TXT คัฟเวอร์ Shinee - Replay ในรายการ KBS Song Festival นั้น ร้องสดหรือลิปซิงค์ : by ไลฟ์ซาวด์เอ็นจิเนียร์

# ฮาวทูซิง (How to Sing)

เนื่องจากประเด็นลิปซิงค์ เป็นเรื่องที่นำมาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง  ทั้งในสื่อ SNS ต่างๆ และคอมเม้นท์ช่อง Youtube การแสดงสด
ว่าวงนั้น วงนี้ ลิปซิงค์หรือไม่ อย่างไร ??

สิ่งที่เราจะอธิบายต่อไปเต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคที่ใช้กันในวงการซาวด์เอ็นจิเนียร์  ซึ่งเราพยายามจะอธิบายออกมาให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด
เพราะน้อยคนนักจะได้สัมผัสการทำงานเบื้องหลังการมิกซ์เสียงจริงๆ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
อนึ่ง เราต้องขออภัยแฟนคลับ TXT และพี่น้องค่ายตึกเช่าทุกท่านด้วยที่จะต้องยกเคส "น้องวงนั้น" มาเป็นกรณีศึกษา ซึ่งก็โดนพาดพิงในประเด็นหมิ่นเหม่แบบนี้สาหัสไม่แพ้วงอื่นๆ เช่นกัน

อันดับแรกในการดูว่า วงนั้นวงนี้มาร้องสดหรือลิปซิงค์ ก็จะมีตารางงานที่เรียกว่า "เซ็ตลิสต์" หรือ แผนงานสำหรับ Staff ทุกคนนั่นแหล่ะ
(หาดูได้ก่อนงานจะเริ่ม เพราะเราเห็นชาวเคป๊อบชอบแชร์กันเยอะมาก แทบจะทุกโชว์)

สำหรับคนทำงานด้านเสียงนั้น เซ็ตลิสต์หลักๆจะประกอบไปด้วย ประเภทไมค์ / จำนวนที่ใช้ และ ประเภทของ Backing Track 
โดยหลักๆ ที่นิยมใช้ในวงการเคป๊อบมี 2 อย่าง ได้แก่  MR และ AR 
- MR :  Music Recorded  แปลตามตัวเลยก็คือ แทร็คที่มีแต่เสียงเครื่องดนตรี  หรือภาษาชาวบ้านก็ ไฟล์เพลงคาราโอเกะนั่นแหล่ะ อันเดียวกัน
- AR :  All Recorded  นี่ก็ตรงตัว แปลว่า ไฟล์เพลงที่อัดเสียงทุกอย่างมาหมดแล้ว  ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี
สรุปง่ายๆ  MR เอาไว้สำหรับร้องสดเท่านั้น และอาจประกอบไปด้วยเสียงร้องบางท่อน แอดลิป หรือคอรัส คือจะมีหรือไม่มีก็ได้ แล้วแต่จะดีไซด์เลย

รูป เซ็ตลิสต์ งาน KBS Kayo 2019 : (ตัดมาเฉพาะส่วน)

- จะเห็นว่า ของ TXT เขียนกำกับว่า MR  ส่วนช่องถัดมามีเลข 5  ก็น่าจะหมายถึง ใช้ไมค์แบบหนีบหัว (Head set) 5 ตัว และ อินเอียร์มอนิเตอร์ 5 ตัว
- ส่วนของวงอื่นด้านบนใช้แทร็คเพลงแบบ  Live AR  มีคำว่า Live ด้วยแปลว่า  เปิดไมค์ด้วยนะ แต่ ศลป. จะร้องแบบไม่ออกเสียง
การใช้เทคนิค Live AR ก็เพื่อให้มีเสียงบรรยากาศ หรือเสียงลมหายใจเข้าไมค์บ้าง จะได้ดูเหมือนว่ากำลังร้องสดอยู่ แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ !

