ย้อนสถิติผลงานการคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของ "เดวิด มอยส์" ก่อนจะมีประกาศปลดออกจากเก้าอี้กุนซือ
นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ อดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตันเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม ด้วยการสนับสนุนจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตนายใหญ่ ผีแดง
ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา "มอยส์" ได้สร้างสถิติหลายประการที่ทำให้กองทัพเรดอาร์มีทั่วโลกต้องอยู่ในอาการอึ้งกันทั่วหน้า และด้วยสถิติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการประกาศปลดกุนซือชาวสกอตต์ออกจากถิ่น โอลด์แทรฟเฟิร์ด
ผลงาน เดวิด มอยส์ ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
17 ส.ค. 2556 "ปีศาจแดง" เปิดสนามด้วยการบุกชนะ สวอนซี ถึงเวลส์ 4-1 พร้อมทะยานเป็นจ่าฝูง ค่ำคืนวันนั้นเหล่า "เรด เดวิลส์" เริงร่าพร้อมซูฮก เดวิด มอย
ส์ คือคนที่ใช่
1 ก.ย. 2556 ความเจ็บปวดครั้งแรกในซีซันบังเกิดขึ้นเกมที่ 3 เมื่อ "ปีศาจแดง" ยกพลไปพ่าย ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ในเกมแดงเดือด 0-1 โชคดีที่ครึ่งหลังพับสนามบุกใส่ "หงส์แดง" สาวกหลายคนจึงทำใจยอมรับได้
22 ก.ย. 2556 กระแสต่อต้านมอยส์ เริ่มหนาหูขึ้น เนื่องจากทีมยังเมาหมัดโดนอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี เปิดเอติฮัด สเตเดียม ถล่มยับ 4-1 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการวิจารณ์รูปเกมรวมถึงกึ๋นในการเปลี่ยนตัวที่ต้องรอกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะคิดเปลี่ยนแปลง
28 ก.ย. 2556 สถิติไม่น่าจำเกิดขึ้นแล้ว !!! "ปีศาจแดง" เล่นฟอร์มดูไม่จืด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พ่าย"เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช คาถิ่นครั้งแรกในรอบ 35 ปี 1-2 นี่คือผลงานออกสตาร์ทซีซันที่แย่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
19 ต.ค. 2556 นอกจากจะถูกจวกยับถึงไอเดียในการจัดทัพแล้ว อดีตนายใหญ่เอฟเวอร์ตัน ยังพาแฟนบอลหัวเสียเป็น 2 เท่า เนื่องจากเอาแทคติกทีมเล็กมาใช้ สไตล์นำแล้วอุด สุดท้ายเอาไม่อยู่ เดยัน ลอฟเรน ไล่เจ๊าช่วงทดเวลาไปชนิดเจ็บปวด สุดๆ
26 ต.ค. 2556 เสียงเรียกร้องปลดมอยส์ออกมาเพิ่มอีกระลอก ถึงขนาดลือหนาหูว่ากลับบ้านเก่าแน่ถ้าไม่ 3 แต้ม แต่สุดท้าย ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชิชาริโต) รับบทฮีโร่เปลี่ยนตัวลงมาโหม่งประตูชัยให้แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโตก 3-2 รักษาเก้าอี้ไว้ต่อไป
24 พ.ย. 2556 หนังม้วนเดิมถูกกลับมาฉายซ้ำ เมื่อเกมรับ "ยูไนเต็ด" เหม่อทดเจ็บอีกแล้วกระทั่ง "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ตามตีเสมอ 2-2 ซึ่งหลังเกมมีองครักษ์พิทักษ์ มอยส์ ออกโรงป้องด้วยการหยิบยกว่า สถิติคุมทีม 11 นัดแรก ชนะ6 เนี่ย เหนือกว่าสมัยป๋า เฟอร์กี คุมด้วยซ้ำ แหม่ ... ช่าวคิดได้
7 ธ.ค. 2556ฉายาโรงละครแห่งอาถรรพ์เสื่อมมนต์ขลังอีกแว้วว เพราะเกมถัดมานิวคาสเซิ่ลบุกมาฝังคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 จากการทำประตูชัยของ โยอัน กาบาย ตอนนั้นแมนฯยูยังจมอันดับ 9 ตามเดิม
15 ธ.ค. 2556วงจรอุบาทกลับมาอีกจนได้ หลังพี่น้องตระกูลเกลเซอร์กำลังประเมินผล มอยส์ก็พา ปีศาจ บุกถล่ม "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลลา เละ 3-0 ยืดอายุได้อีกจ้า
19 ม.ค. 2557เป็นบิ๊กแมตช์ที่ถูกวิจารณ์ยับ เนื่องจากขุนพล "เรด เดวิลส์" นัดกันเล่นไม่ออก ก่อนถูก ซามูเอล เอโต้ โชว์การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมจนพา"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านถล่ม 3-1 ท่ามกลางเสียงโห่ไล่
1 ก.พ. 2557เดือนแห่งความรัก เป็นอะไรที่แฟนปีศาจแดงไม่อยากจดจำ เพราะเพียงวันแรกของเดือนก็ถูก "ช่างปั้นหม้อ" สโตก เล่นงาน 2-1 โดยตัวแสบได้แก่ ชาร์ลี อดัม ฮีโร่ผู้ซัดสองประตูสุดสำคัญ
