(ที่มา www.google.co.th)
กลุ่มดาวงู
เป็นหนึ่งในกลุ่มดาว 48 กลุ่มในรายการของทอเลมี และยังเป็นกลุ่มดาวในรายชื่อกลุ่มดาวสมัยใหม่ 88 กลุ่มที่รับรองโดยสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล กลุ่มดาวนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือ หัวงู (Serpens Caput) ที่อยู่ทางตะวันออก กับหางงู (Serpens Cauda) ที่อยู่ทางตะวันตก คั่นตรงกลางด้วยกลุ่มดาวคนแบกงู
โดยกลุ่มดาวคนแบกงู แทรกไปในกึ่งกลางระหว่าง กลุ่มดาวแมงป่องและกลุ่มดาวคนยิงธนู กลุ่มดาวคนแบกงูแทนด้วยชายคนหนึ่งกำลังอุ้มงูไว้ ทำให้แยกกลุ่มดาวงูออกเป็นสองส่วน คือ หัวกับหาง (แต่นับเป็นกลุ่มดาวเดียวกัน)
ตามตำนานกรีกเล่าว่า กลุ่มดาวนี้คือตัวแทนของแพทย์อัจฉริยะชาวกรีกนามว่า แอสคลีปิอุส (Asclepius) ซึ่งวันหนึ่งเขาได้ล่วงรู้ความลับการทำให้ชีวิตเป็นอมตะจากการสังเกตุสมุนไพรที่งูนำมากินเป็นประจำ เมื่อมหาเทพซุสได้รู้เข้า จึงทำการสังหาร แอสครีปิอุส ทันที เพื่อไม่ให้ความลับของสวรรค์รั่วไหลและเพื่อรักษาสมดุลของโลกมนุษย์ไว้ จากนั้นซุสจึงนำดวงวิญญาณของ แอสครีปิอุส ไปประดับเป็นกลุ่มดาวคนแบกงูบนท้องฟ้า เพื่อไว้อาลัยและระลึกถึงเขา
กลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus)
"กลุ่มดาวคนแบกงู" เป็น 1 ในจักรราศีลำดับที่ 13 แต่ที่ไม่อยู่ในระบบปฏิทิน
(ขอบคุณภาพจาก thairath.co.th/)
เป็น 1 ในกลุ่มดาวทั้งหมด 88 กลุ่ม และเป็น 1 ในกลุ่มดาวจักรราศีลำดับที่ 13 เนื่องจากมีขาข้างหนึ่งแทรกไปในกึ่งกลางระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับกลุ่มดาวคนยิงธนู
กลุ่มดาวคนแบกงูแทนด้วยชายคนหนึ่งกำลังอุ้มงูไว้ ทำให้แยกกลุ่มดาวงูออกเป็นสองส่วน คือ หัวกับหาง โดยกลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) คือ เป็นกลุ่มดาวที่ปรากฏบนแถบสมมติ (ที่สังเกตจากโลก) ที่ดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนผ่านในรอบ 1 ปี เรียกว่า สุริยวิถี
ทั้งนี้ ด้วยระยะเวลาที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ผ่านน้อย และไม่ได้เคลื่อนที่ผ่านจุดตรงกลางของกลุ่มดาว อีกทั้งความง่ายต่อการคำนวณเวลาปฏิทิน นักดาราศาสตร์จึงไม่ระบุกลุ่มดาวดังกล่าวลงไป หากกำหนดจักรราศีใหม่ให้สัมพันธ์กับกลุ่มดาวบนท้องฟ้า จะต้องเพิ่มราศี “คนแบกงู” (Ophiuchus) ที่เคยเลิกใช้ไปเมื่อ 3,000 ปีก่อน กลับเข้ามาอยู่ในจักรราศีอีกครั้ง ช่วงเวลาของแต่ละจักรราศีก็จะต้องถูกกำหนดใหม่
กลุ่มดาวคนแบกงู เป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่ประมาณ 25 ดวง ซึ่งจะปรากฏอยู่บนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม คนไทยสามารถมองเห็นกลุ่มดาวคนแบกงู แต่ต้องใช้ความชำนาญในการดูดาวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่มีแสงสว่างค่อนข้างเล็ก อาจจะยากสำหรับการมองเห็น. (Cr.