# ทีนี้ประเด็นที่วิจารณ์ถัดมาก็คือ  วงนี้เขียน MR กำกับอยู่จริง แต่เสียงร้องก็ยังนิ่งเหมือนลิปซิงค์อยู่ ทั้งที่เต้นแรงขนาดนั้น   มันเป็นไปได้อย่างไร ?
หรือ KBS เขียนเซ็ตลิสต์ไม่ตรงกับความจริง  ค่ายเพลงสมรู้ร่วมคิด   จริงๆแล้ว TXT ใช้แทร็คเพลงแบบ AR  ไม่ใช่  MR  นี่มันแหกตาชัดๆ  !
 KBS  คุณหลอกดาว !!  ....
ซึ่งทั้งหมดที่เขียนมาข้างบน เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  คุณคิดว่าระดับ KBS จะมาเขียนเซ็ตลิสต์เล่นๆ โดยไม่สามารถปฎิบัติงานได้จริงอย่างนั้นหรอ 
ตัดเรื่องคิดไปเองพวกนี้ออกก่อนนะ  เพราะเราเพิ่งเจอหลักฐานมายืนยันว่า การแสดงของ TXT นั้น ยังใช้แทร็คแบบ MR นั่นแหล่ะ
เพียงแต่มันมีอย่างอื่นที่มากกว่านั้น

# ฮาวทูมิกซ์  (How to Mix)

ต่อไปนี้ เราจะอธิบายระบบการมิกซ์เสียงเพื่อออกอากาศแบบคร่าวๆให้คุณฟัง  เปรียบเสมือนว่า 
ถ้าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เสียงก็จะดีขึ้นก็ต้องมีอุปกรณ์เมคอัพเช่นกัน ..  เอ้า ก็ไม่ผิดนี่ ทีคุณยังแต่งหน้าได้ พวกเราก็แต่งเสียงได้เช่นกัน
ก่อนจะมาเข้าคอร์สแต่งเสียง  เราขอแนะนำ Workflow แบบย่อของ Sound production ตั้งแต่เริ่มต้นจนออกอากาศ

นักร้องร้องเพลงใส่ไมค์โครโฟน  --->  สัญญาณเสียงวิ่งเข้า มิกเซอร์ตัวที่ 1 : ของซาวด์เอ็นจิเนียร์   ---->
--->  ซาวด์เอ็นมิกซ์เสียงร้องผสมกับ Backing Track ----->  ซาวด์เอ็นส่งสัญญาณต่อไปยัง มิกเซอร์ตัวที่ 2  : มิกเซอร์สำหรับออกอากาศ

จากขั้นตอนด้านบน คุณจะเห็นว่าจะมีมิกเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเสียงอยู่ด้วยกัน 2 ตัวตามที่ขีดเส้นใต้ไว้ด้านบน
ซึ่งสัญญาณ Output หรือ เสียงเพลงที่ได้จากการปรับแต่งจากมิกเซอร์ทั้งสองตัวนั้น
"เมื่อเปรียบเทียบฟังแล้วจะให้เสียงแตกต่างกัน "