16 มี.ค. 2557ป้าย “The Chosen One” อันมีความหมายว่า มอยส์ คือผู้ถูกเลือกโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานกุนซือ ถูกแฟนบอลมากมายล้อมเพื่อปลดลง หลัง "ปีศาจแดง" ถูก "หงส์แดง" บุกมาย้ำแค้นคาบ้าน 3-0 ชนิดไร้ทางสู้
25 มี.ค. 2557แฟนบอลชาวไทยแห่โพสต์เว็บไซต์ชื่อดัง "เลิกเชียร์ละ ถ้ายังไม่ปลดมอยส์ เปลืองไฟ!!!" ข้อความนี้เกิดหลังเกม ดาร์บี้แมตช์ ที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาเปิดคลีนิกสอนบอล 3-0
เข้าสู่เดือนมหาสงกรานต์สิ่งที่แฟนผีต้องการคือสาด มอยส์ ให้ไหลไปกับกระแสน้ำก็ประสบผล เพราะถึงแม้ทีมจะบุกถล่ม นิวคาสเซิล 4-0 (5 มี.ค. 2557) แต่ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นเมื่อนายใหญ่หน้าเครียด ถูกทีมเก่าอย่าง เอฟเวอร์ตัน ย้ำแค้น 2-0 ยุติเส้นทางผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย สถิติน่าอายภายใต้กุนซือมอยส์
แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยที่มีแต้มรวมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แน่นอน
นับตั้งแต่ปี 1995 นี่คือครั้งแรกที่ผีแดงชวดเตะฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
แมนฯ ยู ทำสถิติเล่นเกมลีกในบ้านย่ำแย่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ
ผีแดงแพ้ครั้งแรกให้กับ สวอนซี ในประวัติศาสตร์สโมสร
แข้ง "ปิศาจแดง" แพ้ 3 นัดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2001
แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเองครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1972
แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในบ้านตัวเอง ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1978
แพ้เอฟเวอร์ตัน ไป-กลับ ครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1969-70
เป็นครั้งแรกที่ เอฟเวอร์ตัน และลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ แมนฯ ยู ทั้งไปและกลับ ในฤดูกาลเดียวกัน
Credit : เพิ่มเติม
@ เวสต์แฮม คู่แข่งนัดตกค้างกับหงส์ ได้ผจก.ใหม่แล้ว ผลงานก็ไม่ขี้เหร่นะ
นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ อดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตันเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม ด้วยการสนับสนุนจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตนายใหญ่ ผีแดง
ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา "มอยส์" ได้สร้างสถิติหลายประการที่ทำให้กองทัพเรดอาร์มีทั่วโลกต้องอยู่ในอาการอึ้งกันทั่วหน้า และด้วยสถิติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการประกาศปลดกุนซือชาวสกอตต์ออกจากถิ่น โอลด์แทรฟเฟิร์ด
ผลงาน เดวิด มอยส์ ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
17 ส.ค. 2556 "ปีศาจแดง" เปิดสนามด้วยการบุกชนะ สวอนซี ถึงเวลส์ 4-1 พร้อมทะยานเป็นจ่าฝูง ค่ำคืนวันนั้นเหล่า "เรด เดวิลส์" เริงร่าพร้อมซูฮก เดวิด มอย
ส์ คือคนที่ใช่
1 ก.ย. 2556 ความเจ็บปวดครั้งแรกในซีซันบังเกิดขึ้นเกมที่ 3 เมื่อ "ปีศาจแดง" ยกพลไปพ่าย ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ในเกมแดงเดือด 0-1 โชคดีที่ครึ่งหลังพับสนามบุกใส่ "หงส์แดง" สาวกหลายคนจึงทำใจยอมรับได้
22 ก.ย. 2556 กระแสต่อต้านมอยส์ เริ่มหนาหูขึ้น เนื่องจากทีมยังเมาหมัดโดนอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี เปิดเอติฮัด สเตเดียม ถล่มยับ 4-1 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการวิจารณ์รูปเกมรวมถึงกึ๋นในการเปลี่ยนตัวที่ต้องรอกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะคิดเปลี่ยนแปลง
28 ก.ย. 2556 สถิติไม่น่าจำเกิดขึ้นแล้ว !!! "ปีศาจแดง" เล่นฟอร์มดูไม่จืด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พ่าย"เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช คาถิ่นครั้งแรกในรอบ 35 ปี 1-2 นี่คือผลงานออกสตาร์ทซีซันที่แย่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
