วันที่ 29 ธันวาคม 2019
ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้โทรศัพท์ขอบคุณคู่แข่ง
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald Trump
ที่ได้ส่งมอบข้อมูลลับพิเศษที่มีประโยชน์ร่วมกันอย่างยิ่ง
ช่วยป้องกันรัสเซียจากการก่อการร้ายได้สำเร็จ
สำนักข่าว Kremlin ได้รายงานว่า
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งสองคนได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์

ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจซึ่งกันและกัน
ทั้งคู่ตกลงที่จะร่วมมือกันในระดับทวิภาคีต่อไป เพื่อตอบโต้การก่อการร้าย
โดยรัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนในการสนทนา
เพราะรัสเซียตกอยู่ในสภาวะการณ์อันตราย
จากการต่อต้าน Abu Bakr al-Baghdadi
ผู้นำองค์กรก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ผิดกฎหมายในรัสเซีย) 
ที่ต่อมากลุ่ม ISIS ประกาศว่าตายแล้ว
จากผลงานโจมตีของสหรัฐอเมริกา
ที่รัสเซียชี้เป้าหมายให้/กับอนุญาตให้เข้าไปในเขตควบคุมของรัสเซีย
มีการใช้หน่วยซีล โดรน และเฮลิคอปเตอร์ร่วมกันทำการโจมตี
จนกระทั่งผู้นำก่อการร้ายฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกอีก 2 คน
โดยใช้ระเบิดเสื้อกั๊กฆ่าตัวตายขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์/หลุมหลบภัย
เพราะหลบหนีอย่างไรก็ไปไม่รอดแล้ว(ไปจนมุมในทางตัน)
และกลัวการถูกจับเป็นเพราะอาจจะถูกจับไปซ้อม/ทรมานรีดเร้นความลับ
กลุ่มไอเอสแต่งตั้งผู้นำคนใหม่แล้ว หลัง อาบู บักร์ อัล-บักดาดี เสียชีวิต
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ประธานาธิบดี Trump ได้กล่าวขอบคุณรัสเซียที่ให้ความช่วยเหลือในยุทธการที่นั่น
และสหรัฐอเมริกายังได้เตือนรัสเซีย  เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะมีทีมผู้ก่อการร้าย
พวกที่ผ่านการสู้รบในภูมิภาคของซีเรียที่ถูกควบคุมโดยรัสเซีย
 

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา
Alexander Bortnikov ผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย
Russian Federal Security Service's (FSB) Public Relations Center ได้กล่าวว่า
สหรัฐอเมริกาได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลจำนวนหนึ่ง
ที่วางแผนก่อการร้ายด้วยการโจมตีในที่สาธารณะ
เพื่อที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับพลเมืองในรัสเซีย
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาได้ให้ข้อมูลดังกล่าว

ในปี 2017
สหรัฐอเมริกาได้ช่วยรัสเซียในการสืบสวนเรื่องการวางแผน
การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในวิหาร Kazan Cathedral ที่ St. Petersburg
ขณะเดียวกับที่รัสเซียได้ช่วยสหรัฐอเมริกาสืบสวนเรื่องการระเบิดที่ Boston Marathon
รัสเซียยังคงร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายกับหน่วยข่าวกรองของประเทศอื่น ๆ เช่นกัน
ทั้งนี้ตามมติ UNSCR1373 ที่ชาติมหาอำนาจทั้ง 5 ได้ลงนามร่วมกัน
โดยทุกชาติที่ลงนามในมตินี้ต้องแบ่งปันข้อมูลการก่อการร้ายระหว่างกัน
หรือภัยใด ๆ ที่เป็นอันตรายต่อทุกชาติที่ลงนามไว้

Tina Jagerson โฆษก FBI ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้
โดยบอกว่าให้ไปติดต่อทำเนียบขาว  White House เอง

Russian Federal Security Service's (FSB) Public Relations Center
ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา
ทางการได้ควบคุมพลเรือนชาวรัสเซียจำนวน 2 คน
ตามกฎหมายความมั่นคงภายในของรัสเซีย
ที่ต้องสงสัยว่าจะวางแผนก่อการร้ายใน St. Petersburg ช่วงวันหยุดปีใหม่

.
Dmitry Peskov โฆษกรัฐบาลรัสเซียได้กล่าวยืนยันเรื่องนี้ว่า
สหรัฐอเมริกาได้แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองเรื่องนี้
ทางช่องทางที่ส่งถึงประธานาธิบดีรัสเซียไดยตรง
ซึ่งเป็นการติดต่อที่มีประสิทธิภาพมาก
ทำให้หลักฐานในการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้แน่นหนามาก
.
ประนาธิบดี Donald Trump ได้ระบุว่า
ความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง
ระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซีย
ขอบคุณข่าวกรองลับที่ช่วยให้รัสเซียป้องกัน
การก่อการรายที่จะลงมือในรัสเซีย

" ประธานาธิบดี Putin ของรัสเซีย
ได้โทรศัพท์มาขอบคุณผมและสหรัฐอเมริกา
ที่ได้ส่งมอบข้อมูลแผนการก่อการร้าย
โดยมีเป้าหมายโจมตีมหานคร Saint Petersburg ที่สวยงามหลายแห่ง
ทำให้รัสเซียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้หลายชีวิตในรัสเซียปลอดภัย
นี่คือ ความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง "
Trump เขียนใน Twitter  http://bit.ly/2rLNlZB
.

---