ถึงแม้บรรดาผู้จัดการทีมและนักเตะหลายคนในลีกของประเทศอังกฤษจะไม่ชอบที่ต้องลงเล่นใน บ็อกซิ่ง เดย์ หรือวันที่ 26 ธันวาคมเท่าไหร่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ติดตัววงการฟุตบอลอังกฤษไปแล้ว หลังจากพวกเขาเป็นลีกของประเทศใหญ่ๆ เพียงชาติเดียวที่ยังเตะกันในวันดังกล่าว ทั้งที่ลีกอื่นๆ เขาหยุดพักกัน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อจาก "ดิวิชั่น 1" มาเป็น พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1992-93 มันก็มีเกมที่เข้าขั้น "เกมแห่งความทรงจำ" ในโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ หลายเกม อย่างเช่นเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ โคเวนทรี 3-3 เมื่อปี 1997 หรือเกมที่ เชลซี กับ แอสตัน วิลล่า ยิงกันสนุกจนเจ๊าไปแบบสุดมันส์ 4-3 เมื่อปี 2007 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คอบอลอังกฤษหลายคนต่างก็มีความเห็นตรงกันว่าโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ ปีที่สนุกที่สุดคือปี 1963 เพราะในปีนั้นมันมีการทำประตูกันครบ 10 คู่ที่ลงเล่นในวันนั้น และจำนวนประตูของทั้ง 10 เกมรวมกันก็อยู่ที่ 66 ลูกเลยทีเดียว
สำหรับคู่ที่มีการทำประตูมากที่สุดได้แก่เกมที่ ฟูแล่ม เปิดบ้านเจอกับ อิปสวิช ทาวน์ ซึ่งที่จริงถ้าจะเปลี่ยนเป็น "ฟูแล่ม ทำประตูมากที่สุด" ก็คงไม่ผิด เพราะเกมนั้นทัพ "เจ้าสัวน้อย" รัวกันกระจายจนชนะไปแบบขาดลอยถึง 10-1 และจนถึงทุกวันนี้นั่นก็เป็นเกมที่ ฟูแล่ม เอาชนะในลีกด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แถมมันก็เป็นเกมลีกที่ อิปสวิช แพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดของทีมมาจนถึงตอนนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ พระเอกในเกมนั้นของ ฟูแล่ม คือ กราแฮม เล็กกาต ที่ทำคนเดียว 4 ลูก แถมเขายังทำแฮตทริกได้ในช่วงเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น จนทำให้เขาสร้างสถิติทำแฮตทริกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ดิวิชั่น 1
ขณะที่ทีมใหญ่ในยุคปัจจุบันก็อยู่ในลีกสูงสุดของสมัยนั้นหลายทีม อย่างเช่น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นต้น แต่ฝั่ง "ปีศาจแดง" ถือว่าเจอ บ็อกซิ่ง เดย์ แห่งฝันร้าย เพราะพวกเขาออกไปแพ้ เบิร์นลี่ย์ แบบหมดสภาพ 1-6
ในเกมนั้นถึงแม้ เบิร์นลี่ย์ จะออกนำไปก่อน แต่ทีมเยือนก็ตีเสมอได้จาก เดวิด เฮิร์ด อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เบิร์ยลี่ย์ ก็มารัวอีก 4 ลูก โดยคนที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างมากของ เบิร์นลี่ย์ ในเกมนั้นคือ แอนดี้ ลอชเฮ้ด ที่ทำไป 4 ประตู
ที่จริงวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มี เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน สตาร์ดังของทีมลงเล่นด้วย แต่ ชาร์ลตัน ก็ไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้มากนัก นอกจากจะเป็นคนแรกที่ยิงตรงกรอบของทีมในเกมดังกล่าว
ฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันนั้นตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล เพราะขุนพล "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มโหดด้วยการเปิดบ้านไล่ถล่ม สโต๊ค ซิตี้ 6-1 โดยที่จริงในวันนั้นพอถึงช่วงพักครึ่งแล้ว ลิเวอร์พูล ยังนำอยู่แค่ 1-0 จากผลงานอง เอียน เซนต์ จอห์น ในนาทีที่ 9
อย่างไรก็ตาม พอเข้าครึ่งหลังลูกทีมของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ก็รัวเพิ่มถึง 5 ประตู โดยที่ โรเจอร์ ฮันท์ คือคนที่เหมาคนเดียว 4 ลูก ซึ่งสุดท้ายแล้วในซีซั่นนั้น ฮันท์ ก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม จากการทำไปคนเดียวถึง 31 ลูก
