปี คศ.1831 โดย แมทเทียส บอลด์วินน์ (Matthias Baldwin) โดยมีรหัสในการผลิตครั้งว่าเป็นชั้น โดยผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่รัฐบาลจักรพรรดิญี่ปุ่น  และชื่อ มิกาโด (Mikado) นี้เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเป็นเกียรติให้แก่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึง “สมเด็จพระจักรพรรดิ”

ประเทศไทย ได้มีการสั่งซื้อรถจักรไอน้ำมิกาโด ก่อนรุ่นแมกอาเธอร์ เพื่อมาใช้ในกิจการของการรถไฟหลวง ส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศอื่น ๆ เช่น มิกาโด (นาสมิท)ที่ผลิตในประเทศอังกฤษ, มิกาโด (บาตินยอลล์)ของฝรั่งเศส,หรือ มิกาโด ที่สมาคมและหลายบริษัทในญีปุ่นได้ผลิตขึ้นเอง ยกเว้นเพียงรุ่นเดียวที่ประเทศไทยได้รับรถจักรไอน้ำทีผลิตจากอเมริกาในช่วงสงครามคือ มิกาโด (แมกอาเธอร์) ในราวปี พ.ศ 2489

หลังจากการรถไฟเอกชน Nihon Tetsudo ของญี่ปุ่น ถูกควบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกิจการรถไฟของรัฐบาลภายใต้การนำของจักรพรรดิญี่ปุ่นจนมาในราวปี คศ.1941 และสงครามอ่าวเพริล์ฮาเบอร์ ระหว่าง ญี่ปุ่น กับ อเมริกา เกิดประทุขึ้น และเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง

หลายบริษัทผู้ผลิตรถจักรไอน้ำชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอาทิ Baldwin, Alco , Davenport, Vulcan Iron work etc  ร่วมกันผลิตรถจักรไอน้ำมิกาโด เพื่อใช้ในกิจการสงคราม และด้วยความเป็นปฏิปักษ์กันในสถานะสงครามทำให้รถจักรไอน้ำรุ่นที่ถูกผลิตขึ้นนี้จึงต้องถูกผันชื่อเปลี่ยนนามกลับไปหาความเป็นอเมริกันดั้งเดิมในช่วงนั้น โดยเลือกใช้คำว่า "แมกอาเธอร์" ซึ่งเป็นแม่ทัพการทหารของอเมริกาแทนคำว่า "มิกาโด" เดิม
Cr.https://locosiam.blogspot.com/2013/10/blog-post_18.html / เรื่องโดย : Unknown |
Cr.https://www.gotoknow.org/posts/134587 / โดย สะ-มะ-นึก  ใน ชุมชนคนม้าเหล็ก

“รถไฟทองคำ” 


(เมื่อรถไฟบรรทุกสมบัตินาซีที่วิ่งหายไปในสงครามโลกถูกค้นพบอีกครั้ง)

รถไฟหุ้มเกราะดังกล่าวเชื่อกันว่าเป็นของหน่วยทหารนาซีWehrmacht ซึ่งมันได้หายสาบสูญไปตอนปะทะกับ Red Army ในช่วงสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง  ภายในรถไฟเต็มไปด้วยทองคำ และเพชรพลอยต่าง ๆ ที่ถูกขโมยมาโดยทหารเยอรมัน

เรื่องราวของรถไฟนาซีที่เต็มไปด้วยทองคำ และเพชรพลอยที่ปล้นสะดมมาได้นี้ ที่อ้างว่าถูกค้นพบโดยสองนักล่าสมบัติ ซึ่งเชื่อกันว่ารถไฟของหน่วยทหาร Wehrmacht ได้หายสาบสูญไปในอุโมงค์ช่องเขาในช่วงสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง
สองนักล่าสมบัติจากโปแลนด์กล่าวว่าพวกเขาได้ค้นพบรถไฟที่มีผ้าคลุมเอาไว้อยู่ โดยที่เชื่อกันว่ามันได้บรรทุกทองคำ และอาวุธปืนก่อนที่จะวิ่งหายไปในตอนปะทะกับกองกำลัง Red Army ของโซเวียต

ข่าวท้องถิ่นรายงานว่ารถไฟดังกล่าวหายสาบสูญไปในปี 1945ภายในเต็มไปด้วยสิ่งของที่ไปปล้นสะดมมาจากอดีตเมือง Breslau ทางตะวันออกของเยอรมนี ที่ปัจจุบันคือ Wroclaw ที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์ ในช่วงการปะทะกับกองกำลัง Red Army ในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง
 สื่อยังได้รายงานอีกว่ารถไฟดังกล่าวได้มีการหุ้มเกราะ และถูกใช้ในทางทหารโดยกองกำลังทหารของนาซีที่เรียกกันว่า Wehrmacht

สถานีวิทยุ Wroclaw อ้างว่าเคยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับรถไฟที่วิ่งเข้าอุโมงค์ใกล้ ๆ กับปราสาท Ksiazในแนวเขาของภูมิภาค Lower Silesian และไม่เคยมีใครพบเห็นมันอีกเลย ซึ่งจากเรื่องนี้ ช่องอุโมงค์ดังกล่าว ในภายหลังได้ถูกปิดตายไป

รถไฟนี้เคยถูกนำมาใช้จริงสำหรับขนส่งทหารนาซีกลับไปยังกรุงเบอร์ลินในช่วงที่โดนฝ่ายสัมพันธมิตรต้อนจากทางตะวันตก และตะวันออกในช่วงฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิปี 1945 
สาเหตุหนึ่งที่มีคนเรียกมันว่าเป็น “รถไฟทองคำ” เพราะว่าทหารนาซีได้ส่งขบวนสินค้า 24 ขบวนจาก Budapest ไปยังเยอรมนีเต็มไปด้วยสมบัติมากมายรวมถึงทองคำ เงิน และรูปวาดที่ยึดมาได้จากชาวยิวฮังการี ซึ่งคาดการของสมบัติเหล่านี้มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)
ขอบคุณที่มา: Mirror UK
Cr.https://www.kiitdoo.com/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่