▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
เที่ยวเชิงเกษตร
โฮมสเตย์
Slow Life
บันทึกนักเดินทาง
[SR] หลีกหนีความวุ่นวาย ไปใช้ชีวิตช้าๆ ที่บ้าน ว้าวด้า โฮมสเตย์ อำเภอแม่แตง จ. เชียงใหม่
หลีกหนีความวุ่นวาย ไปใช้ชีวิตช้าๆ สัมผัสธรรมชาติ ป่าเขา ที่บ้าน ว้าวด้า โฮมสเตย์ อำเภอแม่แตง จ. เชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวที่นิยมมาพักผ่อน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว มาสัมผัสอากาศเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ปล่อยใจไปกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่หาไม่ได้ในเมืองหลวง บ้านว้าวด้า โฮมสเตย์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบ หรืออยากอยากแยกตัวมาเที่ยวโซนใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิมๆ ทำเลของที่พักตั้งอยู่บนเนินเขา ในหมู่บ้านผาปู่จอม อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านที่เงียบสงบ ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ประกอบอาชีพหลักคือ ทำไร่ ทำสวน จะเห็นได้ว่าระหว่างทางในหมู่บ้านจะมีไร่กะหล่ำอยู่สองข้างทาง นอกจากนี้ยังมีสวนส้ม ซึ่งใครมาพักที่บ้านว้าวด้า เค้าจะมีกิจกรรมให้ทำคือ เก็บส้มสดๆจากไร่ ด้วยค่ะ
สำหรับบ้านพักของ บ้านว้าวด้า โฮมสเตย์ จะมีทั้งหมด 3 แบบ คือ
แบบที่ 1 บ้านชมวิว ( แอร์ และทีวี ) จำนวน 4 หลัง
เดือนมีนาคม - ตุลาคม ราคา 1,200 บาท
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ราคา 1,500 บาท
พักได้ 2 ท่าน ( สำหรับเตียงเสริม เพิ่ม 300 บาท )
แบบที่ 2 เต็นท์กระโจม VIP ( แอร์ ) จำนวน 8 หลัง
เดือนมีนาคม - ตุลาคม ราคา 1,000 บาท
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ราคา 1,200 บาท
พักได้ 2 ท่าน ( สำหรับเตียงเสริม เพิ่ม 300 บาท )
แบบที่ 3 บ้านริมธาร (พัดลม) จำนวน 1 หลัง
เดือนมีนาคม - ตุลาคม ราคา 1,000 บาท
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ราคา 1,200 บาท
พักได้ 2 ท่าน ( สำหรับเตียงเสริม เพิ่ม 300 บาท )
มาดูแบบแรกกันค่ะ บ้านชมวิว เป็นทรงสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติมีไม้ไผ่เป็นหลัก ด้านหน้าบ้านมีระเบียงสำหรับนั่งเล่นชมวิว บ้านทุกหลังหันหน้าเห็นวิวธรรมชาติมองเห็นภูเขา และแสงช่วงพระอาทิตย์ตกดินสวยงามมากเลยค่ะ
ภายในห้องตกแต่งด้วยผนังปูนเปลือย มีที่นอนขนาด 5 ฟุต และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งแอร์ ทีวี พัดลม และในห้องน้ำยังมีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สด้วยค่ะ อากาศหนาวๆ ก็เอาอยู่ค่ะ
มาต่อกันที่แบบที่สอง เต็นท์กระโจม VIP ซึ่งจะมีแอร์ให้ทุกหลัง โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน ด้านบนและด้านล่าง หันหน้าหาวิวธรรมชาติทั้ง 2 โซนค่ะ ด้านหน้าเต็นท์มีระเบียงนั่งชมวิว หรือจะปิ้งย่างหมูกระทะก็ได้ค่ะ
ภายในเต็นท์มีที่นอนขนาด 5 ฟุต เต็นท์มีขนาดใหญ่สามารถเสริมที่นอนเพิ่มได้ไม่อึดอัด นอกจากนี้ยังมีแอร์ พัดลม และห้องน้ำส่วนตัวแยกทุกหลัง
ภายในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สและอุปกรณ์อาบน้ำเตรียมไว้ให้พร้อม ทั้งแชมพู สบู่