ผลการแข่งขันในโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ที่แตกต่างกันของ 2 อริสีแดงมันส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 1963-64 ไปครองในบั้นปลาย โดยพวกเขามีคะแนนมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด 4 แต้ม (สมัยนั้นใช้ระบบทีมชนะได้ 2 คะแนน) และมันก็ถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ซีซั่น 1946-47 ด้วย
ในโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ของปี 1963 ยังมีเกมที่ยิงกันกระจุยกระจายอีกหลายเกม หนึ่งในนั้นคือนัดที่ แบล็คเบิร์น เปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม 8-2 โดยตอนนั้น แบล็คเบิร์น นำเป็นจ่าฝูงของลีกอยู่ด้วย แต่สุดท้ายชัยชนะนัดนี้ก็ไม่มีค่าอะไร เพราะสุดท้ายพวกเขาได้เพียงอันดับ 7 ในลีก
ขณะที่ เชลซี ก็มีวันที่แสนสุขในวันนั้น เพราะพวกเขาบุกไปชนะ แบล็คพูล 5-1 ส่วน สเปอร์ส ที่ต้องไปเยือน เวสต์บรอมฯ ก็มีเกมที่สนุกระดับ 5 ดาว จนสุดท้ายเสมอกัน 4-4
ทั้งนี้ โดยรวมแล้วโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ในปีนั้น มีนักเตะที่ทำแฮตทริกได้ถึง 7 คนเลยทีเดียว
สรุปผลการแข่งขันโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ของ ดิวิชั่น 1 ในปี 1963 (ทีมที่อยู่ข้างหน้าคือทีมที่เป็นเจ้าบ้าน)
- แบล็คพูล 1-5 เชลซี
- เบิร์นลี่ย์ 6-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
- ฟูแล่ม 10-1 อิปสวิช
- เลสเตอร์ 2-0 เอฟเวอร์ตัน
- ลิเวอร์พูล 6-1 สโต๊ค
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-3 เชฟฯ ยูไนเต็ด
- เชฟฯ เว้นส์เดย์ 3-0 โบลตัน
- เวสต์บรอมฯ 4-4 สเปอร์ส
- เวสต์แฮมฯ 2-8 แบล็คเบิร์น
- วูล์ฟส์ 3-3 แอสตัน วิลล่า
cr :
https://www.siamsport.co.th/football/premierleague/view/167335
1963 บ็อกซิ่ง เดย์ ที่ (ว่ากันว่า) ดีที่สุดตลอดกาล
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อจาก "ดิวิชั่น 1" มาเป็น พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 1992-93 มันก็มีเกมที่เข้าขั้น "เกมแห่งความทรงจำ" ในโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ หลายเกม อย่างเช่นเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ โคเวนทรี 3-3 เมื่อปี 1997 หรือเกมที่ เชลซี กับ แอสตัน วิลล่า ยิงกันสนุกจนเจ๊าไปแบบสุดมันส์ 4-3 เมื่อปี 2007 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คอบอลอังกฤษหลายคนต่างก็มีความเห็นตรงกันว่าโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ ปีที่สนุกที่สุดคือปี 1963 เพราะในปีนั้นมันมีการทำประตูกันครบ 10 คู่ที่ลงเล่นในวันนั้น และจำนวนประตูของทั้ง 10 เกมรวมกันก็อยู่ที่ 66 ลูกเลยทีเดียว
สำหรับคู่ที่มีการทำประตูมากที่สุดได้แก่เกมที่ ฟูแล่ม เปิดบ้านเจอกับ อิปสวิช ทาวน์ ซึ่งที่จริงถ้าจะเปลี่ยนเป็น "ฟูแล่ม ทำประตูมากที่สุด" ก็คงไม่ผิด เพราะเกมนั้นทัพ "เจ้าสัวน้อย" รัวกันกระจายจนชนะไปแบบขาดลอยถึง 10-1 และจนถึงทุกวันนี้นั่นก็เป็นเกมที่ ฟูแล่ม เอาชนะในลีกด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แถมมันก็เป็นเกมลีกที่ อิปสวิช แพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดของทีมมาจนถึงตอนนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ พระเอกในเกมนั้นของ ฟูแล่ม คือ กราแฮม เล็กกาต ที่ทำคนเดียว 4 ลูก แถมเขายังทำแฮตทริกได้ในช่วงเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น จนทำให้เขาสร้างสถิติทำแฮตทริกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ดิวิชั่น 1