https://www.thairath.co.th/content/729944)
กลุ่มดาวงูไฮดรา (Hydra)
(Hydra, Alexander Jamieson's Celestial Atlas (1822) กลุ่มดาว Noctua หรือนกฮูกตรงหางไฮดร้า ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว
Credit: US Naval Observatory Library)
กลุ่มดาวงูไฮดรา เป็นกลุ่มดาวที่มีขนาดของพื้นที่ใหญ่ที่สุดบนท้องฟ้า มีความกว้างกว่า 100 องศา เป็นกลุ่มดาวที่ดาวฤกษ์ไม่สว่างมากนัก ยากแก่การมองให้เป็นรูปงูไฮดรา ยกเว้น ดาว Alphard ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวและมีดาว 6 ดวง ที่เรียงกัน เป็นรูปส่วนหัวของงู อยู่ทางทิศตะวันออกของดาวโพรซิออน กลุ่มดาวงูไฮดราจะมองเห็นได้ดีที่สุดในเวลา 21.00 น. ของเดือนเมษายน
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อพอลโล่จะจัดงานเลี้ยงถวายจูปีเตอร์ จึงสั่งอีกาไปตักน้ำใส่ถ้วยมาเตรียมไว้ ระหว่างทางอีกาพบต้นฟิก(มะเดื่อฝรั่ง) ติดลูกเต็มต้น รู้สึกอยากกินจึงรอจนกระทั่งลูกฟิกสุก เมื่อกินจนอิ่มสบายใจก็ระลึกถึงงานที่อพอลโล่สั่ง ด้วยความกลัวที่กลับไปช้า คิดอุบายเลยจับงูไปด้วย
เมื่อกลับไปถึง อีกาทูลต่ออพอลโล่ว่า “ข้าถูกงูตัวนี้คอยทำร้ายและรบกวน ไม่ยอมให้ตักน้ำมาถวายทำให้มาช้า” อพอลโล่ซึ่งทราบความจริงอยู่แล้ว ไม่ยอมรับคำโกหก และลงโทษสาบให้อีกาไม่ได้ดื่มน้ำอีกเลยจนกว่าลูกฟิกจะสุก
หลังจากนั้นก็ส่งงูไปเป็นกลุ่มดาวไฮดรา อีกาไปเป็นกลุ่มดาวคอร์วัส ถ้วยน้ำไปเป็นกลุ่มดาวเครเตอร์ ให้ทั้งหมดอยู่เคียงข้างกันไว้เตือนความจำ และอีกาจะไม่ได้ดื่มน้ำอีกตลอดกาลเพราะมีงูไฮดร้าคอยเฝ้าถ้วยน้ำเอาไว้
ไฮดร้าเป็นกลุ่มดาวที่ยาวที่สุด และมีพื้นที่มากที่สุดบนฟ้า ยาวขนานไปกับกลุ่มดาวจักรราศี และเส้นสุริยวิถี เริ่มจากหัวงูไฮดราทางทิศใต้ของกลุ่มดาวกรกฏ เรื่อยไปยังราศีสิงห์ ราศีกันย์ ปลายหางก็ไปชนกับราศีตุลย์พอดี ความยาวของกลุ่มดาวไฮดรานั้น แม้ว่าหัวงูจะอยู่กลางฟ้า หางงูก็ยังอยู่ไม่พ้นขอบฟ้าทางตะวันออก ( Cr.
