เปล่าเป็นมุสลิม ! บิ๊กตู่โต้แทนอาจารย์น้อง ขอร้องว่า อย่าเชื่อ เฟกส์นิวส์

อา..แบบว่า จะว่าอะไรบิ๊กตู่ก็ว่าไป ไม่ถือสา แต่ถ้า "แตะอาจารย์น้อง"เมื่อไหร่ เป็นได้เรื่อง เรื่องของเรื่องก็คือ บิ๊กตู่เป็นคนรักเมีย เกรงใจเมีย แต่คงไม่ถึงกับกลัวเมียเหมือนนายพลคนอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าเห็นใจบิ๊กตู่ เพราะในฐานะ "นายกรัฐมนตรี" ซึ่งนอกจากจะมีหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ในฐานะที่ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นที่ศรัทธาของประชาชนส่วนใหญ่ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงต้องมีภาระในการ "เป็นผู้นำชาวพุทธ" อีกส่วนหนึ่งด้วย เพราะถ้าผู้นำไม่เข้าวัดเข้าวา ประชาชนก็จะห่างวัดห่างวาเช่นเดียวกัน มันสำคัญไม่ด้อยไปกว่ากัน เผลอๆ การเป็น "ผู้นำทางศาสนา" จะจารึกยาวนานกว่าตำแหน่งทางการเมืองด้วยซ้ำไป ดูแต่พระเจ้าอโศกมหาราชสิ ครองราชย์ยิ่งใหญ่ไม่มีใครจำ แต่หันมาสร้างวัด ผู้คนจดจำมานานหลายพันปี

แต่อย่างไรก็ตาม การออกมาชี้แจงข่าวลวงในวันนี้ของบิ๊กตู่นั้น ดูเหมือนจะตรงใจใครหลายคน แต่ถามว่า เป็นนายกมานานตั้งหลายปี ทำไมเพิ่งจะมาพูดในวันนี้ ทำไมไม่พูดตั้งแต่วันแรกที่ได้ยินข่าว (เพราะเราก็ได้ยินมานานหลายปีแล้ว) การนิ่งเฉยปล่อยเลยตามเลยนี่แหละ ที่จะทำให้ "ข่าวลวง" กลายเป็น "ข่าวลือ" และผู้คนจะเชื่อถือ เพราะไม่แก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์ 

ถ้าคนเป็นถึง "นายกรัฐมนตรี" ยังไม่มีความฉับไวในการแก้ไขสถานการณ์ ปล่อยให้ลุกลามไปถึงลูกเมียและครอบครัว ถามว่า แล้วจะไปดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้อย่างไรให้ทั่วถึง เพราะแค่ดูแลครอบครัวตัวเองก็แย่อยู่แล้ว
 
ปล. ภาพอาจารย์น้อง ออกงานทำบุญคู่กับบิ๊กตู่อยู่บ่อยๆ ถ้าอาจารย์น้องเป็นมุสลิมจริง ป่านนี้พวกมุสลิมคงโวยลั่นโลกไปแล้ว เผลอๆ ถูกไล่ออกจากศาสนาอิสลามด้วย ส่วนชาวพุทธนั้น ควรจะภูมิใจด้วยซ้ำ แบบว่า ถ้าชาวมุสลิมหันมาเข้าวัดเข้าวาทำบุญเหมือนอาจารย์น้อง ก็อยากจะให้มุสลิมเข้าวัดกันทั้งประเทศเลย จะไปค่อนแคะกันทำไม เผลอๆ พวกที่อ้างๆ ตัวเองว่าเป็นพุทธน่ะ จะเข้าวัดทำบุญน้อยกว่าอาจารย์น้องด้วยซ้ำ พวกนั้นมันพุทธประเภท "ดีแต่พูด"

http://www.alittlebuddha.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่