ขณะที่ทีมใหญ่ในยุคปัจจุบันก็อยู่ในลีกสูงสุดของสมัยนั้นหลายทีม อย่างเช่น ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นต้น แต่ฝั่ง "ปีศาจแดง" ถือว่าเจอ บ็อกซิ่ง เดย์ แห่งฝันร้าย เพราะพวกเขาออกไปแพ้ เบิร์นลี่ย์ แบบหมดสภาพ 1-6
ในเกมนั้นถึงแม้ เบิร์นลี่ย์ จะออกนำไปก่อน แต่ทีมเยือนก็ตีเสมอได้จาก เดวิด เฮิร์ด อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เบิร์ยลี่ย์ ก็มารัวอีก 4 ลูก โดยคนที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างมากของ เบิร์นลี่ย์ ในเกมนั้นคือ แอนดี้ ลอชเฮ้ด ที่ทำไป 4 ประตู
ที่จริงวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มี เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน สตาร์ดังของทีมลงเล่นด้วย แต่ ชาร์ลตัน ก็ไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้มากนัก นอกจากจะเป็นคนแรกที่ยิงตรงกรอบของทีมในเกมดังกล่าว
ฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันนั้นตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล เพราะขุนพล "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มโหดด้วยการเปิดบ้านไล่ถล่ม สโต๊ค ซิตี้ 6-1 โดยที่จริงในวันนั้นพอถึงช่วงพักครึ่งแล้ว ลิเวอร์พูล ยังนำอยู่แค่ 1-0 จากผลงานอง เอียน เซนต์ จอห์น ในนาทีที่ 9
อย่างไรก็ตาม พอเข้าครึ่งหลังลูกทีมของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ก็รัวเพิ่มถึง 5 ประตู โดยที่ โรเจอร์ ฮันท์ คือคนที่เหมาคนเดียว 4 ลูก ซึ่งสุดท้ายแล้วในซีซั่นนั้น ฮันท์ ก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม จากการทำไปคนเดียวถึง 31 ลูก
ผลการแข่งขันในโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ที่แตกต่างกันของ 2 อริสีแดงมันส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 1963-64 ไปครองในบั้นปลาย โดยพวกเขามีคะแนนมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด 4 แต้ม (สมัยนั้นใช้ระบบทีมชนะได้ 2 คะแนน) และมันก็ถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ซีซั่น 1946-47 ด้วย
ในโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ของปี 1963 ยังมีเกมที่ยิงกันกระจุยกระจายอีกหลายเกม หนึ่งในนั้นคือนัดที่ แบล็คเบิร์น เปิดบ้านถล่ม เวสต์แฮม 8-2 โดยตอนนั้น แบล็คเบิร์น นำเป็นจ่าฝูงของลีกอยู่ด้วย แต่สุดท้ายชัยชนะนัดนี้ก็ไม่มีค่าอะไร เพราะสุดท้ายพวกเขาได้เพียงอันดับ 7 ในลีก
ขณะที่ เชลซี ก็มีวันที่แสนสุขในวันนั้น เพราะพวกเขาบุกไปชนะ แบล็คพูล 5-1 ส่วน สเปอร์ส ที่ต้องไปเยือน เวสต์บรอมฯ ก็มีเกมที่สนุกระดับ 5 ดาว จนสุดท้ายเสมอกัน 4-4
ทั้งนี้ โดยรวมแล้วโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ในปีนั้น มีนักเตะที่ทำแฮตทริกได้ถึง 7 คนเลยทีเดียว
สรุปผลการแข่งขันโปรแกรม บ็อกซิ่ง เดย์ ของ ดิวิชั่น 1 ในปี 1963 (ทีมที่อยู่ข้างหน้าคือทีมที่เป็นเจ้าบ้าน)
- แบล็คพูล 1-5 เชลซี
- เบิร์นลี่ย์ 6-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
- ฟูแล่ม 10-1 อิปสวิช
- เลสเตอร์ 2-0 เอฟเวอร์ตัน
- ลิเวอร์พูล 6-1 สโต๊ค
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-3 เชฟฯ ยูไนเต็ด
- เชฟฯ เว้นส์เดย์ 3-0 โบลตัน
- เวสต์บรอมฯ 4-4 สเปอร์ส
- เวสต์แฮมฯ 2-8 แบล็คเบิร์น
- วูล์ฟส์ 3-3 แอสตัน วิลล่า
cr : https://www.siamsport.co.th/football/premierleague/view/167335