https://www.siamskies.com/2019/05/blog-post.html)
ชีววิทยากับเทปกรณัม : ไฮดรา
Hydra เป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีรูปร่างใหญ่โตคล้ายงูแต่มีหลายหัว แถมยังพ่นพิษที่แสนร้ายกาจได้ มันอาศัยอยู่ในหนองน้ำใกล้ทะเลสาป Lerna ในเมือง Argolid (ปัจจุบันคือเมือง Argos ในประเทศ Greece) ซึ่งเชื่อว่าหนองน้ำที่มันอาศัยอยู่ เป็นทางลงสู่โลกแห่งความตาย ที่ปกครองโดย Haides
โดยในตำนานกล่าวว่า แม้ว่าหัวของมันจะถูกตัดขาดไป ก็จะมีหัวอันใหม่งอกทดแทนขึ้นมา แต่เฮอร์คิวลิสสามารถฆ่าได้
ไฮดรา สัตว์ชั้นต่ำ หลายเซลล์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate animal)
ไฮดราเป็นพวกเดียวกับแมงกระพรุน ดอกไม้ทะเล และปะการัง สาเหตุที่จัดไฮดรา ไว้ในไฟลัม Cnidaria เพราะไฮดรามีเซลล์ที่มีชื่อว่า Cnidoblast หรือ sting cell ซึ่งเซลล์นี้จะสร้าง nematocyst พบได้ทั่วไปตามผิวหนังชั้นนอกและพบมากที่บริเวณหนวด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตมาก ช่วยจับเหยื่อเป็นอาหารและป้องกันตัว โดยเซลล์นี้จะปล่อยสารพิษ พร้อมกับปล่อย nematocyst ออกไป พิษนี้จะทำให้ศัตรูเกิดอาการอ่อนเปลี้ย และเป็นอัมพาต
(ขอบคุณภาพจาก
http://manage.brr.ac.th/)
กลุ่มดาวงูไฮดรัส
(ขอบคุณภาพจาก soscity.co/)
กลุ่มดาวงูไฮดรัส เป็นกลุ่มดาวขนาดเล็กในซีกฟ้าใต้ ปรากฏในแผนที่ดาว ยูรานอเมเทรีย (Uranometria) ของโยฮันน์ บาเยอร์ เมื่อปี ค.ศ. 1603 ชื่อคล้ายกับกลุ่มดาวงูไฮดรา (
https://sites.google.com/site/onlyone00web/klum-da-wnguhi-dras)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ Carina
(ขอบคุณภาพจาก soscity.co/)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ เป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าใต้ที่อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวเรืออาร์โก วัตถุท้องฟ้าเด่น คือ ดาวคาโนปัส ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในท้องฟ้ายามค่ำคืน และดาวอีตากระดูกงูเรือ ดาวที่มีมวลสูง อยู่ ณ ใจกลางเนบิวลากระดูกงูเรือ (เอ็นจีซี 3372) อยู่ห่างจากโลก 1,200 ปีแสง
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ (Carina) เป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่โดดเด่นที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน (สามารถสังเกตเห็นกลุ่มดาวได้ทั้งกลุ่ม) ในบริเวณซีกฟ้าใต้ ประเทศไทยเองก็สามารถสังเกตเห็นบางบริเวณของกลุ่มดาวนี้ได้ โดยหันหน้าไปทางทิศใต้เราจะสังเกตเห็นดาวฤกษ์สว่างดวงหนึ่งชื่อว่า ดาวคาโนปุส (Canopus) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของโปรซิออน (Procyon) และดาวซิริอุส (Sirius)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือในอดีตเคยนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่มดาวเรืออาร์โก (Argo Navis) ซึ่งเคยเป็นกลุ่มดาวที่ใหญ่ที่สุดบนท้องฟ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักดาราศาสตร์สมัยใหม่ได้คิดที่จะแบ่งมันออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อไม่ให้กลุ่มดาวนี้กินพื้นที่บนท้องฟ้ามากเกินไป สุดท้ายได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มดาว ประกอบด้วย กลุ่มดาวเข็มทิศ (Pyxis), กลุ่มดาวท้ายเรือ (Puppis), กลุ่มดาวใบเรือ (Vela), และ กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ (Carina) นั่นเอง เรืออาร์โกนี้มีตำแหน่งอยู่ใต้กลุ่มดาวไฮดรา
