สวัสดีปีหนูทอง 2563 ค่ะทุกคน เริ่มต้นศักราชด้วยการรีวิวร้านต่างๆที่เดี๊ยนคนดีคนเดิมไปรับประทานมาเมื่อช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่
นั่นก็คือร้าน “ชีวิตชีวา” ต้องบอกก่อนเลยว่าร้านนี้เป็นร้านสำหรับสายหวานโดยเฉพาะ ขึ้นชื่อเรื่องบิงซูที่สุด เมนู Signature ของทางร้านได้แก่ "บิงซูบัวลอยไข่เค็ม" และอีกหนึ่งเมนูที่เดี๊ยนประทับใจที่สุดเลยคือ "บิงซูลอดช่องอินทนิล" ซึ่งเดี๊ยนมาใช้บริการร้านนี้ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ ลองมาก็หลายเมนูมันละมุนเหลือเกินจนต้องมารีวิวให้ชมกัน

ร้านชีวิตชีวาเปิดมานานกว่า 5 ปี มีทั้งหมด 15 สาขา
สาขาเชียงใหม่
📍ศิริมังคลาจารย์ ซอย7
📍โครงการนิ่ม ซิตี้เดลี่
📍โครงการสตาร์ อเวนิว อาเขต
สาขากรุงเทพ
📍สยามสแควร์ วัน ชั้น 1
📍โครงการเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์
📍เมกะบางนา ชั้น 2
📍เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 4
📍เซ็นทรัลเวสท์เกต ชั้น 3
📍เซ็นทรัลพระรามเก้า ชั้นG
📍เซ็นทรัลอีสต์วิลล์
📍แฟชั่น ไอร์แลนด์ ชั้น 3
📍โครงการดาดฟ้า ลาซาล สุขุมวิท105
📍สยามพารากอน ชั้น G
พิษณุโลก
📍ชีวิตชีวา พิษณุโลก
📍Cheevit Cheeva Taipei 

สาขาที่เดี๊ยนมาเลือกใช้บริการในวันนี้คือ Central Eastville เลียบทางด่วยเอกมัย-รามอินทรา ตัวร้านตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างสุดติดกับที่เล่นทรายของเด็ก ที่ชอบมาสาขานี้เพราะไม่ต้องรอคิว ภายในร้านก็ตกแต่งสไตล์สวนดอกไม้ให้ความรู้สึกน่ารักและอบอุ่น เราสามารถเลือกที่นั่งแล้วเดินไปสั่งขนมที่เคาท์เตอร์ได้เลย เมื่อไปถึงหน้าเคาท์เตอร์จะมีเมนูวางไว้ให้เราเลือกดูว่าจะสั่งอะไรมีทั้งเมนูบิงซู เค้ก เครื่องดื่มให้เลือกหลายอย่าง แล้วพนักงานจะถามว่าเรานั่งโต๊ะเลขที่เท่าไหร่ สั่งเสร็จก็ชำระเงินแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยจ้า มีจุดบริการน้ำเปล่าฟรีอยู่ใกล้ๆบริเวณเคาท์เตอร์คิดเงิน 

เมนูที่เดี๊ยนสั่งมาในครั้งนี้ก็คือ 2 ตัวเอกหลักที่เดี๊ยนกล่าวไปแล้ว คือ
1. บิงซูบัวลอยไข่เค็ม ราคา 245.-
ใน 1 เซ็ตจะประกอบไปด้วยตัวบิงซูที่โปะหน้าด้วยบัวลอยจำนวนหนึ่ง และมีบัวลอยเปล่าแยกถ้วยเล็กๆมาอีก 1 ถ้วย พร้อมด้วยกะทิและซอสไข่เค็ม
วิธีการกินของเดี๊ยนคือ เททุกอย่างลงไปในถ้วยให้หมดแล้วกินได้เลยจ่ะ ไม่ต้องเรื่องเยอะ 5555555
รสสัมผัสของบิงซูถ้วยนี้คือ มีความเค็มมันของกะทิและซอสไข่เค็ม ตัวบัวลอยหนึบหนับดีแต่ถ้าทิ้งไว้นานจะแข็งเพราะความเย็นของตัวบิงซูเพราะฉะนั้นถ้าใครจะค่อยๆตักแบ่งตัวบัวลอยใส่ชามบิงซูก็สามารถทำได้ค่ะ



2. บิงซูลอดช่องอินทนิล ราคา 235.-
ส่วนในเซ็ตของบิงซูลอดช่องอินทนิลก็จะประกอบด้วย บิงซูที่โปะหน้าด้วยลอดช่องอินทนิลจำนวนหนึ่ง และมีลอดช่องเปล่าแยกถ้วยเล็กๆมาอีก 1 ถ้วย อัลมอนด์สไลด์ 1 ถ้วย พร้อมด้วยน้ำกะทิและน้ำตาลกวน
และเช่นเดิมค่ะวิธีการกินของเดี๊ยนคือ เททุกอย่างลงไปในถ้วยให้หมดแล้วกินได้เลยจ่ะ 
รสสัมผัสแรกของบิงซูถ้วยนี้คือ หอมน้ำตาลกวนกับกะทิมากกกกก พอเทลงไปในบิงซูแล้วเข้ากั๊นเข้ากัน ไม่หวานจนเกินไปลงตัวมาก เป็นบิงซูที่กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆค่ะ ดีแบบไม่รู้จะดียังไงยกให้เป็น 1 ในดวงใจสำหรับบิงซูทั้งหมดของร้านนี้เลย


โดยรวมแล้วเดี๊ยนชอบตัวบิงซูลอดช่องอินทนิลมากกว่าบิงซูบัวลอยไข่เค็มเพราะมีความหอมละมุนไม่หวานมากและลงตัวที่สุด
สำหรับใครที่คิดอย่างจะลองร้านนี้แล้วแนะนำให้สั่ง บิงซูลอดช่องอินทนิล รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