ที่เราบอกเมื่อกี้ว่า เจอหลักฐานยืนยันว่า TXT ร้องเพลง Replay แบบไลฟ์สด (MR)  ไม่ใช่ลิปซิงค์นั้น ก็มาจากคลิปแฟนแคมจากของ Studio K 
รายการมิวสิคแบงค์ ช่อง KBS   ถือว่าเป็นไฟล์ภาพและเสียงแบบ Official แน่นอน
จากประสบการณ์การทำงาน .. เสียงเพลงในคลิป Studio K นี้  เป็นสัญญาณเสียง Output จาก มิกเซอร์ตัวที่ 1 : ของซาวเอ็นจิเนียร์
ต่อไปนี้ขอให้คุณใส่หูฟัง หรือเปิดฟังผ่านลำโพงดีๆ อย่าฟังผ่านลำโพงมือถือนะ เพราะคุณจะได้ยินรายละเอียดไม่ชัดเจน
**ควรดูที่ระดับความชัด 720p ขึ้นไปเพราะจะได้คุณภาพเสียงที่ดี  ใครเปิด 8K ได้ก็เปิดเลยฮะ !
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิปด้านบน เป็นเสียงเพลงที่ได้จากการปรับแต่งจากมิกเซอร์ตัวที่ 1 ของซาวด์เอ็นจิเนียร์
เมื่อโฟกัสฟังให้ดีแล้ว จะพบว่า เนื้อเสียงร้องหนา  มีเสียงเบสเยอะ  ได้ยินเสียงลมหายใจชัดเจน ยิ่งถ้าคุณใส่หูฟัง จะได้ยินเสียงร้องของทุกคนนั้น
ถูกแพนไว้อยู่ตรงกลางพอดี (Center)  เพราะเป็นกฏของซาวด์เอ็นจิเนียร์ทุกคนที่จะมิกซ์เสียงร้องไว้ตรงกลางเสมอ
ส่วนเสียงเครื่องดนตรี เสียงคอรัสอื่นๆ จะถูกแพนออกไปทางซ้ายและขวา เพื่อสร้างมิติสเตอริโอทางการฟัง
เสียงคอรัสที่เป็นท่อนสร้อย เช่น รีเพลย์ รีเพลย์ หรือ อ๊ะๆๆๆ เสียงนี้มันถูกอัดอยู่ในแทร็คเพลงตั้งแต่แรกแล้ว  เหมือนคุณไปร้องคาราโอเกะอ่ะ
คุณก็ไม่จำเป็นต้องร้องคอรัสเองทั้งหมด  ในที่นี้ เราก็จะเน้นไปที่ท่อนร้องต่างๆ ในพาร์ทของแต่ละคนเป็นสำคัญ

สิ่งที่ยืนยันว่าเปิดไมค์อีกอย่าง เช่น ลองสังเกตจังหวะกระโดด นาทีที่ 1.04  ที่จะได้ยินเสียงมือกระแทกไมค์ดังคลิ๊กชัดเจน หรือแม้แต่ตอนตบมือ
เสียงก็ยังเข้าไมค์บางๆ 
สำหรับการแสดงเซ็ตนี้  ส่วนตัวมองว่าไมค์ของบอมกยูกับยอนจุนจะค่อนข้างเบากว่าเพื่อน ขณะที่ของแทฮยอนและฮยูหนิงไคนั้น ดังชัดเจนดี

และเมื่อคุณฟังซาวด์เพลงจากคลิปด้านบนไปแล้ว  ทีนี้เราอยากจะให้กลับไปฟังซาวด์จากคลิปที่ใช้ออกอากาศสดกันบ้าง
เพราะซาวด์ที่ได้นั้น มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ... เอ้า  ใส่หูฟังๆเลย ! >>> 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เสียงเพลงที่ได้จากคลิปช่อง KBS World นั้น Output มาจาก มิกเซอร์ตัวที่ 2 : มิกซ์เซอร์สำหรับออกอากาศ 
ซึ่งจะมีการปรับเสียงต่อจากมิกเซอร์ตัวที่ 1 ด้วยเหตุผลทางเทคนิคในการส่งสัญญาณออกอากาศ

สิ่งแรกก็คือ จะมีแปลงไฟล์ทำให้บิตเรตลดลง  ส่งผลให้คุณภาพเสียงแย่กว่าคลิป Studio K ที่เป็นเสมือน Raw File (ไฟล์เสียงตั้งต้น)
กล่าวคือ  เสียงจะแบน  แห้ง แตก  ฟังแล้วไม่ค่อยมีน้ำมีนวลเท่ากับคลิปแรก (ของ Studio K)   ... ตรงนี้ให้คุณลองฟังสลับกันไปมา

สิ่งที่แตกต่างอย่างที่ 2 ก็คือ  คุณจะไม่ค่อยได้ยินเสียงลมหายใจ หรือเสียงไมค์กระแทกชัดเจนเท่ากับคลิปแรก
เพราะเสียงเหล่านี้จะถูกกรองออกด้วย Filter ชนิดหนึ่ง เพื่อกำจัดเสียงรบกวน เปรียบไปก็เหมือนการทำงานของ Noise Reduction ในโปรแกรมต่างๆ
ซึ่งคนฟังทั่วไป พอไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ หรือเสียงไมค์กระแทก ก็คิดว่าว่า อ้าว ไม่ได้ร้องสดนี่นา  ... ทั้งๆที่มันเป็นคนละเรื่องกันเลย !
แล้ววิธีการที่ว่านี้ จะทำให้เสียงร้องบางลงไปอีก เพราะมันจะลดเสียงเบสในเนื้อร้องออกไปด้วย ทำให้เสียงไม่นุ่มเหมือนคลิป Studio K
แต่ก็แลกมากับซาวด์ที่สะอาดขึ้น เพราะตัดเสียงรบกวนที่ว่าออกไป !