มีตำนานของเรืออาร์โก ซึ่งเป็นตำนานของชาวบาบิโลเนียนว่า เรืออาร์โกนี้ถูกนับถือว่าเป็นเรือที่ยิ่งใหญ่มาก เกี่ยงข้องกับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก เมื่อพระเจ้าตัดสินใจล้างโลกโดยใช้น้ำ นั่นคือทำให้น้ำท่วมโลก ชาวโบราณได้อาศัยเรืออาร์โกนี้ในการอพยพครอบครัวและสัตว์ทำให้อยู่รอดจากน้ำท่วมครั้งนี้มาได้ (ขอบคุณ th-th.facebook.com แกะกล่องดวงดาว)
ดวงดาวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ดาวคาโนปัส (Canopus) เป็นดาวฤกษ์ในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ เป็นดาวที่มีความสว่างปรากฏเป็นอันดับ 2 รองจากดาวซีรีอุสหรือดาวโจร อยู่ห่างจากโลก 312.73 ปีแสง (ขอบคุณภาพจาก
https://th.wikipedia.org)
วี 382 กระดูกงูเรือ ( V382 Carinae) เป็นดาวแปรแสงในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ
วี 382 กระดูกงูเรือเป็นดาวไฮเปอร์ไจแอนท์สีเหลืองสเปกตรัมจี มีความส่องสว่างปรากฏ +3.93 ดาวดวงนี้อยู่ 5930.90 ปีแสง จากโลกของเรา มันถูกจัดประเภทเป็นดาวแปรแสงชนิดเซเฟอิดและความส่องสว่างปรากฏของแปรผันระหว่าง +3.84 ถึง +4.02 และใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ถึง 747 เท่า
(Cr.
https://th.wikipedia.org/wiki/วี_382_กระดูกงูเรือ)
Eta Carinae กลุ่มดาวที่เคยมีดาวฤกษ์ทีสว่างที่สุดเป็นอันดับสองบนท้องฟ้า
อีตากระดูกงูเรือ (Eta Carinae) เป็นระบบดาว ในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือกลุ่มดาวในซีกฟ้าใต้ อีตากระดูกงูเรือตั้งอยู่ห่างจากโลกออกไปราว 7,500 ถึง 8,000 ปีแสง ภายในกลุ่มดาวนี้มีดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ซึ่งมันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 100 เท่า
(Cr.
https://th-th.facebook.com/myscitv/photos/a.468678016122/10152530747806123/?type=3&comment_tracking=%7B%22tn%22%3A%22O%22%7D)
(ขอบคุณภาพจาก
http://thai-snake.blogspot.com/2015/11/snake.html)
แม้ “งู” จะเป็นสัตว์ที่มีพิษร้าย แต่ตามความเชื่อของหลายประเทศ “งู” เป็นตัวแทนของโชคดี และความศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยกรีกโบราณ งูถือเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจลี้ลับ สติปัญญา และความสมบูรณ์ ส่วนชาวจีนมองว่า “งู” เป็นอสรพิษร้าย พอๆกับที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล และโชคดี ในอียิปต์โบราณ “งู” เป็นเทพพิทักษ์ของกษัตริย์ที่น่าเกรงขาม โดยฟาโรห์ประดับมงกุฎด้วยรูปงูจงอางเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ สำหรับยุโรปสมัยโบราณยกให้ “งู” เป็นตัวแทนของความรักและความสุขสม (Cr.