19 ต.ค. 2556 นอกจากจะถูกจวกยับถึงไอเดียในการจัดทัพแล้ว อดีตนายใหญ่เอฟเวอร์ตัน ยังพาแฟนบอลหัวเสียเป็น 2 เท่า เนื่องจากเอาแทคติกทีมเล็กมาใช้ สไตล์นำแล้วอุด สุดท้ายเอาไม่อยู่ เดยัน ลอฟเรน ไล่เจ๊าช่วงทดเวลาไปชนิดเจ็บปวด สุดๆ
26 ต.ค. 2556 เสียงเรียกร้องปลดมอยส์ออกมาเพิ่มอีกระลอก ถึงขนาดลือหนาหูว่ากลับบ้านเก่าแน่ถ้าไม่ 3 แต้ม แต่สุดท้าย ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชิชาริโต) รับบทฮีโร่เปลี่ยนตัวลงมาโหม่งประตูชัยให้แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโตก 3-2 รักษาเก้าอี้ไว้ต่อไป
24 พ.ย. 2556 หนังม้วนเดิมถูกกลับมาฉายซ้ำ เมื่อเกมรับ "ยูไนเต็ด" เหม่อทดเจ็บอีกแล้วกระทั่ง "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ตามตีเสมอ 2-2 ซึ่งหลังเกมมีองครักษ์พิทักษ์ มอยส์ ออกโรงป้องด้วยการหยิบยกว่า สถิติคุมทีม 11 นัดแรก ชนะ6 เนี่ย เหนือกว่าสมัยป๋า เฟอร์กี คุมด้วยซ้ำ แหม่ ... ช่าวคิดได้
7 ธ.ค. 2556ฉายาโรงละครแห่งอาถรรพ์เสื่อมมนต์ขลังอีกแว้วว เพราะเกมถัดมานิวคาสเซิ่ลบุกมาฝังคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 จากการทำประตูชัยของ โยอัน กาบาย ตอนนั้นแมนฯยูยังจมอันดับ 9 ตามเดิม
15 ธ.ค. 2556วงจรอุบาทกลับมาอีกจนได้ หลังพี่น้องตระกูลเกลเซอร์กำลังประเมินผล มอยส์ก็พา ปีศาจ บุกถล่ม "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลลา เละ 3-0 ยืดอายุได้อีกจ้า
19 ม.ค. 2557เป็นบิ๊กแมตช์ที่ถูกวิจารณ์ยับ เนื่องจากขุนพล "เรด เดวิลส์" นัดกันเล่นไม่ออก ก่อนถูก ซามูเอล เอโต้ โชว์การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมจนพา"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านถล่ม 3-1 ท่ามกลางเสียงโห่ไล่
1 ก.พ. 2557เดือนแห่งความรัก เป็นอะไรที่แฟนปีศาจแดงไม่อยากจดจำ เพราะเพียงวันแรกของเดือนก็ถูก "ช่างปั้นหม้อ" สโตก เล่นงาน 2-1 โดยตัวแสบได้แก่ ชาร์ลี อดัม ฮีโร่ผู้ซัดสองประตูสุดสำคัญ
16 มี.ค. 2557ป้าย “The Chosen One” อันมีความหมายว่า มอยส์ คือผู้ถูกเลือกโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานกุนซือ ถูกแฟนบอลมากมายล้อมเพื่อปลดลง หลัง "ปีศาจแดง" ถูก "หงส์แดง" บุกมาย้ำแค้นคาบ้าน 3-0 ชนิดไร้ทางสู้
25 มี.ค. 2557แฟนบอลชาวไทยแห่โพสต์เว็บไซต์ชื่อดัง "เลิกเชียร์ละ ถ้ายังไม่ปลดมอยส์ เปลืองไฟ!!!" ข้อความนี้เกิดหลังเกม ดาร์บี้แมตช์ ที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาเปิดคลีนิกสอนบอล 3-0
เข้าสู่เดือนมหาสงกรานต์สิ่งที่แฟนผีต้องการคือสาด มอยส์ ให้ไหลไปกับกระแสน้ำก็ประสบผล เพราะถึงแม้ทีมจะบุกถล่ม นิวคาสเซิล 4-0 (5 มี.ค. 2557) แต่ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นเมื่อนายใหญ่หน้าเครียด ถูกทีมเก่าอย่าง เอฟเวอร์ตัน ย้ำแค้น 2-0 ยุติเส้นทางผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย สถิติน่าอายภายใต้กุนซือมอยส์
แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยที่มีแต้มรวมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แน่นอน
นับตั้งแต่ปี 1995 นี่คือครั้งแรกที่ผีแดงชวดเตะฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
แมนฯ ยู ทำสถิติเล่นเกมลีกในบ้านย่ำแย่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ
ผีแดงแพ้ครั้งแรกให้กับ สวอนซี ในประวัติศาสตร์สโมสร
แข้ง "ปิศาจแดง" แพ้ 3 นัดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2001
แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเองครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1972
แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในบ้านตัวเอง ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1978
แพ้เอฟเวอร์ตัน ไป-กลับ ครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1969-70
เป็นครั้งแรกที่ เอฟเวอร์ตัน และลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ แมนฯ ยู ทั้งไปและกลับ ในฤดูกาลเดียวกัน