อีกอย่างนึงที่เราสันนิษฐานว่า  ขั้นตอนมิกซ์ออกอากาศใส่เพิ่มลงไปคือ  Plugin ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Multiband Compressor 
คำว่า คอมเพรสเซอร์ แปลว่า "บีบอัด"  เค้าใส่เพื่อทำให้สัญญาณเสียงมีความดังสม่ำเสมอกันมากขึ้นระหว่างออกอากาศ
ซึ่งเจ้า Plugin ตัวนี้ ก็จะยิ่งบีบอัดให้ซาวด์เพลงที่ได้นิ่งขึ้นไปอีกด้วย
จุดๆนี้แหล่ะที่ทำให้เวลาคุณฟังซาวด์จากรายการเพลงมันนิ่ง  ต่อให้นักร้องจะแหกปากดังแค่ไหน มันก็จะฟังดูไม่ดังไปมากกว่านี้
เสียงจะฟังดู stable - เสถียร อย่างที่หลายๆคนชอบพูด ก็มาจากกระบวนการนี้แหล่ะฮะ 
จนเป็นที่มาของคำว่า เต้นสะบัดขนาดนั้นแต่ทำไมเสียงถึงยังนิ่งได้  ก็เพราะผลลัพธ์จาก Processes ทั้งหมดนี้รวมๆกันนั่นเอง !!

ความจริง  การปรับแต่งซาวด์ของคนคุมมิกซ์สำหรับออกอากาศนั้น เป็นอะไรที่ซาวด์เอ็นมิกซ์เพลงไม่ชอบเลย
เพราะว่ามันตัดเนื้อเสียงร้องหนาๆออกไป (เสียงเบส เสียงฮัมเพลงต่ำๆ ลูกคอนุ่มๆ) และการบีบอัดจาก Plugin ที่ว่า
ก็ยังทำให้เพลงสูญเสียความเป็นอคูสติคทางดนตรี  ฟังแล้วทื่อ-แบน ทำลายไดนามิก - ความหนักเบาในการร้องเพลงออกไปเสียเกือบหมด
แม้ว่าเสียงจากคลิป Studio K มันมีเสียงรบกวนเยอะก็จริง แต่ข้อดีก็คือฟังแล้วก็มีความเป็นดนตรีมากกว่า เสียงร้องหนากว่ามากมาย ...

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  สิ่งที่สำคัญกว่าการได้ร้องสด ก็คือการร้องออกมาให้ดี  เพราะวัตถุดิบที่ดีย่อมมีชัยไปแล้วเกินครึ่ง
ถ้าฝึกซ้อมมาไม่ดีพอ  ร้องสดก็เหมือนกับประจานความไม่พร้อมตัวเองไปเช่นกัน  ... ของแบบนี้เหมือนดาบสองคม !

ปล. เราไม่วิจารณ์การร้องเพลงของ TXT ในคลิปนี้นะ   ดีหรือไม่ดี  ชอบหรือไม่ชอบ เป็นรสนิยมส่วนตัว ทุกคนมีมุมมองของตัวเองอยู่แล้ว
แต่ข้อสรุปของคำถามที่ว่า TXT คัฟเวอร์เพลง Replay แล้วลิปซิงค์หรือไม่  คำตอบคือ ไม่ ! ตามเหตุผลดังที่กล่าวมาทั้งหมดด้วยประการละชะนี้

ฝึกฟังรายละเอียดเพลงกันเยอะๆนะฮะ ชาวเคป๊อบที่ร้าก ^^

***แก้ไขคำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่