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/327432)
Cr.
https://sites.google.com/a/rpg15.ac.th/modmod/klum-daw-khn-baek-ngu-pheim-teim
Cr.
https://www.blockdit.com/posts/5cfafa307bef2b1e00c134cd
ขอบคุณภาพจาก
https://soscity.co/space/galaxy-of-snake/
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด
เหล่าดาว(งู)ร้ายในจักรวาล
เป็นหนึ่งในกลุ่มดาว 48 กลุ่มในรายการของทอเลมี และยังเป็นกลุ่มดาวในรายชื่อกลุ่มดาวสมัยใหม่ 88 กลุ่มที่รับรองโดยสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล กลุ่มดาวนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือ หัวงู (Serpens Caput) ที่อยู่ทางตะวันออก กับหางงู (Serpens Cauda) ที่อยู่ทางตะวันตก คั่นตรงกลางด้วยกลุ่มดาวคนแบกงู
โดยกลุ่มดาวคนแบกงู แทรกไปในกึ่งกลางระหว่าง กลุ่มดาวแมงป่องและกลุ่มดาวคนยิงธนู กลุ่มดาวคนแบกงูแทนด้วยชายคนหนึ่งกำลังอุ้มงูไว้ ทำให้แยกกลุ่มดาวงูออกเป็นสองส่วน คือ หัวกับหาง (แต่นับเป็นกลุ่มดาวเดียวกัน)
ตามตำนานกรีกเล่าว่า กลุ่มดาวนี้คือตัวแทนของแพทย์อัจฉริยะชาวกรีกนามว่า แอสคลีปิอุส (Asclepius) ซึ่งวันหนึ่งเขาได้ล่วงรู้ความลับการทำให้ชีวิตเป็นอมตะจากการสังเกตุสมุนไพรที่งูนำมากินเป็นประจำ เมื่อมหาเทพซุสได้รู้เข้า จึงทำการสังหาร แอสครีปิอุส ทันที เพื่อไม่ให้ความลับของสวรรค์รั่วไหลและเพื่อรักษาสมดุลของโลกมนุษย์ไว้ จากนั้นซุสจึงนำดวงวิญญาณของ แอสครีปิอุส ไปประดับเป็นกลุ่มดาวคนแบกงูบนท้องฟ้า เพื่อไว้อาลัยและระลึกถึงเขา
กลุ่มดาวคนแบกงู (Ophiuchus)
เป็น 1 ในกลุ่มดาวทั้งหมด 88 กลุ่ม และเป็น 1 ในกลุ่มดาวจักรราศีลำดับที่ 13 เนื่องจากมีขาข้างหนึ่งแทรกไปในกึ่งกลางระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับกลุ่มดาวคนยิงธนู
กลุ่มดาวคนแบกงูแทนด้วยชายคนหนึ่งกำลังอุ้มงูไว้ ทำให้แยกกลุ่มดาวงูออกเป็นสองส่วน คือ หัวกับหาง โดยกลุ่มดาวจักรราศี (Zodiac) คือ เป็นกลุ่มดาวที่ปรากฏบนแถบสมมติ (ที่สังเกตจากโลก) ที่ดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนผ่านในรอบ 1 ปี เรียกว่า สุริยวิถี
ทั้งนี้ ด้วยระยะเวลาที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ผ่านน้อย และไม่ได้เคลื่อนที่ผ่านจุดตรงกลางของกลุ่มดาว อีกทั้งความง่ายต่อการคำนวณเวลาปฏิทิน นักดาราศาสตร์จึงไม่ระบุกลุ่มดาวดังกล่าวลงไป หากกำหนดจักรราศีใหม่ให้สัมพันธ์กับกลุ่มดาวบนท้องฟ้า จะต้องเพิ่มราศี “คนแบกงู” (Ophiuchus) ที่เคยเลิกใช้ไปเมื่อ 3,000 ปีก่อน กลับเข้ามาอยู่ในจักรราศีอีกครั้ง ช่วงเวลาของแต่ละจักรราศีก็จะต้องถูกกำหนดใหม่
กลุ่มดาวคนแบกงู เป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่ประมาณ 25 ดวง ซึ่งจะปรากฏอยู่บนท้องฟ้าในช่วงฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม คนไทยสามารถมองเห็นกลุ่มดาวคนแบกงู แต่ต้องใช้ความชำนาญในการดูดาวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่มีแสงสว่างค่อนข้างเล็ก อาจจะยากสำหรับการมองเห็น. (Cr.https://www.thairath.co.th/content/729944)