แบบที่สาม บ้านริมธาร ตัวบ้านตั้งอยู่กลางป่า ต้องเดินลงไปตรงทางลงน้ำตกเล็กน้อย ใครชอบความสงบ เป็นส่วนตัวแนะนำหลังนี้เลยค่ะ ตัวบ้านพักเป็นเต็นท์กระโจม ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ล้อมรอบ สร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติ บ้านริมธารจะไม่มีแอร์ เป็นพัดลม แต่เนื่องจากอยู่ท่ามกลางป่าไม้ อากาศจึงเย็นสบายไม่ร้อนค่ะ
ภายในเต็นท์บ้านริมธาร มีที่นอน 5 ฟุต พร้อมมุ้งแขวนสำหรับกันยุงและแมลงเนื่องจากตั้งอยู่กลางป่า มีมุมระเบียงส่วนตัว พร้อมเก้าอี้เปล สำหรับนั่งชมวิวพร้อมฟังเสียงน้ำตกมองต้นไม้เขียวๆ ก็สบายตาไปอีกแบบ
ตัวห้องน้ำจะอยู่ชั้นล่างของบ้าน ในห้องน้ำเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวต้นไม้เขียว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส แชมพู และ ครีมอาบน้ำเตรียมไว้ให้พร้อม
เดินลงมาจากบ้านริมธารอีกนิด จะมีน้ำตกเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีที่นั่งไม้ไผ่ไว้สำหรับนั่งชิล บรรยากาศร่มรื่นและเย็นสบาย เสียดายช่วงที่เราไปน้ำน้อยไปนิดเลยไม่สามารถเล่นน้ำได้ค่ะ
ใครที่มาพักที่บ้านว้าวด้า ไม่ต้องกลัวอดจ้า เรื่องอาหารการกินนอกจากหมูกระทะ ที่เป็นไฮไลท์สำคัญสำหรับการมาพักผ่อนบนดอยแล้ว ที่นี่เค้ายังมีอาหารอื่นๆ บริการด้วยนะ เมนูแนะนำ ก็พวก กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา ไข่พริกไทยดำ ต้มไข่พริกไทยดำ หรืออาหารตามสั่งง่ายๆ เมนูห้ามพลาดอีกอย่างที่แนะนำเลยคือ ข้าวปุกทอด เอามาจิ้มนมข้นหวาน อร่อยมากๆค่ะ
นอกจากอาหารแล้วยังมีเครื่องดื่ม อย่าง ชา กาแฟ น้ำอิตาเลี่ยนโซดาต่างๆ ไว้คอยบริการด้วย ถือเป็นคาเฟ่เล็กๆเลยทีเดียว แนะนำใครมาที่บ้านว้าวด้า ต้องลองสั่งน้ำส้มคั้นสดๆ มาทานกันดู ที่นี่เค้าใช้ส้มสดๆจากสวน หวานธรรมชาติ ไม่ต้องผสมน้ำเชื่อมเลยค่ะ เดี๋ยวช่วงเช้าเราจะพาไปเก็บส้มสดๆจากสวนกันค่ะ
มุมนั่งเล่นพักผ่อนของทางที่พัก วันที่เราไปถึงเค้าเพิ่งทำเสร็จพอดีเลย มุมนี้ร่มรื่น มีต้นไม้และมุมเปลตาข่าย และเก้าอี้ไว้นั่งเล่น นอนเล่นชิลๆ
บรรยากาศยามเย็นของที่พัก
ตกเย็น อากาศหนาวๆแบบนี้ คงไม่มีอะไรฟินไปกว่าการปิ้งย่างหมูกระทะ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า หมูกระทะของที่นี่จัดมาเป็นเซ็ต เซ็ตละ 399 บาท มีให้พร้อมทั้งเตา น้ำจิ้ม และผักสดๆ สำหรับใครที่อยากนำอาหารมาเพิ่มเองก็สามารถซื้อมาได้ค่ะ
หลังจากตะวันลาลับขอบฟ้าแล้ว ช่วงบรรยากาศยามค่ำคืนของที่นี่ก็สวยงามไปอีกแบบ ห้องพักทุกแบบเปิดไฟสว่างไสว และมีไฟเส้นประดับให้ทุกห้อง บรรยากาศสวยงาม ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ทำให้นอนหลับฝันดีเลยทีเดียว
สำหรับแขกที่มาพักที่บ้านว้าวด้า ทางที่พักมีกิจกรรมพาไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ที่ยอดเขาดอยกิ่วเป้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที โดยจะมีรถกระบะของทางที่พักพาไปโดยไม่เสียค่าบริการเพิ่มค่ะ ถ้าใครที่อยากไปชมก็ต้องตื่นแต่เช้ากันนิดนึง โดยทางที่พักจะนัดให้มาเจอตรงล็อบบี้ประมาณ 6:30 น.
วิวบนยอดดอย สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และทะเลหมอก เสียดายวันที่เราไปหมอกมาน้อยมากแทบไม่เห็นเลย แต่ก็ยังโชคดีได้แสงอาทิตย์สวยๆทดแทนกันได้อยู่ค่ะ
บนนี้จะมีไร่กะหล่ำของชาวบ้านปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก มองเห็นเป็นเนินสีเขียวสวยงามมากเลย สามารถลองเก็บกะหล่ำ หรือถ่ายรูปกับไร่กะหล่ำกันได้เลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้