กลุ่มดาวงูไฮดรา (Hydra)
(Hydra, Alexander Jamieson's Celestial Atlas (1822) กลุ่มดาว Noctua หรือนกฮูกตรงหางไฮดร้า ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว
Credit: US Naval Observatory Library)
กลุ่มดาวงูไฮดรา เป็นกลุ่มดาวที่มีขนาดของพื้นที่ใหญ่ที่สุดบนท้องฟ้า มีความกว้างกว่า 100 องศา เป็นกลุ่มดาวที่ดาวฤกษ์ไม่สว่างมากนัก ยากแก่การมองให้เป็นรูปงูไฮดรา ยกเว้น ดาว Alphard ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ ที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวและมีดาว 6 ดวง ที่เรียงกัน เป็นรูปส่วนหัวของงู อยู่ทางทิศตะวันออกของดาวโพรซิออน กลุ่มดาวงูไฮดราจะมองเห็นได้ดีที่สุดในเวลา 21.00 น. ของเดือนเมษายน
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อพอลโล่จะจัดงานเลี้ยงถวายจูปีเตอร์ จึงสั่งอีกาไปตักน้ำใส่ถ้วยมาเตรียมไว้ ระหว่างทางอีกาพบต้นฟิก(มะเดื่อฝรั่ง) ติดลูกเต็มต้น รู้สึกอยากกินจึงรอจนกระทั่งลูกฟิกสุก เมื่อกินจนอิ่มสบายใจก็ระลึกถึงงานที่อพอลโล่สั่ง ด้วยความกลัวที่กลับไปช้า คิดอุบายเลยจับงูไปด้วย
เมื่อกลับไปถึง อีกาทูลต่ออพอลโล่ว่า “ข้าถูกงูตัวนี้คอยทำร้ายและรบกวน ไม่ยอมให้ตักน้ำมาถวายทำให้มาช้า” อพอลโล่ซึ่งทราบความจริงอยู่แล้ว ไม่ยอมรับคำโกหก และลงโทษสาบให้อีกาไม่ได้ดื่มน้ำอีกเลยจนกว่าลูกฟิกจะสุก
หลังจากนั้นก็ส่งงูไปเป็นกลุ่มดาวไฮดรา อีกาไปเป็นกลุ่มดาวคอร์วัส ถ้วยน้ำไปเป็นกลุ่มดาวเครเตอร์ ให้ทั้งหมดอยู่เคียงข้างกันไว้เตือนความจำ และอีกาจะไม่ได้ดื่มน้ำอีกตลอดกาลเพราะมีงูไฮดร้าคอยเฝ้าถ้วยน้ำเอาไว้
ไฮดร้าเป็นกลุ่มดาวที่ยาวที่สุด และมีพื้นที่มากที่สุดบนฟ้า ยาวขนานไปกับกลุ่มดาวจักรราศี และเส้นสุริยวิถี เริ่มจากหัวงูไฮดราทางทิศใต้ของกลุ่มดาวกรกฏ เรื่อยไปยังราศีสิงห์ ราศีกันย์ ปลายหางก็ไปชนกับราศีตุลย์พอดี ความยาวของกลุ่มดาวไฮดรานั้น แม้ว่าหัวงูจะอยู่กลางฟ้า หางงูก็ยังอยู่ไม่พ้นขอบฟ้าทางตะวันออก ( Cr.https://www.siamskies.com/2019/05/blog-post.html)
ชีววิทยากับเทปกรณัม : ไฮดรา
Hydra เป็นสัตว์ในตำนานกรีก มีรูปร่างใหญ่โตคล้ายงูแต่มีหลายหัว แถมยังพ่นพิษที่แสนร้ายกาจได้ มันอาศัยอยู่ในหนองน้ำใกล้ทะเลสาป Lerna ในเมือง Argolid (ปัจจุบันคือเมือง Argos ในประเทศ Greece) ซึ่งเชื่อว่าหนองน้ำที่มันอาศัยอยู่ เป็นทางลงสู่โลกแห่งความตาย ที่ปกครองโดย Haides
โดยในตำนานกล่าวว่า แม้ว่าหัวของมันจะถูกตัดขาดไป ก็จะมีหัวอันใหม่งอกทดแทนขึ้นมา แต่เฮอร์คิวลิสสามารถฆ่าได้
ไฮดรา สัตว์ชั้นต่ำ หลายเซลล์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate animal)
ไฮดราเป็นพวกเดียวกับแมงกระพรุน ดอกไม้ทะเล และปะการัง สาเหตุที่จัดไฮดรา ไว้ในไฟลัม Cnidaria เพราะไฮดรามีเซลล์ที่มีชื่อว่า Cnidoblast หรือ sting cell ซึ่งเซลล์นี้จะสร้าง nematocyst พบได้ทั่วไปตามผิวหนังชั้นนอกและพบมากที่บริเวณหนวด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตมาก ช่วยจับเหยื่อเป็นอาหารและป้องกันตัว โดยเซลล์นี้จะปล่อยสารพิษ พร้อมกับปล่อย nematocyst ออกไป พิษนี้จะทำให้ศัตรูเกิดอาการอ่อนเปลี้ย และเป็นอัมพาต
(ขอบคุณภาพจาก http://manage.brr.ac.th/)
กลุ่มดาวงูไฮดรัส
(ขอบคุณภาพจาก soscity.co/)
กลุ่มดาวงูไฮดรัส เป็นกลุ่มดาวขนาดเล็กในซีกฟ้าใต้ ปรากฏในแผนที่ดาว ยูรานอเมเทรีย (Uranometria) ของโยฮันน์ บาเยอร์ เมื่อปี ค.ศ. 1603 ชื่อคล้ายกับกลุ่มดาวงูไฮดรา (https://sites.google.com/site/onlyone00web/klum-da-wnguhi-dras)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ Carina
(ขอบคุณภาพจาก soscity.co/)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ เป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าใต้ที่อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวเรืออาร์โก วัตถุท้องฟ้าเด่น คือ ดาวคาโนปัส ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในท้องฟ้ายามค่ำคืน และดาวอีตากระดูกงูเรือ ดาวที่มีมวลสูง อยู่ ณ ใจกลางเนบิวลากระดูกงูเรือ (เอ็นจีซี 3372) อยู่ห่างจากโลก 1,200 ปีแสง
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ (Carina) เป็นกลุ่มดาวขนาดใหญ่โดดเด่นที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน (สามารถสังเกตเห็นกลุ่มดาวได้ทั้งกลุ่ม) ในบริเวณซีกฟ้าใต้ ประเทศไทยเองก็สามารถสังเกตเห็นบางบริเวณของกลุ่มดาวนี้ได้ โดยหันหน้าไปทางทิศใต้เราจะสังเกตเห็นดาวฤกษ์สว่างดวงหนึ่งชื่อว่า ดาวคาโนปุส (Canopus) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของโปรซิออน (Procyon) และดาวซิริอุส (Sirius)
กลุ่มดาวกระดูกงูเรือในอดีตเคยนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่มดาวเรืออาร์โก (Argo Navis) ซึ่งเคยเป็นกลุ่มดาวที่ใหญ่ที่สุดบนท้องฟ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักดาราศาสตร์สมัยใหม่ได้คิดที่จะแบ่งมันออกเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อไม่ให้กลุ่มดาวนี้กินพื้นที่บนท้องฟ้ามากเกินไป สุดท้ายได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มดาว ประกอบด้วย กลุ่มดาวเข็มทิศ (Pyxis), กลุ่มดาวท้ายเรือ (Puppis), กลุ่มดาวใบเรือ (Vela), และ กลุ่มดาวกระดูกงูเรือ (Carina) นั่นเอง เรืออาร์โกนี้มีตำแหน่งอยู่ใต้กลุ่มดาวไฮดรา
มีตำนานของเรืออาร์โก ซึ่งเป็นตำนานของชาวบาบิโลเนียนว่า เรืออาร์โกนี้ถูกนับถือว่าเป็นเรือที่ยิ่งใหญ่มาก เกี่ยงข้องกับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก เมื่อพระเจ้าตัดสินใจล้างโลกโดยใช้น้ำ นั่นคือทำให้น้ำท่วมโลก ชาวโบราณได้อาศัยเรืออาร์โกนี้ในการอพยพครอบครัวและสัตว์ทำให้อยู่รอดจากน้ำท่วมครั้งนี้มาได้ (ขอบคุณ th-th.facebook.com แกะกล่องดวงดาว)
ดวงดาวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ดาวคาโนปัส (Canopus) เป็นดาวฤกษ์ในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ เป็นดาวที่มีความสว่างปรากฏเป็นอันดับ 2 รองจากดาวซีรีอุสหรือดาวโจร อยู่ห่างจากโลก 312.73 ปีแสง (ขอบคุณภาพจาก https://th.wikipedia.org)
วี 382 กระดูกงูเรือ ( V382 Carinae) เป็นดาวแปรแสงในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ
วี 382 กระดูกงูเรือเป็นดาวไฮเปอร์ไจแอนท์สีเหลืองสเปกตรัมจี มีความส่องสว่างปรากฏ +3.93 ดาวดวงนี้อยู่ 5930.90 ปีแสง จากโลกของเรา มันถูกจัดประเภทเป็นดาวแปรแสงชนิดเซเฟอิดและความส่องสว่างปรากฏของแปรผันระหว่าง +3.84 ถึง +4.02 และใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ถึง 747 เท่า
(Cr.https://th.wikipedia.org/wiki/วี_382_กระดูกงูเรือ)
Eta Carinae กลุ่มดาวที่เคยมีดาวฤกษ์ทีสว่างที่สุดเป็นอันดับสองบนท้องฟ้า
อีตากระดูกงูเรือ (Eta Carinae) เป็นระบบดาว ในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือกลุ่มดาวในซีกฟ้าใต้ อีตากระดูกงูเรือตั้งอยู่ห่างจากโลกออกไปราว 7,500 ถึง 8,000 ปีแสง ภายในกลุ่มดาวนี้มีดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ซึ่งมันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ประมาณ 100 เท่า
(Cr.https://th-th.facebook.com/myscitv/photos/a.468678016122/10152530747806123/?type=3&comment_tracking=%7B%22tn%22%3A%22O%22%7D)
(ขอบคุณภาพจาก http://thai-snake.blogspot.com/2015/11/snake.html)
แม้ “งู” จะเป็นสัตว์ที่มีพิษร้าย แต่ตามความเชื่อของหลายประเทศ “งู” เป็นตัวแทนของโชคดี และความศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยกรีกโบราณ งูถือเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจลี้ลับ สติปัญญา และความสมบูรณ์ ส่วนชาวจีนมองว่า “งู” เป็นอสรพิษร้าย พอๆกับที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล และโชคดี ในอียิปต์โบราณ “งู” เป็นเทพพิทักษ์ของกษัตริย์ที่น่าเกรงขาม โดยฟาโรห์ประดับมงกุฎด้วยรูปงูจงอางเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ สำหรับยุโรปสมัยโบราณยกให้ “งู” เป็นตัวแทนของความรักและความสุขสม (Cr.https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/fashion/327432)
Cr.https://sites.google.com/a/rpg15.ac.th/modmod/klum-daw-khn-baek-ngu-pheim-teim
Cr.https://www.blockdit.com/posts/5cfafa307bef2b1e00c134cd
ขอบคุณภาพจาก https://soscity.co/space/galaxy-of-snake/
ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด